ความเป็นหลักฐานของอัสสุนนะฮฺในทางศาสนามัซฮับชาฟีอีย์
  จำนวนคนเข้าชม  7331


ความเป็นหลักฐานของอัสสุนนะฮฺในทางศาสนามัซฮับชาฟีอีย์


 ดร.อาหมัด อัลฟารีตีย์


          บรรดาอุละมาอฺทั้งหลายได้มีมติเป็นเอกฉันท์และเห็นพ้องต้องกันว่า “อัสสุนนะฮฺ” ถือเป็นหลักฐานสำคัญทางศาสนา ไม่ว่าเป็นหลักฐานในลักษณะที่มาเพื่ออธิบายในสิ่งที่มีอยู่ในอัลกุรอาน หรือในลักษณะเอกเทศที่มีอยู่เฉพาะในอัสสุนนะฮฺ เท่านั้น ท่านอิหม่ามอัช-เชากานีย์ กล่าวว่า

( إن ثبوت حجية السنة المطهرة واستقلالها بتشريع الأحكام ضرورة دينية ولا يخالف في ذلك إلا من لا حظ له في الإسلام )

         “การยอมรับต่อความเป็นหลักฐานของอัสสุนนะฮฺ ที่บริสุทธิ์ และความเป็นหลักฐานได้โดยเอกเทศของมันในการบัญญัติหุกมต่างๆนั้น ถือเป็นสิ่งจำเป็นทางศาสนา ที่ไม่มีผู้ใดเห็นขัดแย้งไปจากนี้ นอกจากผู้ที่ปราศจากโชคผลใดๆในอิสลามเท่านั้น”

 

          คำกล่าวข้างต้นย่อมเป็นจริงแล้ว เพราะจะพบว่าไม่มีผู้ใดที่แสดงการขัดแย้งกับหลักฐานจากอัสสุนนะฮฺ อย่างชัดเจน นอกจากพวกเคาะวาริจญ์ และ เราะวาฟิฎ (ชีอะฮฺ) เท่านั้น เนื่องจากพวกเขาจะอาศัยเพียงหลักฐานที่ปรากฏเปิดเผย(ศอฮิร)จากอัล-กุรอานเท่านั้น แต่จะมองข้ามสิ่งที่เป็นสุนนะฮฺ ต่างๆไป จึงทำให้พวกเขาหลงผิดและเบี่ยงเบนออกไปจากหนทางที่เที่ยงตรง

 

         มีอายะฮฺ หะดีษ คำกล่าวของเศาะหาบะฮฺและของนักปราชญ์อีกมากมาย แสดงถึงความจำเป็นที่มุสลิมจะต้องเอาแบบอย่างจากนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เพื่อเป็นการตะอฺซีมและยึดอัสสุนนะฮฺเป็นวิถีชีวิตด้วยการเรียนรู้และปฏิบัติ เช่นคำตรัสของอัลลอฮ์

{ لَقَدْ كَانَ لَكُمْ فِى رَسُوْلِ اللهِ أُسْوَةٌ حَسَنَةٌ } 

" โดยแน่นอน ในเราะซูลของอัลลอฮฺมีแบบฉบับอันดีงามสำหรับพวกเจ้า"

( อัลอัหฺซาบ:21)

« فَمَنْ رَغِبَ عن سُنَّتِي فَلَيْسَ مِنِّي»( رواه البخارى ومسلم )

"ดังนั้นใครก็ตามที่ปฏิเสธแบบฉบับของฉัน เขาไม่ใช่พวกของฉัน” 

(รายงานโดยบุคอรีและมุสลิม)

ท่านอับดุลลอฮฺ อิบนุ มัสอูดกล่าวว่า

( اِتَّبِعُوْا وَلاَ تَبْتَدِعُوْا فَقَدْ كُفِيتُم)

" จงปฏิบัติตามและอย่าสร้างอุตริ แท้จริงมันถูกทำให้พอเพียง(ครบถ้วนสมบูรณ์)สำหรับพวกคุณแล้ว"  

