บันทึกแห่ง ’สัจธรรม’ 28
  จำนวนคนเข้าชม  96

บันทึกแห่ง ’สัจธรรม’ 28

 

แปลเรียบเรียง...เพจบันทึกฮัก

 

อิหม่าม อัซซะอฺดีย์ -ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ-

 

"หนึ่งในสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่ชีวิต คือการที่ท่านรู้ว่า 

สิ่งที่ผู้คนทำร้ายท่านด้วยคำพูดแย่ๆนั้น แท้จริงแล้วไม่ได้ทำร้ายท่านเลย 

แต่กลับเป็นการทำร้ายตัวของพวกเขาเองต่างหาก (ความชั่วจะย้อนกลับไปยังผู้พูดเอง)"

الوسائل المفيدة ٣٠-

 

 

 

อิบนุ ซะอฺดีย์ -ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ-

 

"หนึ่งในความเมตตาของอัลลอฮฺที่มีต่อบ่าวของพระองค์

คือเมื่อจิตใจของเขาปราถนาบางสิ่งบางอย่างจากสิ่งใดก็ตามในโลกนี้

ซึ่งเขาคิดว่าสิ่งนั้นจะทำให้ชีวิตดีขึ้น หรือทำให้เขาประสบความสำเร็จ

แต่พระองค์ทรงทราบดีว่าสิ่งนั้นจะเป็นอันตรายแก่เขา

พระองค์จึงขัดขวางจากสิ่งที่เขาพยายามไขว่คว้า และทรงกันเขาไม่ให้ได้รับมัน

ดังนั้นเขาจึงไม่พอใจ ทั้งๆที่ยังไม่รู้เลยว่า พระเจ้าของเขาทรงเมตตาเขามากเพียงใด

ทรงให้เขาได้รับในสิ่งที่มีประโยชน์ และกันเขาออกจากสิ่งที่เป็นโทษ

เพราะเหตุนี้เอง การพึงพอใจต่อก่อฎอก่อดัร (การกำหนดของอัลลอฮฺ) ถือเป็นหนึ่งในขั้นที่สูงสุดของจิตใจ"

 (المَواهِبُ الرَّبانيَّةُ من الآياتِ القُرآنيَّة) (ص - ١٥٠) .

 

 

 

ท่าน ฮะซัน อัลบัศรีย์ -ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ-

 

"มนุษย์จะถูกนำเสนอช่วงเวลาต่าง ๆ ของชีวิตในวันกิยามะฮฺ 

และทุกชั่วโมงที่ผ่านไปโดยไม่มีการกระทำความดีใดๆ เขาจะรู้สึกเสียใจจนแทบขาดใจ"

 [‏حفظ العمر لابن الجوزي (٦٣)]

 

 

 

อิบนุล ก็อยยิม -ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ-

 

     "เมื่อท่านนบีมูซาเดินทางไปหาคิฎฺร (ตามคำบัญชาของอัลลอฮฺ) ระหว่างทางท่านรู้สึกหิวและเหน็ดเหนื่อย ท่านบอกกับผู้ช่วยของท่านว่า:

"ءَاتِنَا غَدَآءَنَا لَقَدْ لَقِينَا مِن سَفَرِنَا هَـٰذَا نَصَبًۭا "

"จงนำอาหารกลางวันของเราออกมา แน่นอนเราได้รับความลำบากจากการเดินทางของเราในครั้งนี้"

(อัลกะฮฺฟิ_62)

     นั่นเพราะเป็นการเดินทางไปหามนุษย์ผู้หนึ่ง และเมื่อพระเจ้าทรงนัดหมายกับท่าน (คือท่านนบีมูซา) เป็นเวลาสามสิบคืน และทรงเพิ่มเติมให้ครบอีกสิบคืน  ในช่วงเวลานั้นท่านไม่ได้ทานอาหารใดๆเลย  แต่ท่านกลับไม่รู้สึกถึงความหิวหรือความเหน็ดเหนื่อย เพราะนั่นคือการเดินทางไปยังพระเจ้าของท่าน

     เช่นเดียวกันกับการเดินทางของหัวใจและการมุ่งหน้าสู่อัลลอฮฺ เราจะไม่พบกับความทุกข์ยากและความเหน็ดเหนื่อยเหมือนการเดินทางไปยังสิ่งถูกสร้างอื่นๆ"

بدائع الفوائد

 

 

 

อิบนุ อุษัยมีน -ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ-

 

     "ในลานชุมนุมวันกิยามะฮฺ ผู้คนจะแบ่งออกเป็นสามกลุ่ม  เกี่ยวกับการได้เห็นอัลลอฮฺในช่วงเวลานั้น

˚✧ กลุ่มที่หนึ่ง: บรรดาผู้ศรัทธา

     กลุ่มนี้จะได้เห็นพระเจ้าของพวกเขา ทั้งในลานชุมนุมวันกิยามะฮฺ และหลังจากเข้าสวรรค์

˚✧ กลุ่มที่สอง: บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา (กุฟฟาร)

     พวกเขาจะไม่ได้เห็นอัลลอฮฺเลย ด้วยดำรัสของอัลลอฮฺที่ว่า:

 ( كَلَّا إِنَّهُمْ عَن رَّبِّهِمْ يَوْمَئِذٍ لَّمَحْجُوبُونَ )

