ข้อผิดพลาดด้านการเมืองของซัยยิดกูฎุบ
เรียบเรียงโดย อิสมาอีล กอเซ็ม
ข้อผิดพลาดของซัยยิดกูฎุบ ในการวิพากษ์เกี่ยวกับการบริหารของท่านอุสมาน บิน อัฟฟาน رضي الله عنه
ซัยยิด กูตุบ นับเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญที่มีบทบาทและอิทธิพลอย่างลึกซึ้งต่อแนวคิดและกลยุทธ์ในการเผยแผ่ศาสนาอิสลามของขบวนการอัลอิควานุลมุสลิมีน ก่อนอื่นขอนำเสนอ ประวัติโดยย่อของ ซัยยิด กูฏุบ
ชื่อเต็ม: ซัยยิด กูฏุบ อิบรอฮีม ฮุซัยน์ ชาเดีย (سيد قطب إبراهيم حسين شاذلي)
วันเกิด: 9 ตุลาคม ค.ศ. 1906 (ฮ.ศ. 1324)
สถานที่เกิด: หมู่บ้านมุชฮา จังหวัดอัสยูต ประเทศอียิปต์
เสียชีวิต: 29 สิงหาคม ค.ศ. 1966 (ฮ.ศ. 1386) โดยการประหารชีวิตด้วยการแขวนคอ
อาชีพ: นักคิด นักเขียน นักการศึกษา นักอธิบายอัลกุรอาน สมาชิกอาวุโสของกลุ่มภราดรภาพมุสลิม (الإخوان المسلمون)
ช่วงชีวิตและผลงาน
1. วัยเรียนและการศึกษา
กูตุบเติบโตมาในครอบครัวที่ให้ความสำคัญกับการศึกษาและศาสนา
ย้ายไปศึกษาที่กรุงไคโร และจบการศึกษาจาก Dar al-‘Ulum ซึ่งเน้นการศึกษาสมัยใหม่ผสมผสานกับวิชาศาสนา
2. ช่วงต้นของชีวิตการทำงาน
เริ่มอาชีพในฐานะครู นักเขียน และนักวิจารณ์วรรณกรรม
เคยทำงานให้กับกระทรวงศึกษาธิการของอียิปต์
เขียนบทความแนววรรณกรรมและสังคมในนิตยสารและหนังสือพิมพ์ เช่น อัลฮะห์รอม
3. เดินทางไปอเมริกา
ระหว่างปี 1948–1950 เดินทางไปศึกษาด้านการศึกษาในสหรัฐอเมริกา
การเดินทางครั้งนี้กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ทำให้เขาเกิดความขยะแขยงต่อวัฒนธรรมตะวันตก โดยเฉพาะด้านจริยธรรมและศีลธรรม
นำไปสู่การกลับมาใกล้ชิดศาสนาอิสลาม และเปลี่ยนมุมมองจากนักวรรณกรรมกลายเป็นนักคิดอิสลามหัวรุนแรง
4. เข้าร่วมกลุ่มภราดรภาพมุสลิม (الإخوان المسلمون)
หลังกลับจากอเมริกา กูตุบเข้าร่วม “อัลอิควาน” และเป็นผู้นำด้านอุดมการณ์และการเผยแพร่แนวคิด
เขียนหนังสือ “في ظلال القرآن (ในร่มเงาแห่งอัลกุรอาน) ซึ่งถือเป็นผลงานสำคัญในการอธิบายอัลกุรอ่าน
ผลงานอีกเล่มที่สำคัญคือ “معالم في الطريق” ซึ่งมีเนื้อหาที่ชัดเจนในการเรียกร้องการปฏิวัติอิสลาม และวิจารณ์ระบอบปกครองร่วมสมัย
5. การจับกุมและการประหารชีวิต
ถูกจับกุมหลายครั้ง โดยเฉพาะหลังเกิดเหตุลอบสังหารประธานาธิบดี นัซเซอร์ (Gamal Abdel Nasser)
ปี 1965 ถูกกล่าวหาว่าร่วมขบวนการวางแผนล้มรัฐบาล จึงถูกจับกุมอีกครั้ง
ปี 1966 ถูกตัดสินประหารชีวิตพร้อมสมาชิกอีกหลายคน โดยไม่ยอมขออภัยโทษจากรัฐ
ผลงานเด่น
في ظلال القرآن ตัฟซีร (อรรถาธิบาย) อัลกุรอานแนวปฏิบัติและอุดมการณ์
معالم في الطريق หนังสือที่วางรากฐานแนวคิดการเปลี่ยนแปลงสังคมอย่างปฏิวัติ
العدالة الاجتماعية في الإسلام
خصائص التصور الإسلامي
นี่คือประวัติโดยสรุปของซัยยิดกูตุบ
แนวคิดด้านศาสนาและการเมือง
ถึงแม้ซัยยิด กูตุบจะมีจุดยืนที่ชัดเจนในการปฏิเสธระบอบประชาธิปไตยแบบตะวันตก รวมถึงระบอบคอมมิวนิสต์ที่ไร้ซึ่งหลักการของศาสนา ทว่า เมื่อพิจารณาอย่างลึกซึ้งในบางแง่มุมของแนวคิดที่เขาเสนอ เช่น การแบ่งแยกระหว่างกลุ่มผู้ศรัทธากับผู้ปฏิเสธอย่างเด็ดขาด การเรียกร้องให้เกิดการล้มล้างระบอบปกครองที่ไม่ได้ปกครองด้วยบทบัญญัติของอัลลอฮ์ (حاكمية الله) และการมองว่าชุมชนมุสลิมในยุคปัจจุบันตกอยู่ในสภาพญาฮิลียะฮ์ (جاهلية) —
ดูผิวเผินแนวคิดเหล่านี้เหมือนจะตั้งอยู่บนฐานของศาสนา ทว่าในเชิงกลไกการเคลื่อนไหวและการมองความขัดแย้งทางชนชั้น กลับคล้ายคลึงกับหลักการบางประการของลัทธิคอมมิวนิสต์
กล่าวคือ แนวคิดของกูตุบในเรื่องการ “ปลดปล่อยมนุษย์จากการเป็นทาสของมนุษย์ด้วยกันเอง เพื่อให้กลับไปเป็นบ่าวของอัลลอฮ์เท่านั้น” มีลักษณะเป็นการต่อสู้กับระบบโครงสร้างอำนาจที่ถูกมองว่าเป็นการกดขี่ ซึ่งมีจุดร่วมกับแนวคิดของลัทธิคอมมิวนิสต์ในแง่ของการต่อต้านการครอบงำ และอำนาจเบ็ดเสร็จของชนชั้นปกครอง
ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงท่าทีวิพากษ์วิจารณ์ของซัยยิด กุฏุบ ที่มีต่อท่านอุษมาน อิบนุ อัฟฟาน โดยเฉพาะในประเด็นเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน ที่เขาเห็นว่าเต็มไปด้วยการลำเอียงเข้าข้างพวกพ้องและเครือญาติของตน อีกทั้งยังมีการนำทรัพย์สินจาก บัยตุลมาล (กองทุนสาธารณะของชาวมุสลิม) ไปใช้ในทางที่เป็นประโยชน์ส่วนตัวและครอบครัว
นอกจากนี้ ซัยยิด กุฏุบ ยังชี้ให้เห็นว่า ท่านอุษมานตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของ มัรวาน อิบนุ อัลหะกัม ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการบริหารราชการแทน และถือเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการตัดสินใจต่าง ๆ ของคอลีฟะฮ์ จนถึงขนาดที่ซัยยิด กุฏุบมองว่า ท่านอุษมานไม่มีอำนาจควบคุมการปกครองด้วยตนเอง
และจากมุมมองของซัยยิด กุฏุบ เขาอธิบายว่า การลุกฮือต่อต้านท่านอุษมานนั้น เป็นสิ่งที่เกิดจาก "จิตวิญญาณแห่งอิสลาม" ของประชาชนผู้ไม่สามารถทนต่อการบริหารที่เต็มไปด้วยการเอื้อผลประโยชน์แก่ญาติพี่น้อง การละเลยความยุติธรรม และการแต่งตั้งบุคคลที่ไม่เหมาะสมเข้าสู่ตำแหน่งบริหาร
นี่คือคำพูดบางส่วนของซัยยิด กุฏุบ ในหนังสือของเขา ถือว่าเป็นลบหลู่เกียรติของศอหาบะห์ เป็นคำพูดของ ซัยยิด กุฏุบ (سيد قطب)** จากหนังสือ *"العدالة الاجتماعية في الإسلام (ความยุติธรรมทางสังคมในอิสลาม) ซึ่งมีถ้อยคำที่วิพากษ์วิจารณ์ท่าน อุษมาน อิบนุ อัฟฟาน رضي الله عنه อย่างรุนแรง โดยเฉพาะในประเด็นเกี่ยวกับการบริหารงาน การใช้งบประมาณของรัฐ และอิทธิพลของมัรวาน อิบนุ อัลหะกัม ซัยยิด กุฏุบ กล่าวว่าในหนังสือ “ความยุติธรรมทางสังคม” (พิมพ์โดยสำนักพิมพ์ดารุชชูรูก อียิปต์ หน้า 159 และหน้าต่อ ๆ ไป)
1. มุมมองเกี่ยวกับความเป็นจริงของการปกครองได้เปลี่ยนแปลงไปบ้างอย่างแน่นอนในยุคของอุษมาน
2. เมื่อตำแหน่งคอลีฟะฮ์มาถึงอุษมาน เขาก็เป็นชายชราผู้หนึ่ง และเบื้องหลังเขาคือ มัรวาน อิบนุ อัลหะกัม ซึ่งบริหารงานด้วยความเบี่ยงเบนอย่างมาก
3. ธรรมชาติของอุษมานนั้นอ่อนโยน และเขาก็มีความเอ็นดูอย่างมากต่อเครือญาติของเขา
4. อุษมานได้มอบเงินจาก "บัยตุลมาล" ให้แก่ อัลหาริษ อิบนุ อัลหะกัม(สามีของบุตรสาวของเขา) เป็นจำนวน 200,000 ดิรฮัมในวันแต่งงาน
5. ซัยด์ อิบนุ อัลอัรก็อม เหรัญญิกของกองทุนของชาวมุสลิม รู้สึกถึงจิตวิญญาณแห่งอิสลาม จึงกล่าวกับอุษมานว่า: "ข้าคิดว่าโอ้ท่านผู้นำของผู้ศรัทธา ท่านคงได้เอาทรัพย์นี้เพื่อชดเชยสิ่งที่ท่านเคยใช้จ่ายในหนทางของอัลลอฮ์ในยุคของท่านร่อซูล
6. อุษมานไม่พอใจต่อซัยด์ อิบนุ อัลอัรก็อม ผู้ซึ่งจิตสำนึกของเขาไม่สามารถทนต่อการใช้งบประมาณของชาวมุสลิมให้แก่ญาติของคอลีฟะฮ์ได้
7. คอลีฟะฮ์ (คืออุษมาน) เมื่อแก่ชรา ก็ไม่สามารถควบคุมการบริหารของมุรวานได้
8. การลุกฮือต่อต้านอุษมานนั้น เป็นการลุกฮือที่ออกมาจากจิตวิญญาณแห่งอิสลาม
9. มุรวาน อิบนุ อัลหะกัม เล่นกับคอลีฟะฮ์ (คืออุษมาน) จนกระทั่งเขากลายเป็นดั่งลูกไล่ที่ถูกชักนำไปในทิศทางที่มุรวานต้องการ
10. คอลีฟะฮ์ (อุษมาน) ลำเอียงเข้าข้างเครือญาติของตน มอบทรัพย์เป็นจำนวนหลายแสนให้พวกเขา ปลดเหล่าศ่อฮาบะฮ์ของท่านร่อซูล และแต่งตั้งศัตรูของท่านร่อซูลให้ดำรงตำแหน่ง
11. ยุคของอุษมาน (ที่มัรวานมีอำนาจปกครองจริง)เมื่อพิจารณาข้อเขียนของซัยยิด กูตุบในหนังสือเล่มนี้ จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามุมมองและความเข้าใจของเขาขัดแย้งกับแนวทางของอะฮฺลุซซุนนะห์ วัลญะมาอะฮ์
โดยเฉพาะในประเด็นที่เกี่ยวกับท่านอุสมาน อิบนุ อัฟฟาน เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ซึ่งคำพูดเหล่านั้นถือได้ว่าเป็นการลบหลู่เกียรติของบรรดาเศาะหาบะฮฺผู้ทรงเกียรติ โดยนำคำพูดที่ไม่มีการยืนยันความถูกต้องพาดพิงไปหาท่าน
โดยเฉพาะกล่าวว่าที่ใช้เงินจากกองคลังเพื่อประโยชน์ส่วนตัว และแสดงถึงการไม่ให้เกียรติผู้นำอิสลามในยุคแรกที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ในหมู่มุสลิม ซัยยิด กูตุบมองว่าท่านอุสมานบริหารประเทศล้มเหลวและอยู่ภายใต้อิทธิพลของบุคคลรอบข้าง ซึ่งเป็นทัศนะที่สวนทางกับหลักของอะฮฺลุซซุนนะห์ ที่เชื่อมั่นในความยุติธรรมและคุณธรรมของท่านเคาะลีฟะฮฺทั้งสี่
โดยเฉพาะท่านอุสมาน ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในเคาะลีฟะฮฺผู้ทรงธรรม และเป็นหนึ่งในสิบคนที่ได้รับสัญญาเข้าสวรรค์
การมองว่าการลุกฮือต่อต้านท่านอุสมานนั้นเกิดจาก “ผู้รักความยุติธรรม” ยิ่งสะท้อนให้เห็นว่า ซัยยิด กูตุบมีมุมมองที่โน้มเอียงไปในทางที่ไม่สอดคล้องกับจริยธรรมของอะฮฺลุซซุนนะห์ ที่ยึดมั่นในการเคารพและไม่กล่าวร้ายต่อบรรดาเศาะหาบะฮฺผู้มีคุณูปการต่ออิสลาม
จากข้อเขียนของซัยยิด กูตุบ ไม่ว่าจะเป็นผลจากเจตนาโดยตรง หรือเกิดจากความคลาดเคลื่อนในการเข้าใจหลักการศาสนา แต่อย่างไรก็ตาม เนื้อหาบางส่วนถือเป็นข้อผิดพลาดที่ไม่อาจละเลยหรือมองข้ามได้ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการชี้แจงและวิเคราะห์อย่างรอบคอบ