การละหมาดสุนนะฮฺหลังอาบน้ำละหมาด (วุฎูอ์)
  จำนวนคนเข้าชม  89

 การละหมาดสุนนะฮฺหลังอาบน้ำละหมาด (วุฎูอ์)

 

เรียบเรียง.... อ.อับดุลวาเฮด สุคนธา

 

         บรรดาศอฮาบะฮ์ (ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุม) มีความตั้งใจอย่างจริงจังในการถ่ายทอดซุนนะฮ์ (แบบอย่าง) ของท่านรอซูล (ซ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) ไปสู่คนรุ่นหลัง และบรรดาตาบิอีน ก็มีความตั้งใจในการรับเอาความรู้จากบรรดาศอฮาบะฮ์เช่นกัน

 

          นักวิชาการที่เห็นว่าการละหมาดหลังวุฎูอ์เป็นสิ่งที่สุนัต (ควรกระทำ): มัซฮับฮะนะฟีย์, ชาฟิอีย์, หัมบะลี, อิหม่ามเกาะฎี อิยาฎ (จากมัลกียะฮ์), เชคอิบนุตัยมียะฮ์, เชคอิบนุบาซ และเชคอิบนุอุษัยมีน

 

     รายงานจากท่าน อุษมาน บิน อัฟฟาน รอฎิยัลลอฮุอันฮุ  :ท่านรอซูลศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมกล่าวว่า:

 

مَن توضَّأ نحوَ وُضوئِي هذا، ثم قام فرَكَع رَكعتينِ لا يُحدِّثُ فيهما نفْسَه، غُفِرَ له ما تَقدَّم من ذنبِه

 

     "ผู้ใดอาบน้ำละหมาดเหมือนกับฉัน แล้วลุกขึ้นละหมาดสองร็อกอะฮฺ

     "โดยให้เขาทำการละหมาดทั้งสองร็อกอะฮฺด้วยความบริสุทธิ์ใจ (เพื่ออัลลอฮ์เท่านั้น) ด้วยความนอบน้อม และความสงบใจ"

     ในขณะละหมาด บาปที่ผ่านมาแล้วของเขาจะได้รับการอภัย"  

(บันทึกโดยอัลบุคอรีและมุสลิม)

 

     จากอุกบะฮ์ บิน อามิร รอฎิยัลลอฮุอันฮุ  :ท่านรอซูลศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมกล่าวว่า:

 

ما من أحدٍ يتوضَّأُ فيُحسنُ الوضوءَ، ويُصلِّي رَكعتينِ، يُقبِلُ بقلبِه ووجهِه عليهما،

   إلَّا وجبتْ له الجَنَّةُ

 

     "ไม่มีใครที่อาบน้ำละหมาดอย่างดี แล้วละหมาดสองร็อกอะฮฺ

     โดยตั้งใจมีความบริสุทธิ์ใจ (อิคลาศ) และมีความนอบน้อม (คุชูอ์) ในละหมาดเพื่ออัลลอฮ์ ตะอาลา

     และ การไม่เหลียวซ้ายขวาหรือมองสิ่งอื่นใดนอกจากจุดสุญูด ”เว้นแต่เขาจะได้รับสวรรค์" 

(บันทึกโดยมุสลิม)

 

      จากอบูฮุร็อยเราะฮฺ รอฎิยัลลอฮุอันฮุ เล่าว่า :

 

يا بلالُ، حدِّثْني بأرْجَى عملٍ عَمِلتَه في الإسلامِ؛ فإنِّي سمِعتُ دَفَّ نَعْلَيك بين يَديَّ في الجَنَّة؟ قال: ما عملتُ عملًا أرْجَى عندي: أَنِّي لم أتطهَّرْ طُهورًا، في ساعةِ ليلٍ أو نَهار، إلَّا صليتُ بذلك الطُّهورِ ما كُتِبَ لي أنْ أُصلِّ

 

     แท้จริงท่านนบี ﷺ ได้กล่าวถามท่านบิล้าลในตอนละหมาดฟัจรฺ(ละหมาดศุบฮิ)ว่า :

     โอ้บิล้าลเอ๋ย จงบอกฉันถึงการงานที่ท่านได้กระทำในอิสลามที่ท่านหวัง(ว่าจะได้รับผลบุญมากที่สุด) เพราะฉันได้ยินเสียงรองเท้าทั้งสองของท่านเบื้องหน้าฉันในสวรรค์ 

     ท่านบิล้าลตอบว่า :

     “ฉันไม่ได้กระทำการงานใดที่ฉันหวังมากที่สุด แท้จริงฉันจะไม่อาบน้ำละหมาดใดในช่วงเวลากลางคืนหรือกลางวัน เว้นแต่ฉันจะละหมาดด้วยน้ำละหมาดดังกล่าวเท่าที่ถูกบันทึกให้ฉันสามารถละหมาดได้”

( บันทึกโดยอัลบุคอรียฺ)

 

การละหมาด 2 ร็อกอะฮฺ หลังอาบน้ำละหมาด (วุฎูอ์) จำเป็นต้องทำทันทีหลังวุฎูอ์หรือไม่ ? 