(อัดดาริมีย์, สุนัน อัดดาริมีย์, หน้า 65)

ท่านอัซซุฮรีย์กล่าวว่าฉันได้รับคำกล่าวจากนักวิชาการหลายท่านกล่าวว่า

( الإعتصام بالسنة نجاة )       "การยึดมั่นในสุนนะฮฺเป็นทางรอดของชีวิต"

(อัดดาริมีย์, สุนัน อัดดาริมีย์, หน้า 96)

 

อุละมาอฺมัซฮับชาฟิอีย์

          มัซฮับอิมามชาฟิอีย์เป็นมัซฮับหนึ่งที่รวยด้วยบุคลากรอุละมาอฺ ในบรรดาพวกเขามีอุละมาอฺที่อยู่ในระดับแนวหน้าและเป็นคลังแห่งวิชาความรู้ที่เป็นแหล่งอ้างอิงในหลายๆด้าน มีทั้งด้านวิชาตัฟสีรเป็นที่รู้จักกัน อย่างเช่น ตัฟสีรอิบนุ กะษีร ตัฟสีรอัลบะเฆาะวีย์ ตัฟสีรอัลญะลาไลยน์ ด้านฟิกฮฺ เช่น กิตาบ อัลอุมมฺของอิมามชาฟิอีย์ กิตาบ อัลหาวีย์อัลกะบีรของอัลมาวัรดีย์ กิตาบอัลบะสีฏ อัลวะสีฏและ อัลวะญีซของอัลเฆาะซาลีย์ กิตาบฟัตหฺอัลอะซีซของ อัรรอฟิอีย์ กิตาบมัจญ์มูอฺของอิหม่ามนะวะวีย์ กิตาบตุหฺฟะฮฺอัลมุหฺตาจญ์ของอลฮัยตะมีย์ เป็นต้น

 

          ในด้านหะดีษ ก็มีหลายตำรา เช่น กิตาบสุนันอันนะสาอีย์ของอันนะสาอีย์ กิตาบอัสสุนันอัลกุบรอของอัลบัยหะกีย์ กิตาบชัรหฺอัสสุนนะฮฺของอัลบะเฆาะวีย์ กิตาบชัรหฺเศาะหี๊หฺ มุสลิม ริยาฎูศสอลิหีนและอัลอัรบะอูนอันนะวะวียะฮฺของอันนะวะวีย์ กิตาบฟัตหฺอัลบารีย์ของอิบนุ หะญัรอัสเกาะลานีย์ เป็นต้น

 

          อุละมาอฺหลายท่านโดยเฉพาะอุละมาอฺร่วมสมัยที่มีระดับผู้นำในด้านวิชาหะดีษ เช่น ชัยค์อะหมัด ชากิร ¹  ชัยค์อัลอัลบานีย์และอื่นๆ ก็ยอมรับว่า มัซฮับชาฟิอีย์เป็นมัซฮับที่ใกล้ชิดกับสุนนะฮฺและอุละมาอฺมัซฮับนี้มีบทบาทมากที่สุดในการให้บริการวิชาการด้านสุนนะฮฺ ซึ่งไม่เป็นสิ่งที่แปลก เพราะผู้ก่อตั้งมัซฮับนี้ คืออิมามชาฟิอีย์เป็นผู้ที่นำสุนนะฮฺกลับมามีบทบาทในด้านกฎหมายอิสลามและในด้านการปฏิบัติจนเขาได้รับสมญาว่าเป็น นาศิรุสสุนนะฮฺ หมายถึงผู้ค้ำจุนสุนนะฮฺ และท่านเป็นมุญัดดิดผู้ฟื้นฟูศาสนาของอัลลอฮฺในรอบร้อยปีที่สองด้วย

 

 

 


 

1 ดู อัชชาฟิอีย์, อัรริสาละฮฺ, หน้า5-8 ตัหฺกีกโดยอะหมัด ชากิร