ความละอาย รากฐานแห่งความดี
โดย.... บินตฺ ยะห์ยา
ความละอายนั้น เป็นหนึ่งในคุณธรรมที่มีความสำคัญอย่างยิ่งเป็นรากฐานแห่งความดีงามทั้งปวง ซึ่งมีบทบาทในการกำกับพฤติกรรม และจิตใจของมนุษย์ อิสลามจึงส่งเสริมให้มุสลิมมีความละอาย เพราะเป็นลักษณะของผู้ศรัทธาที่ใกล้ชิดกับอัลลอฮฺ
“แท้จริง ทุก ๆ ศาสนานั้นมีจริยธรรมที่ดีงาม และจริยธรรมของอิสลามนั้นคือ ความละอาย”
(บันทึกโดย อิบนุ มาญะฮฺ)
ความละอาย หมายถึง ความรู้สึกที่เกิดขึ้นภายในจิตใจ เมื่อคิดหรือกระทำสิ่งที่ขัดกับคำสอนของอิสลาม ซึ่งส่งผลให้บุคคลนั้นพยายามหลีกเลี่ยงสิ่งที่จะนำไปสู่การลงโทษของอัลลอฮฺ และเป็นแรงผลักดันให้ปฏิบัติแต่สิ่งที่ดีงาม อีกทั้งยังถือว่าความละอายนั้นเป็นส่วนหนึ่งของการศรัทธาอีกด้วย
ดังฮะดิษที่ท่านร่อซูล ﷺ ได้กล่าวไว้ว่า
“ความละอายนั้น เป็นส่วนหนึ่งของการศรัทธา”
(บันทึกโดย อิมาม อัลบุคอรีย์ และอิมาม มุสลิม)
ความละอาย ตามความเห็นของนักวิชาการ เป็นพื้นฐานของคุณธรรมและศีลธรรมทั้งหมด เปรียบเสมือนกระดูกสันหลังของมารยาท และพฤติกรรมที่ดีทั้งปวง ซึ่งมุสลิมควรต้องมี และละทิ้งไม่ได้ในทุกสถานการณ์ เพราะเป็นสิ่งที่กำหนดคุณลักษณะของบุคลิกภาพที่โดดเด่น และผลักดันให้มุสลิมรักษาศรัทธาและศักดิ์ศรีของเขาอยู่เสมอ
ความละอายเมื่อเกิดขึ้นกับคนใด ก็จะนำมาซึ่งความดีงามแก่ผู้นั้น
ดังที่ท่านร่อซูล ﷺ กล่าวว่า
“ความละอายจะไม่นำมาซึ่งสิ่งใด นอกจากความดีงาม”
(บันทึกโดย อิมาม อัลบุคอรีย์ และอิมาม มุสลิม)
อัลกุรอานได้กล่าวถึงความละอายในหลายบริบท ซึ่งเกี่ยวข้องกับจริยธรรม ความสุภาพเรียบร้อย และสำนึกในศีลธรรมของมนุษย์
ดังดำรัสของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ที่ว่า
قُل لِّلْمُؤْمِنِينَ يَغُضُّوا۟ مِنْ أَبْصَـٰرِهِمْ وَيَحْفَظُوا۟ فُرُوجَهُمْ ۚ ذَٰلِكَ أَزْكَىٰ لَهُمْ...
“(มุฮัมมัด) จงแจ้งแก่บรรดาผู้ศรัทธาชายทั้งหลายว่า จงลดสายตาของพวกเขาที่จะมองสิ่งที่ศาสนาห้าม
และจงรักษาอวัยวะเพศที่จะไปทำสิ่งที่ต้องห้าม ข้อบัญญัติดังกล่าวย่อมเป็นสิ่งที่ดียิ่งสำหรับเขา”
(อันนู๊ร 24 : 30)
อายะฮฺนี้ชี้ให้เห็นว่า การลดสายตานั้นเป็นสัญลักษณ์ของความละอายและความเคารพต่อผู้อื่น
และดำรัสของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ที่ได้กล่าวถึงความสุภาพเรียบร้อยของหญิงสาวที่มาหาท่านนบีมูซา อะลัยฮิสสลาม ที่ว่า
... فَجَآءَتْهُ إِحْدَىٰهُمَا تَمْشِى عَلَى ٱسْتِحْيَآءٍۢ
“หญิงสาวคนหนึ่งในสองคนได้มาหาเขา เดินมาอย่างเขินอาย”
(อัลกอศ็อศ 28 : 25)
ดังกล่าวนี้ แสดงถึงความละอายและความสุภาพเรียบร้อยที่สะท้อนถึงคุณธรรมของหญิงสาว
ท่านร่อซูล ﷺ เป็นแบบอย่างที่สมบูรณ์ในทุกด้านของชีวิตสำหรับมุสลิม ไม่ว่าจะเป็นการปฏิบัติตนในฐานะผู้นำครอบครัวหรือบุคคลทั่วไป ท่านได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ที่มีคุณธรรมอันสูงส่ง หนึ่งในคุณธรรมที่โดดเด่นของท่านก็คือ “ความละอาย” ซึ่งสะท้อนถึงความอ่อนน้อม ความยำเกรงต่ออัลลอฮฺ และการปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างเหมาะสม
และท่านร่อซูล ﷺ ยังกล่าวอีกว่า
“เมื่อท่านไม่มีความละอาย ก็จงทำในสิ่งที่ท่านปรารถนาเถิด”
(บันทึกโดย อิมาม อัลบุคอรีย์)
คำกล่าวนี้เตือนให้ตระหนักว่า ความละอาย เป็นเกราะป้องกันจากการกระทำที่ผิดศีลธรรม หากความละอายนี้ขาดหายไป จะเกิดผลกระทบในเชิงลบทั้งต่อบุคคล ครอบครัว และสังคมโดยรวม
ความละอายนั้นแบ่งออกเป็น 3 ประเภท
1. ความละอายต่ออัลลอฮฺ
♦ มุสลิมควรมีความละอายที่จะทำสิ่งที่เป็นการฝ่าฝืนต่อคำสั่งของอัลลอฮฺทั้งในที่ลับและในที่เปิดเผย
♦ การรำลึกถึงความยิ่งใหญ่ของอัลลอฮฺนั้น จะช่วยให้ผู้ศรัทธาหลีกเลี่ยงจากการทำความผิด
2. ความละอายต่อผู้อื่น
♦ มุสลิมควรมีความละอายต่อผู้คนรอบข้าง ไม่กระทำสิ่งที่ขัดกับมาตรฐานทางศีลธรรม และจริยธรรมของสังคม ซึ่งจะเป็นการช่วยเสริมความสัมพันธ์ที่ดีในสังคม
3. ความละอายต่อตนเอง
♦ การมีจิตสำนึกในตนเองเกี่ยวกับสิ่งที่ไม่เหมาะสม การกระทำสิ่งที่น่าอับอาย แม้จะไม่มีใครเห็น ถือเป็นการละเมิดต่อศักดิ์ศรีของตนเอง
ในปัจจุบัน ความละอายอาจถูกลดทอนความสำคัญลงไปในบางสังคม เนื่องจากอิทธิพลของสื่อและวัฒนธรรมที่เน้นความเปิดเผยมากขึ้น แต่สำหรับมุสลิมแล้ว การรักษาความละอายยังคงเป็นสิ่งที่จำเป็นในการดำรงชีวิต เช่น การแต่งกายอย่างเหมาะสม การใช้คำพูดที่สุภาพ และการเคารพกฎเกณฑ์ทางศาสนา ฯลฯ
ความละอายในอิสลามไม่ใช่เพียงอารมณ์ที่เกิดขึ้นชั่วขณะ แต่เป็นคุณธรรมที่หล่อหลอมจิตใจ และพฤติกรรมของมุสลิม เพื่อให้ดำเนินชีวิตอยู่ในกรอบของศาสนา และจริยธรรมที่ดีงาม ผู้ศรัทธาควรปลูกฝัง และรักษาคุณธรรมนี้ไว้ในหัวใจของคนรุ่นต่อ ๆ ไป เพราะนี่คือกุญแจสู่ความสุขทั้งในโลกนี้และโลกหน้า
ที่มา : อนุสรณ์งานประจำปี (5 มกราคม 2568) โรงเรียนมุสลิมวิทยาคาร