ธรรมชาติในยุคปัจจุบัน
  จำนวนคนเข้าชม  7911

ธรรมชาติในยุคปัจจุบัน

         

         มีหลายคนที่ไม่เอาใจใส่ ไม่สนใจ ไม่ไยดีต่ออุดมการณ์อิสลาม หลักการเชื่อถือ บทบัญญัติ จรรยามารยาท คุณงามความดีต่างๆของศาสนา ปล่อยปละละเลยสิ่งที่ได้เรียนรู้และประมวลรวบรวมไว้ จากแนวทางสำหรับการมีชีวิตอยู่ และรูปแบบของการดำเนินชีวิต

         ความสนใจของคนส่วนมากคือ การประกันอาหารแต่ละคำจะกินเข้าไป และการให้ได้มาซึ่งความสุขสบายจำนวนมาก พวกเขาค้นหาทฤษฎีทางวิชาการจำนวนมากอย่างเคร่งเครียดสุดๆ อยู่กับระบบเศรษฐกิจ การวางข้อบัญญัติทางสังคม นอกจากนั้นเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับเผ่าพันธุ์ ชาตินิยม ยังได้ครอบงำความอุตสาหะ และการต่อสู้ของพวกเขา และจากผลของสิ่งที่ได้กล่าวมาทั้งหมด ชีวิตก็เจริญก้าวหน้าอย่างมากมาย ทางด้านวัตถุ กรอบความรู้ ความเข้าใจศิลปะและวรรณกรรมต่างๆ ได้ขยายออกไป และมีการพบบางแง่บางมุม ของการปรับปรุงในระบบการเมือง สังคม และเศรษฐกิจ ซึ่งทำให้มนุษย์มีความสามารถ ด้วยความเฉลียวฉลาด สติปัญญา และประสบการณ์ต่างๆของเขา ในการที่จะกล่อมเกลา หล่อหลอม ธรรมชาติ และปรับปรุงข้อกำหนดต่างๆของมัน

          ทั้งๆที่มีความเจริญก้าวหน้าทางวัตถุนี้ มันก็มิได้ให้ความสงบสุขแก่จิตใจ หัวใจ ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องราวต่างๆกลับเป็นไปในทางตรงกันข้าม เพราะว่าความเจริญก้าวหน้านี้ ได้นำมาซึ่งความกังวลความกลัว และความกระวนกระวาย อันมากมาย ซึ่งได้ทิ้งไว้อยู่เบื้องหลังในความเห็นแก่ตัว มีทิฐิมานะ ไม่สนใจคนอื่น ทำให้การเอาแต่ใจตนเองเป็นการกำหนดในสิ่งต่างๆที่อยากได้ โดยธรรมชาติการเอาแต่ใจตนเองจะไม่ให้ความสำคัญแก่สิ่งที่เป็นสิ่งต้องห้าม ไม่ยอมรับจรรยามารยาท ไม่เคารพกฏหมาย ไม่รักษาสิทธิและหน้าที่ต่างๆ ไม่นำพามนุษย์ไปสู่ความสมบูรณ์ของเขาที่ควรจะเป็น ความก้าวหน้าทางวัตถุได้ขีดวงจำกัดอยู่ในสิ่งที่เป็นวัตถุเท่านั้น ทรัพย์สินจึงเป็นสิ่งมีคุณค่า พลังอำนาจเป็นสิ่งมีคุณค่า และการหาความสุขใส่ตนเองนั้นเป็นสิ่งมีคุณค่าเช่นกัน

         บทบัญญัติของป่่า ได้กลายมาเป็นข้อชี้ขาดในการไล่ล่า ครอบงำหัวใจของผู้ที่อ่อนแอ และการข่มขู่ การก่อสงครามที่ไม่มีวันจบสิ้น หลังสงครามโลกครั้งที่สองที่ได้ทำลายชีวิตมนุษย์ชาติไปจำนวนหลายล้านคน ทรัพย์สินจำนวนมากต้องสูญเสียไป อันเนื่องจากความก้าวหน้าทางวัตถุ ความอิจฉาริษยา ความละโมบโลภมาก ตัณหาราคะ การทะเลาะเบาะแว้ง และความแตกแยก ได้กลายเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นสำหรับมนุษย์ในยุคนี้

         โดยปกติแล้วการสิ้นเนื้อประดาตัว โดยคุณสมบัติและจรรยามารยาท จะผินสายตาของนักคิด ที่มีความสมเพชเวทนามนุษย์ และชอบที่จะให้พวกเขามีชีวิตอยู่ในลักษณะที่เป็นไปตามธรรมชาติ และจะไม่มองไปยังระบบแบบแผนต่างๆเหล่านี้ หลังจากความล้มเหลว การหมดสิ้นความสามารถในการทำให้ความสุขเกิดขึ้นแก่มนุษย์ได้ และการไม่มีความสามารถในการหาความผาสุขได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์

         แท้จริง จะต้องมีสิ่งที่ทดแทน มาทำหน้าที่เพื่อที่มนุษย์ชาติจะได้ไปถึงความสมบูรณ์ของพวกเขา ที่มีการมุ่งหวัง และการใฝ่หาความสุขอย่างแท้จริง

ไม่มีสิ่งใดมาแทนที่ได้นอกจาก"ศาสนา" เท่านั้น

         ศาสนาเท่านั้น ที่สามารถจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในจิตใจของผู้คนทั้งหลาย และด้วยการเปลี่ยนแปลงของจิตใจของผู้คนทั้งหลาย สังคมจะเปลี่ยนแปลงไปตามกฏทั่วไป

อัลลอฮ์ ซุบฮาน่าฮูว่าตะอาลา ทรงตรัสว่า

"แท้จริง อัลลอฮ์ จะม่ทรงเปลี่ยนแปลง สิ่งที่มีอยู่กับหมู่คณะหนึ่ง หมู่คณะใด จนกว่า หมู่คณะนั้นะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่มีอยู่ ในตัวของพวกเขาเสียก่อน เท่านั้น" (อัรเราะอ์ด : 11)

โดย ไชยค์ อัสไซยยิด ซาบิ๊ก / สาธารณรัฐอาหรับอียิปต์