Toggle navigation
หน้าแรก
ศาสนา
ฟัตวา
ความเคลื่อนไหว
บริการสังคม
ติดต่อเรา
คลังความรู้
ความรู้เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนในอิสลาม
การละเมิดสิทธิมนุษยชนเป็นปัญหาที่ปรากฎมาช้านาน ทุกยุคทุกสมัย แต่กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาระดับโลกเพราะมีปรากฎให้เห็นมาตลอดทั่วเกือบทุกประเทศทั่วโลก
เป้าหมายการหาความรู้ในอิสลาม
หากว่าเราปราศจากความรู้ ชีวิตมนุษย์ที่ปราศจากความรู้ก็ไม่ต่างอะไรกับคนๆหนึ่งเดินทางในความมืด โดยปราศจากแสงสว่างคอยนำทาง
สิทธิและหน้าที่ของการเป็นเพื่อนในด้านการเงิน
เมื่อท่านสังเกตเห็นพี่น้องมีความจำเป็นและท่านมีทรัพย์สินเหลือพอ ท่านต้องเป็นฝ่ายเข้าเสนอความช่วยเหลือโดยไม่รอให้เขาต้องขอ
กฎว่าด้วยเรื่องการอ้างหลักฐานจากตัวบทศาสนา
ดังนั้นการยอมจำนนต่อคำสั่งใด คำสั่งหนึ่งของอัลลอฮ์ และร่อซูล จึงถึอว่าเป็นสิ่งจำเป็น ไม่อนุญาตให้มนุษย์คนใดจะมีอิสระในการเลือกว่าจะทำ หรือไม่ทำ
ความรู้ที่ยังประโยชน์
บุคคลผู้มีความรู้ความเข้าใจนั้น คือ บุคคลที่ไม่ปรารถนาในดุนยา มุ่งมาดในอาคิเราะฮฺ มีวิสัยทัศน์อันชัดเจนในเรื่องศาสนาของตน
ใคร คือแบบอย่างในเรื่องศาสนา
แท้จริงสัจธรรมและทางนำได้วนเวียนอยู่กับบรรดาพวกเขา ไม่ว่าพวกท่านจะย่างกายไปที่ใด และพวกท่านไม่เคยรวมตัวกันอยู่บนความหลงผิด
ผู้รู้ที่สมควรได้รับเกียรติ...
ฐานะตำแหน่งของผู้รู้ในอิสลามจึงมีคุณค่า และมีเกีรยติ ณ ที่พระองค์ แต่ผู้สมควรจะได้รับเกียรติ แห่งการสืบสายมรดกนี้
สาเหตุของการสุญูดสะหวี่
ผู้ที่ละเว้นไม่ปฏิบัติสิ่งที่เป็นวาญิบเหล่านั้น อาจเป็นไปได้สองลักษณะคือ โดยตั้งใจและโดยหลงลืม หากละทิ้งโดยตั้งใจละหมาดของเขาเสีย
การสุญูดสะห์วี่
การสุญูดสะห์วี่จึงหมายถึง การสุญูดที่ศาสนากำหนดให้กระทำเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องอันเกิดจากการหลงลืมที่เกิดขึ้นในขณะละหมาดนั้น
ชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการซิกรุ้ลลอฮ์และการดุอาอ์หลังละหมาด
แท้จริงพวกท่านมิได้ วิงวอนขอต่อผู้ที่หูหนวกหรืออยู่ลับหลัง แท้จริงพระองค์ทรงอยู่ กับพวกท่าน พระองค์ทรงได้ยินและอยู่ใกล้ ผู้ทรงมีพระนามอันจำเริญและสูงส่งยิ่ง
วะสะฏียะฮฺ ด้านความปานลางและความสมดุล
“อุมมะตัน วะสะฏอ” คือประชาชาติที่หลักความเชื่อ (อะกีดะฮฺ) และบทบัญญัติ (ชะรีอะฮฺ) ของพวกเขามีความโดดเด่นด้านความปานกลางระหว่างสองขั้วลบของความเลยเถิด
วะสะฏอ : ความเที่ยงธรรม
รากฐานของ วะสะฏียะฮฺ คือความเที่ยงธรรม โดยที่นโยบายของอัลกุรอานและสุนนะฮฺของท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม วางอยู่บนหลักแห่งความเที่ยงธรรม
สิ่งล้ำค่าอันใดจะยิ่งใหญ่ไปกว่าความรู้
ความรู้
คือ ยากันลืม คือ หนทางสู่ความสำเร็จ เป็นหนทางสู่สวนสวรรค์ เป็นเกียรติของเจ้าตัว เป็นเส้นทางบารอกะฮฺ ให้เกิดผลบุญอยู่ตลอดกาล
เชื่อตามการวินิจฉัยของนักวิชาการ ?
แท้จริงผู้ที่ถูกต้องจากพวกเขานั้นมีคนเดียว และหากไม่ชัดเจนก็ตาม และแท้จริงทั้งหมดในหมู่พวกเขาผิดพลาด ยกเว้น คนเดียว
การฝังศพ และ การเยี่ยมสุสาน
ส่วนการทำหลุมศพให้สูงเด่น การก่อสิ่งปลูกสร้างหรือทำโดมหลังคาเหนือหลุมศพนั้น ล้วนเป็นสิ่งที่ไม่มีในแบบฉบับของท่านนบี
การละหมาดญะนาซะฮฺ
ในขณะที่หนี้สินนั้นจะยังคงติดตัวผู้ตาย โดยเขาจะไม่ได้เข้าสวรรค์จนกว่าหนี้ดังกล่าวจะได้รับการชดใช้สะสาง
การจัดการศพ
ท่านยังใช้ให้ผู้ที่อยู่กับผู้ป่วยใกล้ตายสอนให้เขากล่าวชะฮาดะฮฺปฏิญาณว่า “ลาอิลาฮะ อิลลัลลอฮฺ” เป็นคำกล่าวสุดท้ายก่อนสิ้นลมหายใจ
เตือนไม่ให้เกียจคร้าน
หนึ่งในลักษณะนิสัยที่อัลลอฮฺและเราะสูลของพระองค์รังเกียจคือ ความเกียจคร้าน
ทางสายกลางแท้ และ ทางสายกลางเทียม
“วะซะฏียะฮฺ” นั้น เป็นอีกคำหนึ่งที่ถูกยกขึ้นมาใช้ตามวิธีการ ในการลวงหลอกเพื่อปลุกปั่นกระแส “หลับตาหนึ่งข้างแล้วจับมือกัน”
อะฮฺลุซซุนนะฮฺวัลญะมาอะฮ์ ไม่เกี่ยวข้องกับ อะชาอิเราะฮ์ (3)
คนพวกนี้เขามองกันว่า การจับอาวุธขึ้นมาประหัตประหารชาวกิบละฮฺเป็นเรื่องที่ทำได้
อะฮฺลุซซุนนะฮฺวัลญะมาอะฮ์ ไม่เกี่ยวข้องกับ อะชาอิเราะฮ์ (2)
แต่เพียงไม่ทันไรพวกอะชาอิเราะฮฺเองกลับทำลายพื้นฐานเหล่านี้ลงเสียหมด พวกเขาทำลายบ้านของพวกเขาด้วยน้ำมือของพวกเขาเอง
อะฮฺลุซซุนนะฮฺวัลญะมาอะฮ์ ไม่เกี่ยวข้องกับ อะชาอิเราะฮ์ (1)
นักตรรกะทุกคนคือ พวกตามอารมณ์และพวกอุตริ ไม่ว่าเขาผู้นั้นจะเป็นพวกอะชาอิเราะฮฺหรือไม่ใช่อะชาอิเราะฮฺก็ตาม
กิยามุลลัยลฺ
ดังนั้นจึงจำเป็นที่เราจะต้องรักษาการงานที่ดีนี้ไว้ตลอดไป เพื่อที่คำวิงวอนขอของเราจะได้รับการตอบรับ
ละหมาดดุฮา
ทำไมพวกท่านถึงให้บ่าวของอัลลอฮฺต้องแบกรับภาระในสิ่งที่อัลลอฮฺมิได้บังคับให้พวกเขาแบกรับด้วยเล่า ?
การขอฝน
ถ้าเขาเป็นนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัมจริง ก็คงจะขอฝนให้พวกพ้องของเขาได้ ดังเช่นที่นบี มูซาได้เคยขอฝนให้แก่กลุ่มชนของท่าน
..
7
8
9
10
11
..