ดุนยา บัรซัค อาคิเราะฮ์ 2
  จำนวนคนเข้าชม  31047

 

โลกบัรซัค

ความหมายของบัรซัค

           บัรซัค (برْزَخ)   เป็นภาษาอาหรับที่มีความหมายว่า สิ่งขีดขวางหรือสิ่งขีดกั้น

พระองค์อัลลอฮ์ทรงให้ความหมายในอายะฮ์ที่ว่า

وهو الَّذي مرَجَ البحْرَين هذا عذْبٌ فُراتٌ وهذا ملْحٌ أُجاجٌ وجعلَ بينَهما برْزَخاً وحجْراً محْجوراً (الفرقان/53)

 ความว่า “และพระองค์คือผู้ทรงทำให้ทะเลทั้งสองบรรจบติดกัน อันนี้จืดสนิท และอันนี้เค็มจัด และทรงทำที่คั่นระหว่างมันทั้งสอง และที่กั้นขวางอันแน่นหนา(คือทำให้ทะเลทั้งสองมา บรรจบติดเคียงข้างกัน โดยที่น้ำจืดกับน้ำเค็มจะไม่ปะปนกัน คือมีที่กั้นระหว่างน้ำทั้งสองโดย         อนุภาพของพระองค์)

          บัรซัค ในทางศาสนาหมายถึง โลกอีกโลกหนึ่งที่เริ่มต้นจากการเสียชีวิตของมนุษย์ที่ถูกฝังอยู่ในหลุมฝังศพ จนกระทั่งถึงวันที่พระองค์อัลลอฮ์ จะทรงให้โลกดุนยานี้สิ้นสลายพังพินาศ เพื่อเป็นการเริ่มต้นของโลกอาคิเราะฮ์ ดังนั้นมนุษย์คนแรกที่เสียชีวิต จนถึงมนุษย์ที่เสียชีวิตในปัจจุบัน ซึ่งตอนนี้พวกเขากำลังอยู่ในโลกบัรซัคทั้งนั้น

อายะฮ์ที่เกี่ยวข้องกับโลกบัรซัคพระองค์ได้ตรัสไว้ในอัลกุรอานว่า

حتَّى إذا جاء أحدَكم الموْتُ قالَ ربِّ ارْجِعونِ لعلِّي أعْمَلُ صالِحاً فيما ترَكْتُ كلاَّ إنَّها كلمةٌ هو قائِلُها ومِن ورائِهم برْزَخٌ إلى يومِ يبْعَثون (المؤمنون/99)

ความว่า “จนกระทั่งเมื่อความตายได้มาหาคนใดในพวกเขา เขาก็จะกล่าวขึ้นว่า ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอพระองค์ทรงให้ข้าพระองค์กลับไปมีชีวิตอีกครั้งหนึ่งเถิด เพื่อข้าพระองค์จะได้กระทำความดีในสิ่งที่ข้าองค์ปล่อยทิ้งไว้ เปล่าเลย มันเป็นเพียงถ้อยคำที่เขากล่าวมันไว้เท่านั้น และเบื้องหน้าของพวกเขานั้นมีโลกบัรซัค จนกระทั่งถึงวันที่พวกเขาจะถูกฟื้นคืนชีพขึ้นมา(ซึ่งพวกเขาจะต้องพำนักอยู่ที่นั่นจนกระทั่งถึงวันกิยามะฮ์)”

           โลกบัรซัคมีลักษณะที่แตกต่างกัน แล้วแต่สภาพของผู้ที่เสียชีวิต ท่านเราะซูล   ได้อธิบายถึงสภาพของมนุษย์ที่เสียชีวิตและกำลังพำนักอยู่ในหลุมฝังศพ (โลกบัรซัค) ในหลายลักษณะดังนี้

     1. สิ่งที่ติดกับตัวมนุษย์คือ การงานของเขา มิใช่อย่างอื่น ท่านเราะซูล ได้ตักเตือนให้มุสลิมทุกคนสำนึกไว้ว่า เมื่อเขาได้เสียชีวิตลง สิ่งที่จะติดตัวไปกับเขาได้คือการงานของเขาเองที่ได้ปฏิบัติตั้งแต่บรรลุศาสนภาวะจนกระทั่งเสียชีวิต สิ่งอื่นๆไม่สามารถนำไปได้ ถึงแม้ญาติมิตรจะฝากสิ่งของและฝังพร้อมกับผู้เสียชีวิตอย่างที่คนบางกลุ่มเข้าใจว่าผู้เสียชีวิตจะได้ใช้ในหลุมฝังศพ แต่ตามหลักการอิสลาม มนุษย์ไม่สามารถใช้ประโยชน์กับสิ่งเหล่านั้นได้ เพราะบัรซัคเป็นโลกที่เฉพาะเจาะจงสำหรับคนที่ตายไปแล้ว ไม่เหมือนกับในโลกปัจจุบันนี้

  ท่านเราะซูล  ได้กล่าวไว้ในหะดีษบทหนึ่งว่า

يتْبَعُ الميِّتَ ثلاثةٌ فيرْجِعُ اثْنانِ ويبْقى معَه واحِدٌ : يتبعُه أهلُه ومالُه وعملُه فيرجِعُ اهلُه ومالُه ويبْقى عملُه (رواه البخاري رقم الحديث 6514)

