
บันทึกแห่ง ’สัจธรรม’ 36
แปลเรียบเรียง...เพจบันทึกฮัก
ชัยคฺ อัลอัลบานีย์ -ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ-
หน้าที่ของดาอีย์คือการเผยแผ่ศาสนาไม่ใช่การบังคับให้คนยอมรับ
"ส่วนหนึ่งจากอะกีดะฮฺของแนวทางสลัฟ คือเราไม่มีอำนาจใดๆที่ชอบธรรมในการบังคับผู้คน เพราะอัลลอฮฺ ตรัสแก่ร่อซู้ลของพระองค์ว่า:
"เจ้าไม่ได้เป็นผู้มีอำนาจควบคุมพวกเขา" (หมายถึงไม่ได้มีสิทธิ์บังคับผู้คน)
ดังนั้น เราเองก็ไม่ใช่ผู้มีอำนาจเหนือผู้คนเช่นกัน แต่เราจะขอกล่าวถ้อยคำหนึ่งที่ถูกถ่ายทอดจากนักดาอีย์บางท่านว่า:
"จงกล่าวคำพูดของท่าน แล้วเดินจากไป" (คือทำหน้าที่ของตนในการบอกกล่าวความจริง แล้วปล่อยผลลัพธ์ไว้กับอัลลอฮฺ)
ท่านไม่มีอำนาจด้วยดาบ(กำลัง) ที่จะบังคับให้ผู้คนยอมรับความคิดเห็นของท่าน แต่หลักสัจธรรมคือ:
"ความจริงนั้นชัดเจน ส่วนความเท็จนั้นคลุมเครือ"
ดังนั้น หน้าที่ของเราคือการชี้แจงความจริงของเราให้ชัดเจน และแน่นอนแม้แต่คำที่จริงที่สุดบนหน้าแผ่นดินนี้คือ
‘ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮฺ’ (ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺ)
ก็ใช่ว่ามนุษย์ทั้งหมดจะยอมรับ..ใช่หรือไม่ ? เพราะฉะนั้น เป็นเรื่องปกติยิ่งกว่า ที่ผู้คนจะไม่ยอมรับความเห็นของผู้รู้ท่านใดท่านหนึ่ง"
“ سلسلة الهدى والنور ” 1/217
ท่าน อุบัยดฺ อัล-ญาบิรีย์ -ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ-
ถ่ายทอดความรู้ มรดกที่ยั่งยืนกว่าทรัพย์สิน
"เมื่อท่านได้เรียนรู้ศาสนาของอัลลอฮฺเท่าที่จะสามารถกระทำได้ และได้สอนภรรยาและลูกๆ
แน่นอนว่าท่านจะได้รับผลบุญจากพวกเขาไปเรื่อยๆ ตราบเท่าที่ลูกหลานยังคงสืบเชื้อสายต่อไป
แม้จะผ่านไปเป็นเวลาหลายร้อยปีก็ตาม"
تنبيه ذوي العقول السليمة (٤٩)
ชัยคฺ อับดุรเราะฮฺมาน อัซซะอฺดีย์ -ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ-
ความสุขเริ่มต้นเมื่อเรามองดูผู้ที่มีน้อยกว่า
หนึ่งในสาเหตุของความสุขคือการนำสิ่งที่ท่านนบี ﷺ ได้ชี้แนะนำมาใช้ ซึ่งท่านได้กล่าวไว้ว่า:
"พวกท่านจงมองไปยังผู้ที่ต่ำกว่า และอย่ามองไปยังผู้ที่อยู่เหนือกว่าพวกท่าน
เพราะนั่นเหมาะสมยิ่งกว่าที่พวกท่านจะไม่ดูถูก (หรือไม่มองข้าม) ความโปรดปรานของอัลลอฮฺ"
(บันทึกโดยมุสลิม)
แท้จริงแล้ว เมื่อเราได้ตั้งข้อสังเกตนี้ เราจะเห็นว่าตัวเองอยู่เหนือกว่าผู้คนมากมายในด้านสุขภาพและสิ่งต่างๆที่เกี่ยวข้อง รวมถึงด้านปัจจัยยังชีพและสิ่งต่างๆที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าฐานะของเขาจะเป็นอย่างไรก็ตาม แล้วความกังวล ความเศร้า และความกระวนกระวายจะหายไป
