ความสำคัญของสถาบันครอบครัวในอิสลาม
โดย ปริญญา ประหยัดทรัพย์
อิสลามถือว่าโดยสิทธิ์ขั้นพื้นฐานของมนุษย์แล้วสตรีย่อมมีฐานะที่ทัดเทียมกันกับบุรุษเพศ และอิสลามถือว่าสัมพันธภาพระหว่างสองเพศดังกล่าว ควรต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเอื้ออาทร ความห่วงใย ความรัก และโอบอ้อมอารีที่อยู่ในกรอบของศาสนา ต่างฝ่ายต่างปฏิบัติหน้าที่ให้ดีที่สุดเพื่อรังสรรค์ จรรโลงสังคมที่เปี่ยมสุข ครอบครัว คือ เสาหลักที่ค้ำจุนการพัฒนาสังคม การแต่งงานและใช้ชีวิตฉันสามีภรรยา คือ มาตรการหลักในการเสริมสร้างครอบครัวอันอบอุ่น
ในระบบเศรษฐกิจปัจจุบัน การมุ่งเน้น การแข่งขันเพื่อสร้างความมั่งคั่ง และก้าวหน้าทางรายได้ ทำให้ประชาสังคมมีความเป็นวัตถุนิยมมากขึ้น ความร่ำรวยมักเป็นตัวชี้วัดคุณค่าของคนมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้การแสวงหาความร่ำรวยเป็นตัวกำหนดพฤติกรรมต่าง ๆ ในสังคม โดยไม่คำนึงถึงพฤติกรรมที่นำมาสู่ความร่ำรวยเหล่านั้นจะขัดต่อหลักทางศีลธรรม คุณธรรม และจริยธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาคนหนุ่มสาวที่กำลังสำลักกับกระแสคลื่นแห่งอารยธรรมแสงเสียง และความสัมพันธ์อันไร้ขอบเขตระหว่างหญิงชาย อันก่อให้เกิดอาชญากรรมทางสังคมที่สะเทือนอกสะเทือนใจเป็นอย่างยิ่ง
อาจกล่าวได้ว่าสังคมในปัจจุบันมีความเจริญทางวัตถุ แต่เกิดความเสื่อมเสีย อักเสบทางจิตใจและค่านิยม ความเจริญ และความมั่งคั่งของสังคมมักจะต้องแลกเปลี่ยนกับความสูญเสียของคุณธรรม และจริยธรรมควบคู่กันไปเสมอ
สังคมปัจจุบันกำลังเผชิญกับโรคพร่องทางจิตใจ ขาดเซรุ่มทางจิตวิญญาณที่อยู่ในระดับที่น่าเป็นห่วงมาก หากเราศึกษาเชิงลึก สภาพปัญหาในแต่ละครอบครัวซึ่งเป็นระบบย่อยที่เล็กที่สุดของสังคมเป็นอย่างดีแล้ว เราจะพบข้อสรุปว่า ปัญหาดังกล่าวได้ลุกลามและเรื้อรังจนถึงขั้นวิกฤติเลยทีเดียว
การเลือกคู่ครองที่ดี
อันคุณลักษณะของสตรี 4 ประการที่ท่าน นบีมูฮำหมัด กล่าวไว้ว่า
"สตรีเพศ จะถูกสมรสด้วยคุณลักษะ 4 ประการ ด้วยทรัพย์สมบัติของนาง รูปสมบัติของนาง วงศ์ตระกูลของนาง และศาสนาของนาง
ดังนั้น จงเลือกเอาศาสนา ท่านจะพบกับความผาสุขในชีวิต"
(บุคอรี)
ในฮาดิษบทนี้จะเห็นได้ว่า ท่านนบีมูฮำหมัด ตอกย้ำและเน้นให้เลือกสตรีที่มีศาสนา มุสลีมะห์ทุกคนมีศาสนา แต่เป้าหมายที่จะเอาคือ สตรีที่ปฏิบัติตามหลักการอิสลามครบสมบูรณ์และประพฤติตัวอยู่ในครรลองขอบข่ายของอิสลาม เรียกว่า “สตรีซอลิฮะหฺ” เหตุนี้เองท่านนบีมูฮำหมัด จึงกล่าวว่า
" สิ่งที่มีในโลกทั้งหมดเป็นเครื่องประดับ และเครื่องประดับที่ดีที่สุดในโลกคือ “สตรีที่ดี”
(มุสลิม – นะซาอี)
โดยภาพลักษณ์แห่งการสร้างครอบครัวที่ดีตามแบบฉบับอิสลามนั้น ท่านนบี ได้ให้ข้อคิดและอุทาหรณ์แก่เราไว้
" ผู้ใดที่สมรสกับสตรีเพื่อเกียรติยศชื่อเสียงของเธอ อัลเลาะฮฺจะไม่เพิ่มเกียรติยศชื่อเสียงแก่เขา นอกจากความต่ำต้อย และ
ผู้ใดสมรสเพื่อทรัพย์สมบัติของเธอ อัลเลาะฮฺจะไม่เพิ่มทรัพย์สมบัติแก่เขา นอกจากความยากจน
ผู้ใดสมรสเพื่อวงศ์ตระกูลของเธอ อัลเลาะฮฺจะไม่เพิ่มตระกูลที่ดีแก่เขา นอกจากความต่ำช้า และ
