บันทึกแห่ง ’สัจธรรม’ 28
แปลเรียบเรียง...เพจบันทึกฮัก
อิหม่าม อัซซะอฺดีย์ -ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ-
"หนึ่งในสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่ชีวิต คือการที่ท่านรู้ว่า
สิ่งที่ผู้คนทำร้ายท่านด้วยคำพูดแย่ๆนั้น แท้จริงแล้วไม่ได้ทำร้ายท่านเลย
แต่กลับเป็นการทำร้ายตัวของพวกเขาเองต่างหาก (ความชั่วจะย้อนกลับไปยังผู้พูดเอง)"
الوسائل المفيدة ٣٠-
อิบนุ ซะอฺดีย์ -ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ-
"หนึ่งในความเมตตาของอัลลอฮฺที่มีต่อบ่าวของพระองค์
คือเมื่อจิตใจของเขาปราถนาบางสิ่งบางอย่างจากสิ่งใดก็ตามในโลกนี้
ซึ่งเขาคิดว่าสิ่งนั้นจะทำให้ชีวิตดีขึ้น หรือทำให้เขาประสบความสำเร็จ
แต่พระองค์ทรงทราบดีว่าสิ่งนั้นจะเป็นอันตรายแก่เขา
พระองค์จึงขัดขวางจากสิ่งที่เขาพยายามไขว่คว้า และทรงกันเขาไม่ให้ได้รับมัน
ดังนั้นเขาจึงไม่พอใจ ทั้งๆที่ยังไม่รู้เลยว่า พระเจ้าของเขาทรงเมตตาเขามากเพียงใด
ทรงให้เขาได้รับในสิ่งที่มีประโยชน์ และกันเขาออกจากสิ่งที่เป็นโทษ
เพราะเหตุนี้เอง การพึงพอใจต่อก่อฎอก่อดัร (การกำหนดของอัลลอฮฺ) ถือเป็นหนึ่งในขั้นที่สูงสุดของจิตใจ"
(المَواهِبُ الرَّبانيَّةُ من الآياتِ القُرآنيَّة) (ص - ١٥٠) .
ท่าน ฮะซัน อัลบัศรีย์ -ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ-
"มนุษย์จะถูกนำเสนอช่วงเวลาต่าง ๆ ของชีวิตในวันกิยามะฮฺ
และทุกชั่วโมงที่ผ่านไปโดยไม่มีการกระทำความดีใดๆ เขาจะรู้สึกเสียใจจนแทบขาดใจ"
[حفظ العمر لابن الجوزي (٦٣)]
อิบนุล ก็อยยิม -ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ-
"เมื่อท่านนบีมูซาเดินทางไปหาคิฎฺร (ตามคำบัญชาของอัลลอฮฺ) ระหว่างทางท่านรู้สึกหิวและเหน็ดเหนื่อย ท่านบอกกับผู้ช่วยของท่านว่า:
"ءَاتِنَا غَدَآءَنَا لَقَدْ لَقِينَا مِن سَفَرِنَا هَـٰذَا نَصَبًۭا "
"จงนำอาหารกลางวันของเราออกมา แน่นอนเราได้รับความลำบากจากการเดินทางของเราในครั้งนี้"
(อัลกะฮฺฟิ_62)
นั่นเพราะเป็นการเดินทางไปหามนุษย์ผู้หนึ่ง และเมื่อพระเจ้าทรงนัดหมายกับท่าน (คือท่านนบีมูซา) เป็นเวลาสามสิบคืน และทรงเพิ่มเติมให้ครบอีกสิบคืน ในช่วงเวลานั้นท่านไม่ได้ทานอาหารใดๆเลย แต่ท่านกลับไม่รู้สึกถึงความหิวหรือความเหน็ดเหนื่อย เพราะนั่นคือการเดินทางไปยังพระเจ้าของท่าน
เช่นเดียวกันกับการเดินทางของหัวใจและการมุ่งหน้าสู่อัลลอฮฺ เราจะไม่พบกับความทุกข์ยากและความเหน็ดเหนื่อยเหมือนการเดินทางไปยังสิ่งถูกสร้างอื่นๆ"
بدائع الفوائد
อิบนุ อุษัยมีน -ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ-
"ในลานชุมนุมวันกิยามะฮฺ ผู้คนจะแบ่งออกเป็นสามกลุ่ม เกี่ยวกับการได้เห็นอัลลอฮฺในช่วงเวลานั้น
˚✧ กลุ่มที่หนึ่ง: บรรดาผู้ศรัทธา
กลุ่มนี้จะได้เห็นพระเจ้าของพวกเขา ทั้งในลานชุมนุมวันกิยามะฮฺ และหลังจากเข้าสวรรค์
˚✧ กลุ่มที่สอง: บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา (กุฟฟาร)
พวกเขาจะไม่ได้เห็นอัลลอฮฺเลย ด้วยดำรัสของอัลลอฮฺที่ว่า:
( كَلَّا إِنَّهُمْ عَن رَّبِّهِمْ يَوْمَئِذٍ لَّمَحْجُوبُونَ )
"เปล่าเลย! แท้จริงพวกเขาจะถูกปิดกั้นไม่ให้ได้เห็นพระผู้อภิบาลของพวกเขาในวันนั้น"
(อัลมุฏ็อฟฟิฟีน_15)
˚✧ กลุ่มที่สาม: มุนาฟิก
กลุ่มนี้จะได้เห็นอัลลอฮฺ ﷻ ก่อนในครั้งแรก แต่จากนั้นจะถูกปิดกั้นไม่ให้เห็นพระองค์
การที่พวกเขาถูกปิดกั้นหลังจากที่เคยได้เห็น จะทำให้พวกเขาเสียใจอย่างมากยิ่งกว่าผู้ที่ไม่ได้เห็นตั้งแต่แรก เพราะพวกเขาเคยแสร้งทำตนเป็นมุสลิม ทั้งคำพูดและการกระทำภายนอกบ่งบอกว่าเป็นมุสลิม จึงได้รับอนุญาตให้เห็นอัลลอฮฺในลานชุมนุม แต่แล้วก็ถูกปิดกั้นในที่สุด"
التعليق على صحيح المسلم (٦٠٥/١)
อิบนุ อัล-เญาซีย์ -ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ-
การลุกละหมาดในยามค่ำคืน เป็นสิ่งที่ยากที่สุดสำหรับมนุษย์ทั่วไป เพราะเหตุใด?
