ทางสายใหม่ของ โรเย ดูบาเก
โดย... อ.มุนีร มูหะหมัด
การเข้านับถือศาสนาอิสลามของนักวิชาการ ชาวสวิตเซอร์แลนด์ โรเย ดูบาเก นับว่าเป็นคำตอบต่อคำถามต่างๆ และเป็นการเฉลยข้อสงสัยมากมายของชาวตะวันตก และเป็นการตอบโต้ต่อความพยายาม ที่จะสร้างความคลางแคลงใจ และสับสนต่อศาสนาอิสลาม ซึ่งเป็นผลทำให้เกิดความสงสัยในการมี อัลลอฮ์ พระผู้เป็นเจ้า และทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าอิสลามเป็นศาสนาที่ทำลายคุณธรรม ส่งเสริมให้ทิฐิ และการก่อการร้าย ทั้งๆที่ อิสลามเป็นศาสนาแห่งการโอบอ้อมอารี และภารดรภาพ พร้อมกับเน้นย้ำเกี่ยวกับอุดมการณ์ การมีมนุษยธรรม เสริมสร้างความเมตตา และการปรองดองรักใคร่กันในระหว่างมนุษย์
โรเย ดูบาเก ได้แสดงความรู้สึกหลังจากที่เขาได้รับรสแห่งความผาสุก และการใช้ชีวิตในฐานะที่เป็นมุสลิมว่า ข้าพเจ้าเคยถามตัวของข้าพเจ้าเองว่า เพราะเหตุใด บรรดามุสลิมจึงมีความสุขในการดำรงชีวิตของพวกเขา แม้ว่าพวกเขาจะมีความยากจน และมีความล้าสมัย ?
และเพราะเหตุใด ชาวสวีเดนกลับมีความรู้สึกว่าประสบแต่ความลำเค็ญ และความทุกข์ยาก ทั้งๆที่พวกเขามีทรัพย์สินเงินทองมากมาย มีสิ่งอำนวยความสะดวกในการดำรงชีวิต และมีความเจริญก้าวหน้าอย่างมากมาย ? แม้กระทั่งประเทศของข้าพเจ้า(สวิตเซอร์แลนด์) ข้าพเจ้าก็มีความรู้สึกเช่นเดียวกับชาวสวีเดน ทั้งๆที่ประเทศของเรามีความสงบสุขและมีการครองชีพอยู่ในระดับที่ดี
เมื่อข้าพเจ้ามีความรู้สึกเช่นนี้คำตอบก็คือ จำเป็นที่ข้าพเจ้าจะต้องศึกษาศาสนาของชาวตะวันออก ข้าพเจ้าเริ่มศึกษาศาสนาฮินดู แต่ข้าพเจ้าก็ไม่รู้สึกประทับใจมากนัก จึงได้เริ่มเรียนอิสลาม ซึ่งได้สร้างความสนใจให้แก่ข้าพเจ้าเป็นอย่างมาก เพราะว่าศาสนาอิสลามได้รวมไว้ ซึ่งหลักมูลฐานสำคัญ ในฐานะที่เป็นศาสนาสุดท้าย
ตามความเป็นจริงนั้น ข้าพเจ้ามีความศรัทธาเพิ่มมากขึ้นเมื่อข้าพเจ้าได้อ่านหนังสือเพิ่มขึ้น จนกระทั่งข้าพเจ้าได้อ่านข้อเขียนของนักปราชญ์สมัยปัจจุบันชาวฝรั่งเศส ชื่อ รีเน่ จีโน ได้เข้ารับนับถือศาสนาอิสลามก่อนหน้านี้ ข้าพเจ้าได้พบทางนำของอัลลอฮ์ เช่นเดียวกับหลายคนที่ได้อ่านหนังสือของนักปราชญ์ชาวฝรั่งเศสท่านนี้ ซึ่งเขาได้เข้ารับนับถือศาสนาอิสลามและทำให้คนอื่นๆ อีกมากมายที่เข้ารับนับถือศาสนาอิสลาม ทำให้ข้าพเจ้าพบว่าอิสลามได้ให้ความหมายของคำว่า"ชีวิต" ไม่เหมือนกับอารยธรรมตะวันตก ซึ่งตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของวัตถุนิยม (Materialism) และไม่ศรัทธาต่อชีวิตใลกหน้าที่ได้ให้ความหมายไว้ เพราะพวกเขาศรัทธาแต่ชีวิตในโลกนี้เท่านั้น
อิสลามสร้างความสงบภายในจิตใจ
โรเย ดูบาเก กล่าวว่า
