จุดยืนของอิสลามกับประชานิยม 
  จำนวนคนเข้าชม  39

จุดยืนของอิสลามกับประชานิยม 

 

เรียบเรียงโดย... อ. อิสมาอีล  กอเซ็ม  

 

บทความวิเคราะห์เชิงศาสนา สังคม และโครงสร้างอำนาจ

     ในยุคสมัยที่ประชาธิปไตยกลายเป็นรูปแบบการปกครองหลักของหลายประเทศ นักการเมืองจำนวนมากต่างค้นหาเครื่องมือเพื่อเข้าถึงอำนาจทางการเมืองให้ได้ง่ายที่สุด 

     หนึ่งในเครื่องมือที่ทรงพลังและ อันตรายที่สุด คือ “ประชานิยม” (Populism) ซึ่งถูกใช้เพื่อสร้างความนิยมในหมู่ประชาชน ด้วยนโยบายที่ตอบสนองความรู้สึกและผลประโยชน์ระยะสั้น แม้จะแลกมาด้วยความเสียหายลึกในระยะยาวต่อสังคมและประเทศชาติ

 

คำถามสำคัญคือ: อิสลามมีมุมมองและจุดยืนอย่างไรต่อประชานิยม ?

 

บทความนี้จะอธิบายทั้งเชิงการเมืองร่วมสมัยและหลักการอิสลามที่สัมพันธ์กับการบริหารบ้านเมือง

 

1. ประชานิยม: อาวุธของนักการเมือง ภายใต้ชื่อ ‘ประชาธิปไตย’

 

     ประชานิยมเป็นนโยบายที่ดูเหมือนจะสร้างประโยชน์แก่ประชาชน แต่แท้จริงมักถูกออกแบบเพื่อดึงคะแนนเสียงมากกว่าจะพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน แม้ประชาธิปไตยจะอ้าง “อำนาจเป็นของประชาชน” แต่ในทางปฏิบัติ นักการเมืองมักใช้ประชานิยมเป็นเครื่องมือเพื่อ :

- มอบผลประโยชน์เฉพาะหน้า

- ทำให้ประชาชนพึ่งพารัฐ

- สะสมฐานเสียง

- และรักษาอำนาจของตนเอง

     ประชานิยมจึงไม่ใช่นโยบายพัฒนา แต่เป็น “กลยุทธ์ทางอำนาจ” ที่มีเป้าหมายคือชัยชนะในการเลือกตั้ง ไม่ใช่ความยั่งยืนของประเทศ

 

 

2. อำนาจ: สิ่งที่มนุษย์ต้องการ และวิธีเข้าถึงมัน

 

     มนุษย์จำนวนมากใฝ่หาอำนาจ เพราะอำนาจเป็นที่มาของ : เงินทอง, บริวาร, เกียรติยศ, และการยอมรับในสังคม

     วิธีเข้าสู่อำนาจจึงมีหลายรูปแบบ ส่วนในระบอบประชาธิปไตย อำนาจเข้าถึงผ่านการเอาชนะใจผู้มีสิทธิเลือกตั้ง

     ดังนั้น คำถามสำคัญของนักการเมืองคือ “จะทำอย่างไรให้คนส่วนใหญ่เลือกเรา?” 

     คำตอบคือ “ประชานิยม” นั่นเอง ที่กลายเป็นเครื่องมือชั้นยอดของนักการเมืองทั่วโลก

 

 

3. ประชานิยม: ความหวานที่มอมเมา และความขมที่จะตามมา

 

     ประชานิยมเป็นนโยบายหวานปาก ให้ผลเร็ว แต่แฝงพิษร้ายระยะยาว เพราะมอบผลประโยชน์โดยไม่สนรายได้ของประเทศ รัฐบาลใช้เงินมากกว่าที่รัฐมีจริง หวังเพียงคะแนนเสียงในเวลาสั้น ๆ สร้างหนี้สินมหาศาลให้คนทั้งชาติ ผู้ออกนโยบายไม่ได้ใช้เงินของตัวเอง แต่ใช้ทรัพย์สินสาธารณะ ผลคือหนี้สาธารณะพุ่ง และประเทศอาจล้มละลายได้

     ประชาชนติดการพึ่งพารัฐ ทำให้ประชาชนรอแต่ของแจก ขาดแรงจูงใจในการพึ่งตนเอง สุดท้ายสังคมค่อย ๆ อ่อนแอ เม็ดเงินจำนวนมากถูกใช้ผิดทาง เงินที่ใช้กับประชานิยม สามารถนำไปพัฒนาโครงสร้างสำคัญ เช่น โรงพยาบาล, โรงเรียน, โรงงาน, โครงสร้างพื้นฐาน, นวัตกรรมและเทคโนโลยี ซึ่งสร้างคุณค่าระยะยาวกว่านโยบายเอาใจมวลชนหลายเท่า

 

 

4. ประชานิยมในมุมของหลักการอิสลาม 

 

     อิสลามมีหลักชัดเจนเกี่ยวกับการใช้อำนาจและการบริหารสาธารณะว่า ผู้นำต้องซื่อสัตย์ ยุติธรรม และไม่สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนในระยะยาว

     อัลกุรอานกล่าวว่า 

“จงมอบความไว้วางใจแก่ผู้ที่คู่ควร และเมื่อพิพากษา จงพิพากษาด้วยความยุติธรรม” 

(อันนิสาอ์ 4:58)

     และท่านนบี ﷺ กล่าวว่า “ทุกคนเป็นผู้รับผิดชอบ และจะถูกถามถึงความรับผิดชอบนั้น”

     เมื่อเทียบกับประชานิยม จะพบว่ามีหลายประเด็นที่ขัดกับหลักศาสนา เช่น การใช้ทรัพย์สินของรัฐเพื่อคะแนนเสียง เป็นการทรยศต่อ “อามานะฮ์” ซึ่งเป็นรากฐานของการบริหารในอิสลาม

     การสิ้นเปลืองฟุ่มเฟือยด้วยเงินของชาติ : อัลกุรอานเตือนว่า “อย่าสิ้นเปลืองฟุ่มเฟือย” (อัลอิสรออ์ 17:26–27) การใช้เงินมหาศาลโดยไม่คำนึงความยั่งยืน ถือเป็น มะฟาซิด (ความเสียหาย)

     ทำให้ประชาชนเกียจคร้าน : อิสลามต้องการให้มนุษย์ลุกขึ้นทำงาน ไม่ใช่รอของให้จากรัฐ 

     อุมัร อิบนุลค็อฏฏอบ เคยตำหนิการให้ที่ทำให้คนหยุดทำงาน โดยกล่าวว่า “ฉันเกรงว่าพวกเขาจะกลายเป็นชนที่ขี้เกียจและเอาแต่ขอ” หลักศาสนาจึงไม่สนับสนุนนโยบายที่ทำให้สังคมเสื่อมศักยภาพ

 

 

5. ประชานิยมขัดกับหลักมะศอลิหฮ์ของอิสลามอย่างไร

 

     อิสลามตั้งเป้าหมายในการปกครองว่า ต้องสร้างผลประโยชน์ที่แท้จริงแก่สังคมและป้องกันความเสียหาย (หลัก มะศอเลาะฮ์)

     ประชานิยมจำนวนมากขัดกับหลักนี้ เพราะให้ประโยชน์สั้น แต่สร้างโทษยาว ทั้งด้านหนี้สินและวัฒนธรรมสังคมพึ่งพิง ทำให้คนรุ่นหลังแบกรับภาระจากการตัดสินใจที่ผิดพลาดของผู้นำ ขัดกับหลัก “ไม่สร้างความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น” ทำให้ประเทศพลาดโอกาสพัฒนาโครงสร้างสำคัญ เพราะทรัพยากรถูกใช้ไปอย่างผิดที่ผิดทาง

 

 

6. อิสลามสนับสนุนแบบการบริหารที่ตรงข้ามกับประชานิยม

 

อิสลามสนับสนุนการบริหารที่ยั่งยืน มีศีลธรรม และสร้างคุณค่าระยะยาว ได้แก่

ความยุติธรรม (อัดล์) : ไม่เอื้อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเพียงเพื่อคะแนนเสียง

อามานะฮ์ (ความซื่อสัตย์ต่อทรัพย์สินของชาติ) : เงินของรัฐต้องใช้เพื่อประโยชน์ที่แท้จริง ไม่ใช่ “เรียกคะแนน”

การสร้างความสามารถให้ประชาชน : ให้การศึกษา สร้างงาน สนับสนุนกิจการ เพื่อให้คนพึ่งพาตนเองได้

การวางแผนระยะยาว : อิสลามเน้นความมั่นคง ความยั่งยืน และผลประโยชน์ของคนรุ่นต่อไป

 

จุดยืนที่ชัดเจน

     เมื่อผสานการวิเคราะห์ทางการเมืองร่วมสมัยเข้ากับหลักศาสนาอิสลาม จะเห็นว่าประชานิยมที่หวังคะแนนเสียง ไม่ใช่นโยบายที่อิสลามสนับสนุน เพราะทำให้สังคมอ่อนแอ ประเทศเป็นหนี้ และบั่นทอนศักดิ์ศรีของประชาชน

 

     อิสลามยืนอยู่บนหลักของ ความยุติธรรม ความรับผิดชอบ และความยั่งยืน ซึ่งสวนทางกับประชานิยมที่หวังผลลัพธ์ในเวลาอันสั้น ผู้นำที่ดำเนินตามแนวอิสลามต้องถามคำถามนี้เสมอว่า “นโยบายนี้เพื่อประเทศในอีก 10 ปีข้างหน้า หรือเพียงเพื่อชนะเลือกตั้งครั้งหน้า?”

 

          จุดยืนที่ชัดเจนของอิสลามต่อประชานิยมคือ— อิสลามสนับสนุนการช่วยเหลือที่ทำให้ประชาชนแข็งแรงขึ้น ไม่ใช่การมอมเมาที่ทำให้พวกเขาอ่อนแอลง...