"เปล่าเลย! แท้จริงพวกเขาจะถูกปิดกั้นไม่ให้ได้เห็นพระผู้อภิบาลของพวกเขาในวันนั้น"

(อัลมุฏ็อฟฟิฟีน_15)

˚✧ กลุ่มที่สาม: มุนาฟิก

     กลุ่มนี้จะได้เห็นอัลลอฮฺ ﷻ ก่อนในครั้งแรก แต่จากนั้นจะถูกปิดกั้นไม่ให้เห็นพระองค์

     การที่พวกเขาถูกปิดกั้นหลังจากที่เคยได้เห็น จะทำให้พวกเขาเสียใจอย่างมากยิ่งกว่าผู้ที่ไม่ได้เห็นตั้งแต่แรก เพราะพวกเขาเคยแสร้งทำตนเป็นมุสลิม  ทั้งคำพูดและการกระทำภายนอกบ่งบอกว่าเป็นมุสลิม จึงได้รับอนุญาตให้เห็นอัลลอฮฺในลานชุมนุม แต่แล้วก็ถูกปิดกั้นในที่สุด"

التعليق على صحيح المسلم (٦٠٥/١)

 

 

 

อิบนุ อัล-เญาซีย์ -ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ-

 

     การลุกละหมาดในยามค่ำคืน เป็นสิ่งที่ยากที่สุดสำหรับมนุษย์ทั่วไป เพราะเหตุใด?

เพราะมีความรู้น้อยเกี่ยวกับพระผู้เป็นเจ้า 

เพราะความกลัวการลงโทษ และหวังในรางวัลตอบแทนยังอ่อนแอเกินไป

     แต่เมื่อความรู้และความเชื่อมั่นในรางวัลแน่นแฟ้นแล้ว การลุกขึ้นละหมาดยามค่ำคืนก็จะง่ายขึ้น

˚✧ บางคนลุกละหมาดเพื่อ หวังรางวัลตอบแทน

˚✧ บางคนเพื่อ ขออภัยโทษจากบาป

˚✧ และอีกบางคนเพื่อ ได้อยู่ตามลำพังกับพระเจ้า ได้เพลิดเพลินกับการขอดุอาต่อพระองค์ และแต่ละกลุ่มก็มีสิ่งที่หล่อเลี้ยงจิตใจที่แตกต่างกันไป"

 

      ท่าน ฟุฎอยลฺ กล่าวว่า: "เมื่อดวงอาทิตย์ตก ฉันมีความสุขที่ได้อยู่กับพระเจ้าของฉันตามลำพังและเมื่อดวงอาทิตย์ขึ้น ฉันก็เสียใจที่ต้องกลับไปอยู่ร่วมกับผู้คน"

 

      ท่าน อบูสุลัยมาน กล่าวว่า: "ผู้ที่ใช้เวลายามค่ำคืน (ในการละหมาด วิงวอน ขอดุอา และอยู่ใกล้ชิดอัลลอฮฺ) ในยามค่ำคืนของเขานั้น มีความสุขยิ่งกว่าผู้ที่ใช้เวลาไปกับความเพลิดเพลินในเรื่องของทางโลกเสียอีก"

 

      ท่านอลี อิบนุ บักก๊าร กล่าวว่า: "ตลอดระยะเวลา40 ปีที่ผ่านมา ฉันไม่เคยรู้สึกเศร้าใจเลย ยกเว้นตอนใกล้รุ่งอรุณ"

 

 

 

ชัยคฺ อัล-อัลบานีย์ -ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ-

 

     แม้แต่ศ่อฮาบะฮฺผู้ที่ได้รับเกียรติจากมลาอิกะฮฺมากมายยังไม่อาจรอดพ้นจากการทรมานในหลุมฝังศพ 

     ท่านร่อซู้ล ﷺ กล่าวว่า:

     "แท้จริง ในวันที่ซะอฺด บิน มุอ๊าซ เสียชีวิตนั้น  ได้มีมลาอิกะฮฺจำนวน 70000 ท่าน ลงมายังโลกใบนี้ ซึ่งพวกเขาไม่เคยลงมาก่อนหน้านั้นเลย"

     และเมื่อท่านนบี ﷺ ฝังเขา (ท่านซะอฺด) ท่านกล่าวว่า:

     "ซุบฮานัลลอฮฺ ! หากมีใครคนใดที่จะรอดพ้นจากการถูกบีบในหลุมฝังศพ ก็คงจะเป็นซะอฺดแน่นอน แต่เขาก็ยังถูกบีบ (ในหลุมฝังศพ) อย่างรุนแรง แล้วจึงค่อยได้รับการคลายออกในภายหลัง"

السلسلة_الصحيحة (٣٣٤٥) 

 

 

 

ชัยคฺ อับดุสสลาม อัชชุวัยอิร -ฮะฟิซ่อฮุลลอฮฺ-

 

"เมื่อใดที่มนุษย์ขอดุอาให้แก่ผู้อื่น  อัลลอฮฺจะทรงทำให้หัวใจของเขางดงามขึ้น"

 

 

 

 

•┈┈┈••✦✿✦••┈┈┈••┈┈┈••✦✿✦••┈┈┈••┈┈┈••✦✿✦••┈┈┈•