 คำพูดของอุละมาอ์ (นักวิชาการ) เกี่ยวกับการละหมาด 2 ร็อกอะฮฺหลังอาบน้ำละหมาด

 

          อัลฮาฟิศ อิบนุหะญัร  กล่าวว่า : "ในหะดีษนี้มีหลักฐานว่า การละหมาด 2 ร็อกอะฮฺหลังวุฎูอ์เป็นสิ่งที่ซุนนะฮ์ (ควรกระทำ)"   

(ฟัตฮุ้ลบารี)

 

          อันนะวาวี  กล่าวว่า : "เป็นที่ซุนนะฮ์ให้ละหมาด 2 ร็อกอะฮฺหลังอาบน้ำละหมาด ตามหะดีษเศาะเฮี๊ยะฮ์ต่างๆ"   

อัลมัจญ์มูอฺ ชัรหฺ อัลมุฮัซซับ (3/545)

 

           เชคอิบนุตัยมียะฮ์  กล่าวว่า : "เป็นที่ซุนนะฮ์ให้ละหมาด 2 ร็อกอะฮฺหลังวุฎูอ์ แม้ในช่วงเวลาที่ไม่แนะนำให้ละหมาด (เช่น หลังซุบน, หลังอัสร) และนั่นคือทัศนะของชาฟิอีย์ด้วย"

อัลฟะตาวา อัลกุบรอ (5/345)

 

          เชคซะการียา อัลอันศอรีย์ กล่าวว่า : "ผู้ที่อาบน้ำละหมาดควรละหมาด 2 ร็อกอะฮฺ  หลังวุฎูอ์ไม่ว่าจะเป็นเวลาใดก็ตาม"  

อัซนา อัลมะฏอลิบ (1/44) 

 

          อัตตะนารี อัชชาฟิอีย์ กล่าวว่า : "ในบรรดาซุนนะฮ์นั้น คือ การละหมาดหลังอาบน้ำละหมาดทันที ก่อนที่จะมีการเว้นช่วงนานหรือหันเหจากการปฏิบัติ (เช่น ไปทำอย่างอื่นก่อน) และถือว่าได้ผลเช่นเดียวกับการละหมาดตะฮียะตุ้ลมัสญิด"

นิฮายะฮ์ อัซ-ซัยน์ (หน้า 104)

 

     การละหมาด 2 ร็อกอะฮฺหลังวุฎูอ์ ควรจะทำทันทีหลังจากอาบน้ำละหมาด หากปล่อยให้เวลาผ่านไปนาน — เช่น นานเท่ากับเวลาที่ใช้ละหมาดฟัรฎู — ถือว่าเวลาของละหมาดนี้ได้ผ่านพ้นไปแล้ว

 

 

ฟัตวาของ เชคอิบนุอุษัยมีน


คำถาม  : 

           การละหมาดซุนนะฮ์หลังวุฎูอ์ จะถือว่าถูกต้องแม้ผู้ละหมาดได้ละหมาดซุนนะฮ์ก่อนละหมาดฟัรฎู (เช่น ซุนนะฮ์ก่อนละหมาดดุฮรี หรือไม่?

 

คำตอบ :

         "ซุนนะฮ์ของวุฎูอ์ คือ เมื่อใครสักคนอาบน้ำละหมาดอย่างสมบูรณ์แบบ แล้วละหมาด 2 ร็อกอะฮฺ โดยเขาทำการละหมาดทั้งสองร็อกอะฮฺด้วยความบริสุทธิ์ใจ (เพื่ออัลลอฮ์เท่านั้น) ในละหมาดนั้น อัลลอฮ์จะอภัยบาปที่ผ่านมาให้เขา 

         หากว่าในเวลานั้นเกิดบังเอิญว่าเป็นเวลาละหมาดซุนนะฮ์ก่อนฟัรฎูของละหมาดดุฮรี แล้วเขาละหมาดซุนนะฮ์นั้น ด้วยความบริสุทธิ์ใจ (เพื่ออัลลอฮ์เท่านั้น) ก็มีความเป็นไปได้ว่า การละหมาดซุนนะฮ์นี้จะรวมอยู่ในหะดีษที่กล่าวถึงด้วย"