"ข้าพเจ้าได้รับความกระจ่างชัดว่า อิสลามเป็นศาสนาที่สร้างความสงบในจิตใจ ส่วนอารยธรรมทางวัตถุนิยมจะนำพาผู้ที่ยึดถือไปสู่ความสิ้นหวัง เพราะพวกเขาไม่ศรัทธาต่อสิ่งใดๆทั้งสิ้น และข้าพเจ้าได้รู้อย่างชัดเจนอีกว่า การที่ชาวยุโรปไม่ศรัทธาต่อข้อเท็จจริง เกี่ยวกับอิสลามก็เพราะว่า พวกเขายึดวัตถุเป็นบรรทัดฐาน ในการดำรงชีวิต"
โรเย ดูบาเก กล่าวต่ออีกว่า
"สิ่งแรกที่นำให้ข้าพเจ้านับถือศาสนาอิสลามคือ คำกล่าวปฏิญาณว่า" ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮ์ และนะบีมุฮัมมัด เป็นศาสนฑูตของอัลลอฮ์ " ข้าพเจ้าพบว่า อิสลามเป็นศาสนาที่ทำให้เกิดความสมบูรณ์ เพราะทุกสิ่งจะผูกพันธ์อยู่กับจุดศูนย์กลางอันเดียวกัน คือ อัลกุรอาน และซุนนะฮ์ ในความเชื่อมั่นของข้าพเจ้า มนุษย์จะต้องพิจารณาดูคำปฏิญาณนี้ตลอดชั่วชีวิตของเขา เพราะคำปฏิญาณว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮ์ ตามนัยนี้หมายความว่า ไม่มีความเจริญสูงสุดอันเป็นนิรันดร์ นอกจากอัลลอฮ์องค์เดียวเท่านั้น ส่วนปรัชญาสมัยใหม่ที่กล่าวว่า ไม่มีสิ่งที่เที่ยงแท้ นอกจากโลกนี้เท่านั้น ที่จริงแล้วนั่นเป็นทัศนะของปรัชญาภาวะนิยม (Existentialism) และแนวคิดทางปรัชญาอื่นๆ
ข้อเท็จจริงที่ไม่อาจละเลยได้
โรเย ดูบาเก ได้กล่าวโดยแสดงถึงความประหลาดใจของเขาต่อการที่วิทยาศาสตร์ และปรัชญา ได้ละเลยต่อข้อเท็จจริงที่อิสลามได้นำเสนอว่า
"ข้าพเจ้ามีความประทับใจเป็นอย่างมากในคัมภีร์ อัลกรุอาน เมื่อข้าพเจ้าเริ่มศึกษาคัมภีร์นี้ เรียนรู้ และท่องจำบางโองการ (อายะฮ์) อัลฮัมดุลิลลาฮ์ (มวลการสรรเสริญ เป็นของอัลลอฮ์) ข้าพเจ้าสามารถ่านอัลกุรอานได้ และอายะฮ์ที่ทำให้ข้าพเจ้าต้องหยุดและครุ่นคิดตลอดเวลาก็คือ
"และผู้ใดปราถนาศาสนาอื่น นอกจากอิสลามแล้ว มันจะไม่ถูกรับจากเขา และในโลกอาคิเราะฮ์ เขาจะเป็นผู้หนึ่งจากบรรดาผู้ที่ขาดทุน"
(อาลิอิมรอน / 85)
และอีกอายะฮ์ หนึ่งว่า
"ไม่มีการบังคับ(ให้นับถือ)ศาสนา แท้จริงแนวทางที่ถูกต้องประจักษ์ชัด จากแนวทางที่หลงผิดแล้ว"
(อัลบะเกาะเราะฮ์ / 256)
เขากล่าวต่ออีกว่า
"หลังจากที่ข้าพเจ้าเดินทางกลับไปยังสวิตเซอร์แลนด์ ได้มีความรู้สึกว่า จำเป็นที่ข้าพเจ้าต้องประกาศการเข้ารับนับถือศาสนาอิสลาม เพราะว่าไม่เกิดผลดีอันใด ที่ข้าพเจ้าจะปิดบังการนับถือศาสนาอิสลามของข้าพเจ้าอีก พร้อมกับเขียนบทความเกี่ยวกับอิสลาม ลงตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ "เจอร์นัล เดอ เจเนฟ" และหนังสือพิมพ์ "กาเซต เดอ โลซาน" ซึ่งไม่ใช่หนังสือพิมพ์อิสลาม นอกเหนือไปจากการแปลตำราบางเล่มที่เกียวกับอิสลาม ในข้อเขียนของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าพยายามแก้ข้อกล่าวหาที่มีต่อศาสนาอิสลาม ในฐานะที่ข้าพเจ้าเป็นมุสลิม ซึ่งพบหนทางนำสู่ศาสนาอิสลาม"
