การรวมกลุ่มเพื่อศึกษาอัลกุรอาน
  จำนวนคนเข้าชม  6212

การแสวงหาความรู้ และการรวมกลุ่มกันเพื่อศึกษาอัลกุรอาน


               รายงานจากอบีฮุรอยเราะห์ จากท่านนบี กล่าวว่า

            “ผู้ใดขจัดความเดือดร้อนหนึ่งจากความเดือดร้อนทั้งหลายในดุนยาออกจากผู้ศรัทธา อัลเลาะห์จะทรงขจัดความเดือดร้อนหนึ่งจากความเดือดร้อนทั้งหลายในวันกิยามะห์ของเขา ผู้ใดให้ความสะดวกง่ายดายแก่ผู้ที่ได้รับความยุ่งยาก อัลเลาะห์จะทรงให้ความสะดวกง่ายดายแก่เขาทั้งในดุนยาและอาคิเราะห์ ผู้ใดปกปิดให้แก่มุสลิม อัลเลาะห์จะทรงปกปิดให้แก่เขาทั้งในดุนยาและอาคิเราะห์ อัลเลาะห์นั้นทรงช่วยเหลือบ่าว ตราบใดที่บ่าวได้ให้ความช่วยเหลือพี่น้องของเขา ผู้ใดดำเนินไปตามแนวทางแห่งการแสวงหาวิชาความรู้ อัลเลาะห์จะให้หนทางแห่งความสะดวกง่ายดายแก่เขาไปสู่สวรรค์ ไม่มีกลุ่มชนหนึ่งกลุ่มชนใดที่ได้รวมตัวกันในบ้านหลังหนึ่งหลังใด จากบรรดาบ้านของอัลเลาะห์ (หมายถึงมัสยิด) อ่านคัมภีร์ของอัลเลาะห์ (อัลกุรอาน) และต่างก็ศึกษาหาความรู้จากคัมภีร์นั้นในระหว่างพวกเขา นอกจากความสงบสุขจะลงมาสู่พวกเขา ความเอ็นดูเมตตาจะปกคลุมพวกเขา มะลาอิกะห์จะห้อมล้อมพวกเขา อัลเลาะห์จะกล่าวถึงพวกเขาให้แก่ผู้ที่อยู่ ณ พระองค์ และผู้ใดที่การงานของเขาบกพร่อง ตระกูลของเขาก็ไม่สามารถทำให้เขาอยู่ในกลุ่มผู้ที่ทำอะมัลการงานที่สมบูรณ์ได้ ”

บันทึกโดยมุสลิม
(ดูในมุสลิม หะดีษเลขที่ 2699) 
 
