ความครอบคลุมของศาสนาอิสลาม
อิสลามเป็นศาสนาแห่งความเมตตาและเป็นทางนำแห่งมวลมนุษยชาติ ซึ่งอัลลอฮฺได้ประทานลงมาเป็นของกำนัลแด่มวลมนุษยชาติ โดยที่พระองค์ได้ส่งท่านนบีผู้นำแห่งบรรดาศาสนทูตและเป็นนบีท่านสุดท้าย และให้เกียรติแก่ประชาชาติของท่าน โดยการเรียกร้องเชิญชวนไปจนถึงวันกาลอวสาน1. อัลลอฮฺคือพระผู้อภิบาลแห่งมวลมนุษยชาติ สำหรับพวกเขาไม่มีพระผู้อภิบาลอื่นใดนอกเหนือจากพระองค์ ดังที่อัลลอฮฺตรัสว่า
ความว่า จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ข้าพระองค์ขอความคุ้มครองต่อพระผู้อภิบาลมวลมนุษยชาติ (อันนาส 114: 1)
2. อัลลอฮฺเป็นผู้มีอำนาจเหนือมวลมนุษยชาติ สำหรับพวกเขาไม่มีอำนาจอื่นใดนอกเหนือจากพระองค์ ดังที่อัลลอฮฺตรัสว่า
ความว่า อัลลอฮฺเป็นผู้มีอำนาจครอบครองมวลมนุษยชาติ (อันนาส 114: 2)
3. อัลลอฮฺเป็นพระเจ้าแห่งมวลมนุษยชาติ สำหรับพวกเขาไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกเหนือจากพระองค์ ดังที่อัลลอฮฺตรัสว่า
ความว่า "อัลลอฮฺเป็นพระเจ้าแห่งมวลมนุษยชาติ (อันนาส 114: 3)
4. อัลลอฮฺได้ประทานอัลกุรอานลงมาเป็นทางนำแก่มวลมนุษยชาติ ดังที่อัลลอฮฺตรัสว่า
ความว่า เดือนรอมฎอนเป็นเดือนที่อัลกุรอานถูกประทานลงมาเพื่อเป็นข้อแนะนำตักเตือนแก่มวลมนุษยชาติ และเป็นหลักฐานอันชัดเจนเกี่ยวกับข้อแนะนำนั้น และเป็นการแยกแยะสิ่งถูกผิด (อัลบากอเราะฮฺ 2 : 185)5. อัลลอฮฺได้ส่งศาสนทูตของพระองค์คือมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม มายังมวลมนุษยชาติทั้งผอง ดังที่อัลลอฮฺตรัสว่า
ความว่า และเรามิได้ส่งเจ้าเพื่ออื่นใดนอกจากส่งมาเพื่อเป็นผู้แจ้งข่าวดีและผู้ตักเตือนแก่มวลมนุษยชาติทั้งหมด แต่มนุษย์ส่วนมากกลับไม่รู้ (สะบะอฺ 34 : 28)
6. อัลลอฮฺได้ใช้เราให้ผินหน้าไปทางกะบะฮฺ ซึ่งเป็นบ้านหลังแรกที่ถูกสร้างแก่มวลมนุษยชาติ โดยที่พวกเขาละหมาดหันหน้าไปทางนั้นและประกอบพิธีฮัจญ์ที่นั่น ดังที่อัลลอฮฺตรัสว่า
ความว่า แท้จริงบ้านหลังแรกที่ถูกสร้างขึ้นสำหรับมนุษย์ (เพื่อการอิบาดะฮฺ) นั้นคือบ้านที่มักกะฮฺโดยเป็นสถานที่ที่ถูกทำให้ความจำเริญและเป็นทางนำแก่มวลมนุษยชาติ ในบ้านนั้นมีหลายสัญญาณที่ชัดแจ้งส่วนหนึ่งคือมะกอม อิบรอฮีมและผู้ใดได้เข้าไปในบ้านนั้นอันได้แก่ผู้ที่สามารถหาทางไปยังบ้านหลังนั้นและผู้ใดปฏิเสธแท้จริงอัลลอฮฺนั้นทรงมั่งมีเหนือประชาชาติทั้งหลาย(คือไม่ทรงพึ่งผู้ใดทั้งสิ้น) (อาละอิมรอน 3 : 96-97)7. อัลลอฮฺได้ยืนยันว่าประชาชาตินี้เป็นประชาชาติที่ประเสริฐที่สุดจากบรรดาประชาชาติที่ถูกบังเกิดขึ้นบนโลกนี้ อัลลอฮฺตรัสว่า
ความว่า พวกเจ้าเป็นประชาชาติที่ประเสริฐที่สุดซึ่งถูกอุบัติขึ้นแก่มวลมนุษยชาติ โดยที่พวกเจ้าใช้ให้ปฏิบัติในสิ่งที่ชอบและห้ามมิให้ปฏิบัติในสิ่งที่มิชอบ และพวกเจ้าศรัทธาต่ออัลลอฮฺ (อาละอิมรอน 3 :110)
หะดีษ จากบะฮฺซี บิน หะกีม จากบิดาของเขาจากปู่ของเขากล่าวว่า ฉันได้ยินท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมกล่าวว่า
«أَلَا إنَّكُمْ تُوفُونَ سَبْعِينَ أُمَّةً أنْتُـمْ خَيْرُهَا وَأكْرَمُهَا عَلَى الله عَزَّ وَجَلَّ». أخرجه أحمد والترمذي
