รู้จักใช้ไหวพริบให้เหมาะกับจังหวะชีวิต
โดย....วีด๊าด สุขถาวร
หน้าที่หลักของภรรยา มิใช่เพียงแค่การตอบสนองความสุขทางเพศที่ศาสนาอนุมัติให้แก่สามีเท่านั้น แต่ภรรยาจะต้องทำหน้าที่ เอาใจใส่ทั้งงานบ้านงานเรือน ดูแลทรัพย์สิน เอาอกเอาใจสามี คอยต้อนรับสามีด้วยรอยยิ้มแย้มแจ่มใส เป็นทั้งเพื่อนร่วมสุขยามสามีสุขใจ และเพื่อนปรับทุกข์ยามสามีร้อนใจ หากภรรยาทุกคนสามารถทำได้เช่นนี้ จะช่วยเติมเต็มความสุขในชีวิตคู่ให้กันและกันอย่างสมบูรณ์
อัลลอฮ์ ได้ตรัสไว้ว่า
" และหนึ่งจากสัญญาณทั้งหลายของพระองค์คือ ทรงสร้างคู่ครองให้แก่พวกเจ้าจากตัวของพวกเจ้า เพื่อพวกเจ้าจะได้มีความสุขอยู่กับนาง
และ ทรงมีความรักใคร่และความเมตตาระหว่างพวกเจ้า แท้จริงในการนี้ แน่นอน ย่อมเป็นสัญญาณแก่หมู่ชนผู้ใคร่ครวญ"
(ซูเราะฮฺ อัรฺรูม / 21)
ท่านหญิงอุมมุสุไลมะ บินติ มิลฮาน เป็นหญิงที่ใส่ใจการเติมเต็มความสุขในชีวิตคู่ให้สามีเหนือสิ่งอื่นใด เธอแต่งงานกับศอฮาบะฮ์ชื่อ อบูฏอลฮะฮ์ เธออยู่ร่วมกับเขาและให้กำเนิดบุตรร่วมกัน สามีของเธอรักและห่วงบุตรชายมาก เนื่องจากบุตรชายมีร่างกายที่ไม่แข็งแรง ทุกครั้งที่สามีออกไปทำงานนอกบ้าน กลับมาจะต้องถามถึงบุตรชายก่อนอยู่เสมอ จนกระทั่งวันหนึ่ง บุตรชายป่วยหนักและเสียชีวิต อบูฏอลฮะฮ์ ยังไม่ทราบข่าว !
อุมมุสุไลมะ จึงบอกคนในบ้านว่า "อย่าได้เล่าเรื่องนี้ให้สามีฉันฟังเป็นอันขาด ขอให้ฉันเป็นผู้แจ้งข่าวนี้ด้วยตัวเอง"
เมื่อสามีกลับถึงบ้าน อุมมุสุไลมะ สังเกตเห็นความอ่อนล้าของสามี เธอต้อนรับสามีด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส แล้วพลันเขาจึงเอ่ยถามอาการของบุตรชายที่ป่วยหนัก
อุมมุสุไลมะ ตอบไปว่า "เขาสบายดี สงบสุขที่สุดเท่าที่เคยเป็นมาแล้วค่ะ"
ซึ่งคำตอบนี้เธอมิได้โกหกสามีแต่อย่างใด ด้วยไหวพริบที่เฉียบแหลมของเธอในการประเมินสถานการณ์ที่บั่นทอนความสุข เธอจึงตอบไปเช่นนี้ เพราะเธอตระหนักดีว่า สามีจะต้องสะเทือนใจเป็นอย่างมากกับการตายของลูกชาย ผู้เป็นดั่งแก้วตาดวงใจของเขา คืนนั้นเธอเตรียมอาหารมื้อพิเศษให้สามี พร้อมทั้งให้ความสุขกับเขาในคืนนั้น ทั้งๆที่ในใจเธอนั้นแสนจะโศกเศร้าอาดูร อุมมุสุไลมะยังไม่บอกเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้สามีฟัง ทั้งที่เรื่องใหญ่โตเช่นนี้ใครก็อดไม่ได้ที่จะเล่าให้ฟังตั้งแต่สามีกลับมาถึงบ้าน
เช้าวันรุ่งขึ้นเธอได้ถามคำถาม เป็นการลองใจสามีว่า "คุณคิดอย่างไร หากมีคนกลุ่มหนึ่งได้นำของฝากมามอบให้ใครคนหนึ่งดูแล แล้ววันหนึ่งเขาก็มาทวงของฝากนี้คืนจากใครคนนั้น คุณคิดว่าเขามีสิทธิ์ที่จะไม่คืนของฝากนั้นไหม?"
อบูฏอลฮะฮ์ ตอบว่า "ไม่เขาไม่มีสิทธิ์ ของฝากนั้นต้องกลับคืนสู่เจ้าของอย่างแน่นอน"
เมื่อเธอได้คำตอบจากสามีเธอจึงกล่าวว่า "อัลลอฮ์ ได้ฝากลูกไว้กับเรา และบัดนี้พระองค์ได้ขอคืนแล้ว ดังนั้น ขอท่านจงอดทนและหวังผลตอบแทนจากอัลลอฮ์ เถิด"
หากสถานะการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นกับคุณ ในฐานะภรรยาคุณจะทำเช่นไร ! บางคนอาจร้องไห้ฟูมฟาย บางคนโวยวายใส่สามีที่เพิ่งกลับมาจากทำงาน หรือบางคนก็ปล่อยเนื้อปล่อยตัวจมกับความเศร้าจนลืมหน้าที่หลักของตน
การใช้ชีวิตกับใครสักคนหนึ่ง แน่นอนว่าสองชีวิตจะต้องรับรู้ปัญหาของอีกฝ่ายให้มาก แต่ก็ไม่ใช่ทุกจังหวะของชีวิต ที่จะคอยรายงานเรื่องราวของอีกฝ่าย หรือทุกความเป็นไปโดยไม่คำนึงถึงอีกฝ่ายว่าเขารับรู้แล้วจะเป็นเช่นไร
การที่สองฝ่ายต่างรู้จักใช้ไหวพริบให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ไม่ใช่ว่าทั้งคู่ไม่ไว้ใจกัน แต่คอยหาจังหวะดีเพื่อสร้างความสุขให้ชีวิตคู่ต่างหาก
จากหนังสือ "ให้สองหัวใจผูกพันด้วยศรัทธา"