  ความว่า “มี 3 ประการที่จะติดตามไปพร้อม ๆ กับผู้เสียชีวิต คือเครือญาติ ทรัพย์สินและการงานของเขาเอง และ 2 ประการจะกลับที่เดิม คือเครือญาติและทรัพย์สิน แต่จะมีเพียงประการเดียวที่ติดตัวผู้เสียชีวิต คือการงานของเขา”

          ลูกหลานและญาติมิตรของผู้เสียชีวิตต่างคนต่างกลับบ้านของตนเอง และทรัพย์สินของผู้ที่ตายไม่มีใครยอมที่ฝังไปพร้อมกับศพ ถึงแม้ว่าบางคนยินดีที่จะฝังทรัพย์สินลงไปพร้อมกับศพ ศพนั้นก็ไม่สามารถที่จะใช้ประโยชน์จากมันได้ เพราะโลกบัรซัคไม่ใช่โลกดุนยา

     2. หลุมฝังศพอาจเป็นสวนหนึ่งของความสุขสบาย หรือเป็นขุมหนึ่งจากบรรดาขุมนรก ท่านเราะซูล ได้ตักเตือนมนุษย์ทั้งหลายว่าทุกคนจะได้ลิ้มรสความสุขสบาย หรืออาจจะได้ประสบความทุกข์ทรมานตั้งแต่ยังอยู่ในหลุมฝังศพ

ท่านเราะซูล ได้กล่าวว่า

إنَّما القَبْرُ روضَةٌ مِن رِياضِ الجنَّةِ أو حفْرةٌ من حُفْرِ النَّار (رواه الترمِذي رقم الحديث 2468)
 
 ความว่า “หลุมฝังศพนั้นอาจเป็นสวนหนึ่งในบรรดาสวนสวรรค์ หรืออาจเป็นขุมหนึ่งในบรรดาขุมนรก”

    

     3. ผู้ที่อยู่ในหลุมฝังศพจะไม่มีการตาย

         ผู้ที่ตายไปแล้ว หากเขาเป็นผู้ศรัทธาและปฏิบัติตามบัญญัติที่พระองค์อัลลอฮ์ ทรงสั่งใช้ เขาจะได้ประสบกับความโปรดปรานจากพระองค์ และจะได้ลิ้มรสความสุขสบายอย่างที่ไม่เคยพบเจอมาก่อนบนโลกดุนยา และหากเขาเป็นผู้ปฏิเสธพระองค์อัลลอฮ์และไม่เคยปฏิบัติในสิ่งที่พระองค์ทรงสั่งให้กระทำ เขาจะได้รับความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส และทั้งสองกลุ่มนี้จะคงอยู่ในสภาพอย่างนี้ตลอดไปจนถึงวันที่พระองค์ทรงกำหนด (วันกิยามะฮ์)เป็นวันแห่งการฟื้นคืนชีพ โดยไม่มีการเสียชีวิตต่อไป

 ท่านเราะซูล  ได้เล่าเรื่องนี้ไว้ว่า

ينادِي منادٍ : أنَّ لَكم أن تصِحُّوا فلا تسقَموا أبداً وإنَّ لَكم أن تحْيَوا فلا تموتوا أبداً وإنَّ لَكم أن تشِبُّوا فلا تهْرُموا أبداً وإنَّ لكم أن تنْعَموا فلا تبْأسوا أبداً وذلك قولُه تعالى (ونُودُوا أن تلْكُمُ الجنَّةُ أورِثْتموها بِما كنتُم تعْمَلون) رواه مسلم رقم الحديث2837)

ความว่า “วันนั้นจะมีผู้ประกาศกล่าวว่า พวกเจ้าทั้งหลายจะมีความสุข ไม่มีการเจ็บไข้ได้ป่วย พวกเจ้าจะมีชีวิตตลอดกาล ไม่มีการตายอย่างแน่นอน พวกท่านจะอยู่ในวัยหนุ่มตลอดไป จะไม่แก่และจะมีความสุขสบาย ไม่มีความทุกข์ใด ๆ”

          นี่คือความหมาย ของพระดำรัสของพระองค์อัลลอฮ์ ที่กล่าวว่า

“ นั่นแหละคือสวนสวรรค์โดยที่พวกเจ้าได้รับมันไว้เป็นมรดก เนื่องด้วยสิ่งที่พวกเจ้าเคยกระทำกันไว้”

    

     4. ผู้ที่อยู่ในหลุมฝังศพจะได้เห็นสิ่งที่พวกเขาไม่เคยเห็น จะได้ยินสิ่งที่พวกเขาไม่เคยได้ยินและจะประสบกับสิ่งที่ไม่เคยคาดฝัน 

เกี่ยวกับเรื่องนี้ท่านเราะซูล  ได้กล่าวไว้ว่า

قالَ الله : أعْدَدْتُ لِعِباديَ الصالِحين ما لا عينٌ رأتْ ولا أُذُنٌ سمِعَت ولا خَطَرَ على قلْبِ بَشَر (رواه مسلم رقم الحديث 2824)

ความว่า “พระองค์อัลลอฮ์ได้ตรัสไว้ว่า ฉันจะเตรียม(รางวัลตอบแทน)ให้แก่บ่าวของข้าด้วยสิ่งที่ตาของพวกเขาไม่เคยเห็น และหูของพวกเขาไม่เคยได้ยินและสิ่งที่ใจของพวกเขาไม่เคยนึกฝันมาก่อน”


โดย อ. อับดุลเราะมัน เจะอารง

โลกดุนยา>>>>Click

โลกบัรซัค (3) >>>>Click