ผู้ใดที่สมรสกับสตรี โดยที่เขาไม่ต้องการสิ่งใดจากเธอ นอกจากเพื่อให้สายตาของเขาลดต่ำลง และเพื่อปกป้องอวัยวะเพศของเขา หรือเพื่อให้ได้รับความเมตตาจากพระองค์ อัลเลาะฮฺจะทรงประทานความจำเริญศิริมงคลแก่เขาในตัวเธอ และความศิริมงคลแก่เธอในตัวเขา "
(บันทีกโดย อิบนุ ฮิ๊บบาน)
จรรยาบรรณในชีวิตคู่
การแต่งงานเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตครอบครัวซึ่งเป็นฐานรากของสังคมและอารยธรรมของมวลมนุษยชาติครอบครัวเป็นอิฐก้อนแรกของอาคารแห่งสังคม เป็นสถาบันอันแข็งแกร่งในการคัดสรร และตระเตรียมคนรุ่นใหม่ที่จะเป็นพลังอันเข้มแข็งของสังคมในอนาคต หากครอบครัวมีความแข็งแรง มีความรัก อบอวลด้วยไออุ่น แน่นอนที่สุดสังคมก็จะมีความมั่นคง และสามารถสร้างอนาคตที่ดีให้แก่สังคมได้ ดังนั้นอิสลามจึงให้ความสำคัญในเรื่องของครอบครัวเป็นอย่างมาก
และเนื่องจากสามีภรรยาเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตครอบครัว อิสลามจึงได้กำหนดกรอบแห่งจรรยาบรรณของสามีภรรยาไว้ เพื่อความเป็นปึกแผ่น มั่นคงของครอบครัวด้วยประการดังต่อไปนี้
1. สามีภรรยา ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตใจต่อกัน มอบความรัก ความเมตตา ความเอ็นดู ความรับผิดชอบในหน้าที่ของกันและกัน สิทธิ ดังกล่าวนี้คือ เป็นหน้าที่ทางศาสนาที่ทั้งสองฝ่ายพึงปฏิบัติต่อกันให้ครบถ้วน เพราะหน้าที่ดังกล่าวนี้จะต้องได้รับการสอบสวนต่อเบื้องพระพักตร์ของ อัลเลาะฮฺในวันแห่งการตัดสิน
2. อย่าตำหนิติเตียนข้อบกพร่องของกันและกันต่อหน้าคนอื่นหรือแม้แต่ต่อหน้าลูกไม่ว่าจะในด้านใดก็ตาม หากต่างฝ่ายต่างมองในสิ่งที่ดีและยอมรับหรือให้อภัยต่อความบกพร่องของกันและกัน ที่สุดแล้วความชิงชังรังเกียจต่อกันก็จะไม่เกิดขึ้นในสภาบันครอบครัว
3. สามีคือบุคคลที่ภรรยาต้องเชื่อฟังและปฏิบัติตามเป็นคนแรก หากภรรยาดื้อรั้นดันทุรังไม่เชื่อฟังต่อสามี สุดท้ายมันก็จะนำพาไปสู่ความล้มเหลวในระบบชีวิตครอบครัวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การเชื่อฟังสามีมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดถึงขนาดที่ท่านนบีมูฮำหมัด เคยกล่าวว่า
"ผู้หญิงไม่ต้องถือศีลอดสุนัตถ้าหากสามีของนางไม่ทรงอนุญาต"
(รายงานโดย อบูดาวูด)
4. สามีจะต้องสอนภรรยาให้รู้ถึงกฎระเบียบแบบแผนในการปฏิบัติตัว และวิถีแห่งการดำเนินชีวิตตามหลักการของศาสนาอิสลาม
5. ภรรยาอย่าออกนอกบ้านก่อนได้รับอนุญาติจากสามีก่อนและอย่าให้ผู้ชายใดเข้ามาในบ้านในขณะที่สามีไม่อยู่เป็นอันขาด
6. ภรรยาจะต้องทำให้สามีพึงพอใจ เพราะภรรยาที่ทำให้สามีพึงพอใจและมีความสุขนั้นไม่เพียงแต่จะประสบความสำเร็จในชีวิตคู่เท่านั้น หากแต่ภรรยาเช่นนี้จะได้เข้าสวรรค์อย่างแน่นอนด้วย ดังที่นะบีมูฮำหมัด ได้กล่าวว่า
" เมื่อสามีปราถนาความสุขทางเพศกับภรรยาแต่นางกลับปฏิเสธ และทำให้สามีต้องโกรธเคืองนางไปตลอดทั้งคืน
แน่แท้ มลาอีกะฮฺจะสาปแช่งภรรยาเช่นนี้ไปจวบจนรุ่งสาง"
(รายงานโดย บุคอรี, มุสลิม)
7. ภรรยาจะต้องจัดบ้านให้สะอาดเรียบร้อย และควรจะรักษาร่างกาย และเสื้อผ้าของตนเองให้สะอาดอยู่เสมอเมื่ออยู่กับสามี
8. ภรรยาจะต้องรักษาทรัพย์สิน เกียรติยศ และความลับของสามีไว้อย่าได้แพร่งพรายออกนอกบ้าน
สำนักจุฬาราชมนตรี