ความว่า พึงทราบเถิดว่า แท้จริงพวกท่านเป็นประชาชาติที่มาสร้างความสมบูรณ์ให้แก่ 70 ประชาชาติ พวกท่านเป็นประชาชาติที่ประเสริฐและมีเกียรติที่สุด ณ อัลลอฮฺผู้ทรงเกียรติและสูงส่ง (บันทึกโดยอะหมัด หมายเลข 20282 และอัตติรมิซีย์ หมายเลข 3001 )
8. การเรียกร้องเชิญชวนสู่อัลลอฮฺและการเผยแผ่ศาสนาตั้งแต่ทิศตะวันออกจรดทิศตะวันตก เป็นหน้าที่ของมวลมุสลิมทุกผู้ทุกนาม จนกระทั่งสามารถเชิดชูคำดำรัสแห่งอัลลอฮฺให้สูงส่งและทั้งหมดเข้าสู่ศาสนาเดียวกัน
1. อัลลอฮฺตรัสว่า
ความว่า จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) นี่คือแนวทางของฉัน ฉันเรียกร้องไปสู่อัลลอฮฺอย่างประจักษ์แจ้งทั้งตัวฉันและผู้ที่ปฏิบัติตามฉัน และมหาบริสุทธิ์แห่งอัลลอฮฺฉันมิได้อยู่ในกลุ่มบรรดาผู้ตั้งภาคี (ยูซุฟ 12 : 108)
2. อัลลอฮฺตรัสว่า
ความว่า นี่คือข้อชี้แจงอันชัดเจนสำหรับมนุษย์และเป็นคำแนะนำที่ถูกต้อง และเป็นคำตักเตือนสำหรับบรรดาผู้ยำเกรง (อาละอิมรอน 3 : 141)
3. อัลลอฮฺตรัสว่า
ความว่า นี่คือการประกาศแก่มวลมนุษยชาติเพื่อพวกเขาจะถูกเตือนด้วยมันและเพื่อพวกเขาจะได้รู้ว่าแท้จริงพระองค์คือพระเจ้าผู้เอกะ และเพื่อบรรดาผู้มีสติปัญญาจะได้รำลึก (อิบรอฮีม 14 : 52)
9. อัลลอฮฺ อัซซะวะญัล เรียกร้องมนุษย์สู่การเคารพภักดีพระองค์แต่เพียงผู้เดียวโดยไม่มีภาคีหุ้นส่วน ใดๆพร้อมพระองค์ ต้องรู้จักพระนาม คุณลักษณะ และการกระทำของพระองค์ และให้เกียรติแก่พวกเราที่เชิญชวนมนุษย์ไปสู่สิ่งดังกล่าว ประการแรกที่อัลกุรอานเชิญชวนมนุษยชาติสู่การเคารพภักดีพระองค์แต่เพียงผู้เดียวโดยไม่มีภาคีหุ้นส่วน ดังที่อัลลอฮฺตรัสว่า
ความว่า โอ้บรรดามนุษยชาติจงเคารพภักดีต่อพระผู้อภิบาลของพวกสูเจ้าผู้ที่ได้สร้างบรรดาสูเจ้าและบรรดาผู้ที่มาก่อนพวกสูเจ้าเพื่อว่าพวกสูเจ้าจะได้ยำเกรง คือผู้ที่ประทานแผ่นดินให้เป็นที่นอนและชั้นฟ้าเป็นอาคารแก่พวกสูเจ้า และประทานน้ำฝนหลั่งลงมาจากฟากฟ้า แล้วได้ให้ผลไม้หลากหลายชนิดออกมาเนื่องจากน้ำนั้นเพื่อเป็นริสกีแก่พวกสูเจ้า ดังนั้นพวกสูเจ้าอย่าได้ยึดผู้ใดมาเทียบเคียงกับอัลลอฮฺ โดยที่พวกสูเจ้าก็รู้กันอยู่ (อัลบากอเราะฮฺ 2 : 21-22)
10. อัลลอฮฺ อัซซะวะญัล เป็นพระผู้อภิบาลแห่งสากลจักรวาล สำหรับพวกเขาแล้วไม่มีพระผู้อภิบาลอื่นอีกแล้วนอกจากพระองค์ ดังที่อัลลอฮฺตรัสว่า
ความว่า การสรรเสริญทั้งมวลเป็นสิทธิ์ของอัลลอฮฺผู้เป็นพระเจ้าแห่งสากลโลก (อัลฟาติหะฮฺ 1 : 2)
11. อัลลอฮฺ อัซซะวะญัล ได้ส่งรอซูลของพระองค์คือนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เพื่อมาตักเตือนแก่มวลมนุษยชาติและนำความเมตตามายังพวกเขาตราบจนถึงวันกาลอวสาน อัลลอฮฺตรัสว่า
ความว่า ความจำเริญยิ่งแด่พระองค์ผู้ประทานอัลฟุรกอนแก่บ่าวของพระองค์ (มุฮัมมัด) เพื่อเขาจะได้ตักเตือนแก่มวลมนุษยชาติ (อัลฟุรกอน 25 : 1)
และอัลลอฮฺตรัสว่า
ความว่า และเรามิได้ส่งเจ้ามาเพื่ออื่นใดนอกจากเพื่อเป็นความเมตตาแก่มวลมนุษยชาติ (อัลอัมบิยาอ์ 21 : 107)
มุหัมมัด บิน อิบรอฮีม บิน อับดุลลอฮฺ อัต-ตุวัยญิรีย์
محمد بن إبراهيم بن عبدالله التويجريIslam house
แปลโดย: ยูซุฟ อบูบักรฺ
ترجمة: يوسف أبوبكر