บทบาทของสถาบันการเงินและ นักธุรกิจอิสลาม ต่อการเยียวยาชุมชน
  จำนวนคนเข้าชม  48

บทบาทของสถาบันการเงินอิสลาม และนักธุรกิจอิสลาม ต่อการเยียวยาชุมชน

 

เรียบเรียงโดย อิสมาอีล  กอเซ็ม  

 

มวลการสรรเสริญเป็นเอกสิทธิ์ของอัลลอฮฺผู้อภิบาลแห่งสากลโลก  

     อุทกภัยคือภัยพิบัติที่สร้างความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินอย่างมากมาย ผู้คนจำนวนมากสูญเสียบ้าน สวนยาง สวนปาล์ม ร้านค้า พาหนะ และเครื่องมือทำมาหากิน ในช่วงที่น้ำท่วม ทุกครอบครัวต้องดิ้นรนอยู่กับความไม่แน่นอน แต่ ความยากลำบากที่แท้จริงเริ่มต้นหลังน้ำลดเมื่อความเสียหายปรากฏชัด และภาระหนี้ก้อนใหญ่ปรากฏตรงหน้า

 

     หลายคนไม่มีทุนเริ่มต้นใหม่ หลายคนสูญเสียรายได้ทันที บางคนต้องกู้เงินเพื่อซื้อเครื่องใช้จำเป็นหรือซ่อมบ้าน และเมื่อดอกเบี้ยเดินหน้าไม่หยุดจึงเกิดภาระหนักจนไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร

บางครอบครัวถึงขั้น “หมดตัว ไม่มีแม้ทุนตั้งต้นชีวิต”

 

     นี่คือสถานการณ์ที่เรียกร้องให้ สังคมมุสลิมทุกภาคส่วนต้องลุกขึ้นช่วยเหลือ โดยเฉพาะสถาบันที่มีศักยภาพที่สุดในด้านเศรษฐกิจ ได้แก่

 (1) สถาบันการเงินอิสลาม—เช่น สหกรณ์อิสลาม

 (2) นักธุรกิจอิสลาม—ผู้มีทุน เครือข่าย และกำลังบริหาร

      ทั้งสองเป็น กำลังหลักที่ศาสนาและสังคมคาดหวังให้มีบทบาทสำคัญในการเยียวยาและฟื้นฟูคนที่เจ็บปวดที่สุดในเวลานี้

 

1. ความจำเป็นของการช่วยเหลือ: หลักฐานจากอัลกุรอานและหะดีษ

 

     ศาสนาของเราไม่ได้ปล่อยให้คนที่เดือดร้อนต้องยืนลำพัง อัลลอฮ์ทรงเรียกร้องให้สังคมเป็นผู้แบกรับภาระร่วมกัน

 

     1.1 อัลกุรอานสั่งให้ร่วมมือกันในความทุกข์ยาก

( وَتَعَاوَنُوا عَلَى الْبِرِّ وَالتَّقْوَىٰ )

“และจงช่วยเหลือกันในความดีและความยำเกรง”

(อัลมาอิดะฮ์ 5:2)

     การฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยคือหนึ่งในความดีที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

 

     1.2 การบรรเทาทุกข์ คืออิบาดะฮ์ที่มีผลตอบแทนสูง

     ท่านนบี ﷺ กล่าวว่า

« مَن نَفَّسَ عَنْ مُؤْمِنٍ كُرْبَةً… نَفَّسَ اللَّهُ عَنْهُ »

“ผู้ใดบรรเทาทุกข์ให้ผู้ศรัทธา อัลลอฮ์จะบรรเทาทุกข์ให้เขาในวันอาคิเราะฮ์”

(บันทึกโดยมุสลิม)

     การเยียวยาผู้ที่สูญเสียบ้าน–ทรัพย์–อาชีพ คือการบรรเทาทุกข์โดยตรง

 

     1.3 อัลลอฮ์อยู่กับผู้ที่ช่วยเหลือกัน

« وَاللَّهُ فِي عَوْنِ الْعَبْدِ مَا كَانَ الْعَبْدُ فِي عَوْنِ أَخِيهِ »

“อัลลอฮ์จะช่วยบ่าว ตราบใดที่เขาช่วยพี่น้องของเขา”

(มุสลิม)

     สิ่งที่ผู้ประสบภัยต้องการตอนนี้ไม่ใช่เพียงเงิน แต่คือ มือ ที่ยื่นเข้ามาพยุงอย่างจริงใจ

 

     1.4 ดอกเบี้ยเป็นสิ่งที่สร้างความเสียหายไม่ใช่ทางออก

( يَمْحَقُ ٱللَّهُ ٱلرِّبَوٰا وَيُرْبِى ٱلصَّدَقَٰتِ )

“อัลลอฮ์ทรงทำลายดอกเบี้ย และทรงเพิ่มพูนการทำดี”

(อัลบะกอเราะฮ์ 2:276)

     ดังนั้น ผู้ประสบภัยที่ตกต่ำอยู่แล้ว ต้องไม่ถูกผลักให้เป็นหนี้ดอกเบี้ยเพิ่ม ระบบการเงินอิสลามคือทางออกที่ศาสนากำหนดไว้แล้ว

 

 

2. ทำไมสถาบันการเงินอิสลามต้องเป็น “ด่านหน้า” ในการฟื้นฟู

 

     สหกรณ์อิสลามและสถาบันการเงินตามหลักชะรีอะฮ์ คือองค์กรที่ถูกออกแบบมาเพื่อสถานการณ์แบบนี้โดยเฉพาะ เพราะมีคุณสมบัติสำคัญดังนี้:

     ปลอดดอกเบี้ย 100% มีความใกล้ชิดกับชุมชนตัดสินใจได้รวดเร็วมีระบบบัญชีตามหลักศาสนามีประสบการณ์ช่วยเหลือคนยากลำบาก ดังนั้นสหกรณ์อิสลามสามารถดำเนินการได้ทันที เช่น

 

     2.1 ให้  (เงินกู้ปลอดดอกเบี้ย) แก่ผู้ประสบภัย เพื่อซื้ออุปกรณ์ฟื้นบ้าน ฟื้นอาชีพ และใช้จ่ายฉุกเฉิน ไม่มีภาระเพิ่ม ไม่มีดอกเบี้ย ไม่มีค่าปรับ

 

     2.2 ใช้มูรอบาฮะ  เพื่อจัดหาทุนอาชีพ สหกรณ์ซื้อของให้ก่อน แล้วให้สมาชิกผ่อนแบบ “ราคาคงที่–ไม่มีดอกเบี้ย” เหมาะกับซ่อมบ้าน เครื่องมือประมง รถพ่วงข้าง เครื่องมือสวน/ยาง/ปาล์ม สินค้าตั้งร้านใหม่

 

     2.3 สนับสนุนผู้ประกอบการด้วย  (หุ้นส่วนร่วมทุน) แทนที่จะปล่อยกู้ สหกรณ์สามารถ ร่วมทุน กับผู้เสียหาย แบ่งกำไร–ขาดทุนตามจริง ไม่สร้างภาระปลอดอธรรม ตามหลักหะดีษ: « يَدُ اللَّهِ عَلَى الشَّرِيكَيْنِ »

 

     2.4 เป็นศูนย์กลางประสานงานซะกาต–วากัฟ–บริจาค วางระบบช่วยเหลือแบบยั่งยืน โปร่งใส และถึงมือผู้เดือดร้อนจริง

 

 

 3. ทำไมนักธุรกิจอิสลามคือกำลังหลักในการฟื้นฟู

 

     นักธุรกิจอิสลามคือผู้ที่อัลลอฮ์ประทานทุนทักษะเครือข่ายกำลังบริหารอิทธิพลในสังคม ดังนั้นภารกิจนี้คือหน้าที่โดยตรงของพวกเขา

 

     3.1 ร่วมทุนกับผู้ประสบภัย (Musharakah Social Partnership) ช่วยเปิดร้าน–ฟื้นฟาร์ม–เริ่มอาชีพ ไม่ต้องกู้หนี้ ไม่ใช้ดอกเบี้ย แบ่งกำไรตามจริง แนวคิดเดียวกับกาตาร์–ตุรกี–UAE ที่ประสบความสำเร็จมหาศาล

 

     3.2 จัดตั้ง “วากัฟฟื้นฟูอุทกภัย” รายได้จากวากัฟใช้ซ่อมบ้านซื้อของใช้จำเป็น, ฟื้นฟูอาชีพ,ให้ทุนรายเดือนแก่ครอบครัวตกยาก สอดคล้องโองการ: ( وَمَا تُقَدِّمُوا لِأَنفُسِكُم مِّنْ خَيْرٍ تَجِدُوهُ عِندَ اللَّهِ)

 

     3.3 เปิดโควต้าการจ้างงานให้ผู้ประสบภัย เพื่อให้ครอบครัวมีรายได้ทันทีในช่วงวิกฤต เป็นการปฏิบัติตามหะดีษ: « خَيْرُ النَّاسِ أَنْفَعُهُمْ لِلنَّاسِ »

 

     3.4 สนับสนุนด้านทุน เชน–ต้นทุนสินค้า–วัตถุดิบในราคาพิเศษ นักธุรกิจสามารถลดภาระผู้ประสบภัยได้ดีกว่าหน่วยงานใด ๆ หน้าที่ร่วมกันของสังคมมุสลิมในยามน้ำลดเมื่อผู้ประสบภัยเผชิญกับความสูญเสียและภาระหนี้ก้อนใหญ่พวกเขาไม่ควรถูกปล่อยให้อยู่ลำพังและไม่ควรถูกบังคับให้เข้าสู่ระบบดอกเบี้ย

 

     สังคมมุสลิมทุกภาคส่วนต้องลุกขึ้นช่วยเหลือกัน แต่สองกลุ่มที่สำคัญที่สุดคือ สถาบันการเงินอิสลามใช้ กู้ปลอดดอกเบี้ย  หุ้นส่วนทางธุรกิจ ซากาต วากัฟ ช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างยุติธรรม

     นักธุรกิจอิสลามร่วมทุนจ้างงานสนับสนุนทุนตั้งวากัฟ เพื่อช่วยพี่น้องที่หมดตัวให้ลุกขึ้นยืนได้ใหม่ทั้งหมดนี้ตรงตามคำตรัสของอัลลอฮ์ว่า

 

( إِنَّ اللَّهَ يُحِبُّ الْمُحْسِنِينَ ) “แท้จริงอัลลอฮ์ทรงรักผู้กระทำความดี”

 

     และเชื่อมต่อกับเจตนารมณ์ของคำกล่าวนบี « وَاللَّهُ فِي عَوْنِ الْعَبْدِ… » นี่คือการฟื้นฟูที่ไม่เพียงยกชีวิตของผู้ประสบภัยขึ้นมา แต่ยังยกมาตรฐานของสังคมมุสลิมให้สูงขึ้น เป็นสังคมที่ไม่ทอดทิ้งกัน