คงเหลือแต่ความสุขและความปิติยินดีในความโปรดปรานของอัลลอฮฺที่จะมีแต่เพิ่มขึ้น ยิ่งบ่าวได้ใช้เวลาไตร่ตรองความโปรดปรานของอัลลอฮฺทั้งที่ปรากฏเด่นชัดและที่ซ่อนเร้น ทั้งทางศาสนาและทางโลกได้มากเท่าใด เขาก็จะเห็นว่าพระเจ้าของเขาได้ประทานความดีงามแก่เขามากขึ้น
และพระองค์ยังได้ปัดเป่าความชั่วร้ายหลายประการออกไปจากตัวเขา และไม่ต้องสงสัยเลยว่าสิ่งนี้จะขับไล่ความกังวลและความเศร้าโศกเสียใจ และนำมาซึ่งความสุขและความปิติยินดี"
[ الوسائل المفيدة للحياة السعيدة ]
ชัยคฺ อิบนุ บาซ -ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ-
เริ่มทำดีจากคนใกล้ตัว และเพื่อนบ้านที่ใกล้ประตูที่สุด
ท่านหญิงอาอิชะฮฺ -ร่อฎิยัลลอฮุอันฮา- กล่าวว่า: "โอ้ท่านร่อซูลุลลอฮฺ ฉันมีเพื่อนบ้านอยู่สองคน ควรจะมอบของขวัญให้ใครในสองคนนี้ดี?"
ท่านร่อซู้ล ﷺ ตอบว่า: "ให้แก่ผู้ที่มีประตูบ้านอยู่ใกล้เธอมากที่สุด"
สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า "ความเป็นเพื่อนบ้าน" นั้นพิจารณาตามความใกล้ของ -ประตูบ้าน- ไม่ใช่ความใกล้ของ -กำแพงบ้าน- ดังนั้นเพื่อนบ้านย่อมมีระดับแตกต่างกันไป ผู้ใดที่มีประตูบ้านใกล้กว่า เขาย่อมมีสิทธิ์ที่จะได้รับการให้เกียรติและความดีงามก่อนเสมอ"
شرح رياض الصالحين 1/581
อิบนุล ก็อยยิม -ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ-
หัวใจที่แตกสลาย ไม่มีสิ่งใดเยียวยาได้นอกจากอัลลอฮฺ
"แท้จริงในหัวใจนั้นมีความยุ่งเหยิง (ทางอารมณ์) ซึ่งไม่มีสิ่งใดจะทำให้มันสงบลงได้ นอกจากการเข้าหาพระผู้เป็นเจ้าเท่านั้น"
كتاب ذوق الصلاة لمادة الفقه
ชัยคฺ อัลบานีย์ (ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ)
"ภัยร้ายของเยาวชนมุสลิมในปัจจุบัน คือการที่พวกเขาเพียงแค่รู้สึกว่าตนเองได้รู้บางสิ่งบางอย่างจากวิชาความรู้ที่พวกเขาไม่เคยรู้มาก่อน ก็จะเริ่มเชิดชูตัวเอง และคิดว่าตนเองรู้ทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว ดังนั้น ความเย่อหยิ่งและความยโสจึงเข้าครอบงำพวกเขา เราเกรงว่าพวกเขาจะเข้าข่ายคำพูดของท่านร่อซู้ล ﷺ ที่ว่า:
"สามประการที่เป็นความหายนะ
1. คนที่ปล่อยให้ความตระหนี่ครอบงำหัวใจ
2. คนที่ปฏิบัติตามอารมณ์ใฝ่ต่ำ
3. คนที่ภาคภูมิใจที่ได้ใช้สติปัญญาของตัวเองเป็นเครื่องตัดสิน"
- سلسلة الهدى والنور/٨٦١ -
๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