เพราะมีความรู้น้อยเกี่ยวกับพระผู้เป็นเจ้า
เพราะความกลัวการลงโทษ และหวังในรางวัลตอบแทนยังอ่อนแอเกินไป
แต่เมื่อความรู้และความเชื่อมั่นในรางวัลแน่นแฟ้นแล้ว การลุกขึ้นละหมาดยามค่ำคืนก็จะง่ายขึ้น
˚✧ บางคนลุกละหมาดเพื่อ หวังรางวัลตอบแทน
˚✧ บางคนเพื่อ ขออภัยโทษจากบาป
˚✧ และอีกบางคนเพื่อ ได้อยู่ตามลำพังกับพระเจ้า ได้เพลิดเพลินกับการขอดุอาต่อพระองค์ และแต่ละกลุ่มก็มีสิ่งที่หล่อเลี้ยงจิตใจที่แตกต่างกันไป"
ท่าน ฟุฎอยลฺ กล่าวว่า: "เมื่อดวงอาทิตย์ตก ฉันมีความสุขที่ได้อยู่กับพระเจ้าของฉันตามลำพังและเมื่อดวงอาทิตย์ขึ้น ฉันก็เสียใจที่ต้องกลับไปอยู่ร่วมกับผู้คน"
ท่าน อบูสุลัยมาน กล่าวว่า: "ผู้ที่ใช้เวลายามค่ำคืน (ในการละหมาด วิงวอน ขอดุอา และอยู่ใกล้ชิดอัลลอฮฺ) ในยามค่ำคืนของเขานั้น มีความสุขยิ่งกว่าผู้ที่ใช้เวลาไปกับความเพลิดเพลินในเรื่องของทางโลกเสียอีก"
ท่านอลี อิบนุ บักก๊าร กล่าวว่า: "ตลอดระยะเวลา40 ปีที่ผ่านมา ฉันไม่เคยรู้สึกเศร้าใจเลย ยกเว้นตอนใกล้รุ่งอรุณ"
ชัยคฺ อัล-อัลบานีย์ -ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ-
แม้แต่ศ่อฮาบะฮฺผู้ที่ได้รับเกียรติจากมลาอิกะฮฺมากมายยังไม่อาจรอดพ้นจากการทรมานในหลุมฝังศพ
ท่านร่อซู้ล ﷺ กล่าวว่า:
"แท้จริง ในวันที่ซะอฺด บิน มุอ๊าซ เสียชีวิตนั้น ได้มีมลาอิกะฮฺจำนวน 70000 ท่าน ลงมายังโลกใบนี้ ซึ่งพวกเขาไม่เคยลงมาก่อนหน้านั้นเลย"
และเมื่อท่านนบี ﷺ ฝังเขา (ท่านซะอฺด) ท่านกล่าวว่า:
"ซุบฮานัลลอฮฺ ! หากมีใครคนใดที่จะรอดพ้นจากการถูกบีบในหลุมฝังศพ ก็คงจะเป็นซะอฺดแน่นอน แต่เขาก็ยังถูกบีบ (ในหลุมฝังศพ) อย่างรุนแรง แล้วจึงค่อยได้รับการคลายออกในภายหลัง"
السلسلة_الصحيحة (٣٣٤٥)
ชัยคฺ อับดุสสลาม อัชชุวัยอิร -ฮะฟิซ่อฮุลลอฮฺ-
"เมื่อใดที่มนุษย์ขอดุอาให้แก่ผู้อื่น อัลลอฮฺจะทรงทำให้หัวใจของเขางดงามขึ้น"
•┈┈┈••✦✿✦••┈┈┈••┈┈┈••✦✿✦••┈┈┈••┈┈┈••✦✿✦••┈┈┈•