คำอธิบาย

              อัลเลาะห์ ทรงตอบแทนให้แก่ผู้ศรัทธา เหมือนกับสิ่งที่ผู้ศรัทธาได้ปฏิบัติต่อพี่น้องของเขา ถ้าหากผู้ศรัทธาให้ความเอ็นดูต่อพี่น้องของเขา อัลเลาะห์ก็จะทรงเอ็นดูเมตตาเขาเช่นกัน ถ้าหากเขาไม่กระทำเช่นนั้น อัลเลาะห์ก็จะไม่ทรงตอบแทนให้เช่นกัน
             หะดีษนี้ท่านร่อซูล ชี้แจงไว้ว่า ผู้ที่ให้ความช่วยเหลือพี่น้องผู้ศรัทธาของเขานยามตกทุกข์ได้ยาก เผชิญกับปัญหาชีวิต หรือถูกกดดันอย่างหนึ่งอย่างใด ในวันกิยามะห์ อัลเลาะห์จะทรงให้ผู้นั้นรอดพ้นจากความลำบากยากเข็ญ ผู้ใดให้ความช่วยเหลือพี่น้องผู้ศรัทธาด้วยการช่วยชดใช้หนี้สิน หรือเลื่อนกำหนดออกไปอัลเลาะห์ก็จะทรงผ่อนคลายปัญหาในการดำเนินชีวิตของเขา
             ผู้ใดรู้เห็นสิ่งที่ไม่ดีอันอาจจะก่อให้เกิดการกระทบกระเทือนต่อเกียรติยศ ชื่อเสียง ชีวิตและทรัพย์สินของผู้ศรัทธา ผู้นั้นก็ปกปิดไว้ไม่เปิดเผยให้เป็นข่าวออกไป อัลเลาะห์ จะทรงปกปิดสิ่งที่ไม่ดีของเขา ทั้งในดุนยาและอาคีเราะห์เป็นการตอบแทน ดังกล่าวนี้จะเห็นได้ว่า ตราบใดที่มนุษย์มีจิตใจเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก เอ็นดูเมตตาต่อกัน เท่าที่สามารถจะกระทำได้ อัลเลาะห์จะตอบสนองความต้องการของเขาเหมือนกับที่เขาคอยตอบสนองความต้องการของผู้อื่น
             ในการที่จะให้ความช่วยเหลือต่อผู้อื่น การมีวิชาความรู้เป็นส่วนสำคัญประการหนึ่ง ท่านร่อซูล จึงอธิบายเพิ่มเติมว่า ผู้ใดแสวงหาความรู้เป็นอันดับแรก และพยายามปฏิบัติตามทฤษฎีที่ได้เรียนรู้มา อัลเลาะห์จะทรงแนะแนวทางให้เขาไปสู่สวรรค์ กล่าวคือ เมื่อเขาเป็นผู้ที่มีความรู้ เขาก็สามารถปฏิบัติการงานได้อย่างถูกต้อง เขาก็จะได้รับผลตอบแทนอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ซึ่งจะเป็นเหตุให้เขาได้เข้าสวรรค์
            ท่านร่อซูล ได้กล่าวอีกว่า มัสญิดนั้นเป็นแหล่งที่มีความเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการอ่านและศึกษาหาความเข้าใจความหมายของอัลกุรอาน และเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะใช้เป็นที่ประกอบอิบาดะห์ และถ้าหากมีการกระทำเช่นนั้นขึ้น มะลาอิกะห์จะลงมาห้อมล้อม ความโปรดปรานจากอัลเลาะห์จะปกคลุมทั่วบริเวณ จิตใจของผู้คนจะเกิดความสงบสุข บรรดามะลาอิกะห์จะขออภัยโทษให้ ชัยฏอนจะหลีกห่างไม่เข้ามารบกวน
            ชีวิตมุสลิมนั้นต้องดำเนินไปอย่างเป็นรูปธรรมสัมผัสได้ มิใช่เป็นแต่เพียงความหวังที่ตั้งไว้โดยไม่มีการปฏิบัติ ผู้ใดไม่ลงมือกระทำด้วยตนเอง การอ้างว่าวงศ์ตระกูลของตนเคยทำอย่างนั้นอย่างนี้มาก่อนแล้วก็ไม่ช่วยให้เขาได้รับการตอบแทนจากอัลเลาะห์แต่ประการใดและการอ้างว่าตนเป็นมุสลิม แต่ไม่ปฏิบัติตามคำสอนของอิสลาม ก็ไม่ช่วยให้เขาเป็นมุสลิมที่ดีได้ การไม่ปฏิบัติอะมัลซอและห์ จะไม่ช่วยให้เขารอดพ้นจากการถูกลงโทษได้เช่นกัน

สิ่งที่ด้รับจากหะดีษนี้

1. ชี้ให้เห็นถึงความประสริฐของผู้ที่ช่วยเหลือคนที่ตกทุกข์ได้ยาก
2. ชี้ให้เห็นถึงการแสวงหาวิชาความรู้ว่าเป็นลู่ทางนำไปสู่ความดีทั้งปวง
3. ส่งเสริมให้รวมกลุ่มเพื่อศึกษาหาความรู้จากอัลกุรอานและอ่านกุรอาน


ที่มา: ริยาดุสซอลีฮีน


โดย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