ขณะที่ข้าพเจ้ากำลังเขียนบทความเกี่ยวกับอิสลามมากมาย และพยายามอธิบายให้ผู้อ่านชาวตะวันตก ได้รับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกอิสลาม และแนวทางของอิสลามในการแก้ปัญหาต่างๆ ซึ่งชาวตะวันตกกำลังพบกับทางตันของปัญหาดังกล่าว แต่อิสลามได้เปิดประตูอย่างมากมายในการแก้ปัญหานั้นๆ
อิสลามคือหนทางสู่อัลลอฮ์
ต่อทัศนะที่ว่า บรรดามุสลิมคือ ผู้ที่นับถือศาสนาอิสลาม อันเป็นศาสนาแห่งเชื้อชาติ และเป็นศาสนาของผู้คลั่งไคล้ในลัทธิ เขาพูดขึ้นด้วยความโกรธว่า
"ข้าพเจ้ามีความเห็นแย้งกับบางคน ที่มีความเห็นว่าอิสลามเป็นศาสนาแห่งเชื้อชาติ และเป็นความเชื่อที่ผิดๆ ของมุสลิมบางคน ซึ่งพวกเขานับว่าอิสลามเป็นศาสนาของผู้ที่มีความคลั่งไคล้ในลัทธิ แต่ความเป็นจริงแล้วอิสลามคือ ศาสนาของอัลลอฮ์ และเป็นหนทางที่ดีที่สุด ที่จะทำให้บุคคลรู้จักอัลลอฮ์ มีความสามัคคีปรองดอง และมีความสัมพันธ์ ระหว่างพระเจ้ากับผู้ที่เป็นบ่าวของพระองค์"
โรเย กล่าวยืนยันว่า สิ่งสำคัญที่บ่งชี้ถึงอารยธรรม ซึ่งอิสลามนำเสนอ และได้ดึงดูดความสนใจของผู้ที่นับถือศาสนาอื่น ในจำนวนนั้นได้แก่นักวิชาการ และนักคิดคนสำคัญๆ เกี่ยวกับอิสลาม คือ โรเย ฆอโรดี , มุร้อค ฮอฟแมน , อาร์เธอ อาลีสัน และบุคคลอื่นๆ ต่างมีความเห็นว่า อิสลามเป็นศาสนาแห่งความดี และเสริมสร้างความผาสุกให้แก่มนุษย์ชาติ
โรเย กล่าวเสริมว่า
"ความเจริญก้าวหน้าที่ชาวตะวันตก เรียกร้องให้เราได้ให้ความสนใจ กำลังชักนำพวกเขาไปสู่ความท้อแท้ และความสูญเปล่า อารยธรรมและความเจริญก้าวหน้าของยุคใหม่ แสดงออกถึงการขัดแย้งของมนุษย์กับวัตถุและการดำรงชีวิต ในขณะเดียวกันอิสลามได้นำเสนอข้อเท็จจริง และสภาพแห่งความเป็นจริง โดยเหตุนี้อิสามจึงมิได้ชี้นำไปสู่ความเจริญก้าวหน้าและอารยธรรม ตามทีโลกตะวันตกต้องการ คือ ความสับสนวุ่นวาย การทำลายล้าง และ การหมดอาลัยในการใช้ชีวิตในโลกนี้"
โรเย ดูบาเก ได้ชี้ถึงสาเหตุที่ทำให้ผู้ที่นับถือศาสนาอื่นๆจากชาวยุโรป และชนชาติอื่นที่หันเข้ามานับถือศาสนาอิสลาม เนื่องจากว่าพวกเขาใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางความทุกข์ใจ มีอารมณ์เศร้าหมอง จิตใจฟุ้งซ่าน ไม่มีความสงบ เพราะว่าพวกเขาไม่มีความศรัทธา และไม่มีสิ่งยึดเหนี่ยวในจิตใจที่แท้จริง ของการดำรงชีวิต แต่พวกเขาหาไม่พบ จนกระทั่งได้มาศึกษาอัลอิสลาม จึงได้คำตอบที่เป็นสัจธรรม สมเหตุสมผล จึงทำให้พวกเขาทยอยกันเข้ารับนับถือศาสนาอิสลาม