ซาอุดีอาระเบีย: เป้าหมายที่มีความเสี่ยงสูงในกรณีสงครามระหว่างอิหร่านกับสหรัฐอเมริกาและอิสราเอล
เรียบเรียงโดย อิสมาอีล กอเซ็ม
ความตึงเครียดระหว่างอิหร่านกับอิสราเอล และพันธมิตรสำคัญอย่างสหรัฐอเมริกา ได้ทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการโจมตีทางอากาศ การตอบโต้ผ่านกลุ่มติดอาวุธตัวแทน และการเสริมกำลังทางทหารในภูมิภาคตะวันออกกลาง หากสหรัