กิน 3 ต่อ
คำว่า "กิน 3 ต่อ" เป็นภาษาของนักเล่นหมากฮอส ซึ่งสามารถพิชิตคู่ต่อสู้ได้ด้วยไหวพริบ และกลยุทธ์ ค่อนข้างจะแยบยล คำว่า "กิน 3 ต่อ" ได้ประยุกต์ใช้กับนักทำงาน นักกิจกรรม นักธุรกิจ นักฉกฉวยผลประโยชน์ ที่พยายามจะกระทำการเพื่อให้ได้เปรียบมากที่สุด
ถ้าหากเราพิจารณาดูมุสลิมตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ปรากฏว่าพวกเขาถูกกินต่อครั้งแล้วครั้งเล่า บางครั้งจากผู้เป็นศัตรูของมุสลิม และบางครั้งจากมุสลิมด้วยกันเอง การกิน 3 ต่อ จากผู้ที่เป็นศัตรูของมุสลิมถือเป็นเรื่องธรรมดา ไม่มีความแปลกใหม่แต่ประการใด แต่ถ้าหากเกิดจากพฤติกรรมของผู้ที่เรียกตนเองว่าเป็น มุสลิม ก็นับว่าเป็นเรื่องที่น่าวิตกอย่างยิ่ง ที่มุสลิมเราขาดคุณธรรม จริยธรรม ตามหลักกรทางศาสนามากมาย
เราทั้งหมดต่างรู้ดีว่าความหมายของคำว่ มุสลิม คือผู้รักสันติ ผู้นอบน้อมต่ออัลลอฮ์องค์เดียว ซึ่งแปลความหมายอีกได้ว่า หมายถึง ผู้ปฏิบัติตนโดยอยู่ในกรอบที่อัลลอฮ์ทรงใช้ และละเว้นในสิ่งที่อัลลอฮ์ทรงห้าม คุณลักษณะของผู้ที่เป็นมุสลิมเราสามารถหาได้จากหะดิษของท่านนะบี มุฮัมมัด
จากอบูฮุรอยเราะฮ์ กล่าวว่า ท่านนะบี
"มุสลิมเป็นพี่น้องกัน เขาไม่บิดพลิ้วพี่น้องของเขา เขาไม่โกหกพี่น้องของเขา และเขาไม่ทอดทิ้งพี่น้องของเขา" (บันทึกโดย อัตตริมีซีย์)
ผู้ที่มีความศรัทธาต่ออัลลอฮ์ และมีความตักวา(ยำเกรง)พระองค์ เขามีจิตสำนึกในการปฏิบัติงานอิสลาม เพื่อพระองค์ องค์เดียวด้วยความบริสุทธิ์ใจ อันป็นเป้าหมายสุดท้าย เขามีใจรักในการทำงานเพื่ออัลลอฮ์ ในฐานะข้าทาสของพระองค์ แม้ว่างานนั้นจะมีความต่ำต้อยไร้เกียรติในสายตาของผู้อื่น
สิ่งที่สังคมมุสลิมมีความปราถนาจากรรดามุสลิม คือ เป็นผู้มีสายตายาว มีความคิดกว้างไกล มีความรู้ประดับกาย รู้เท่าทันคน วางตัวอย่างเหมาะสม มีความคิดวิเคราะห์ อันจะทำให้เขาไม่ตกหลุมพรางของศัตรู ซึ่งจ้องที่จะทำลายและฉกฉวยผลประโยชน์จากมุสลิมอยู่ตลอดเวลา
บทเรียนในประวัติศาสตร์ สอนเราให้มีความฉลาด รู้เท่าทันต่อโลก ทันต่อเล่ห์กลต่างๆ เพื่อเราสามารถวางแผนชีวิตว่า จะเดินต่อไปในหนทางใด ในอนาคต สิ่งที่มุสลิมจะต้องแสดงออกคือ ความจริงใจ ต่อพี่น้องมุสลิม การมีความบริสุทธิ์ใจให้กัน มีความโอบอ้อมอารี เอื้ออาทรต่อกัน รักษาสิทธิที่พึงมีพึงได้ โดยปราศจากการเอารัดเอาเปรียบอย่างขาดความชอบธรรม
ความตกต่ำและความพ่ายแพ้ ที่มุสลิมประสบในอดีต มีสาเหตุจากการที่เรามองอิสลามว่า เป็นสิ่งไร้ค่า หรือเป็นเพียงไม้ประดับ และแล้วในบั้นปลายแห่งชีวิตเราก็ขาดอิสลามไม่ได้
โดย อ.มุนีร มูหะหมัด
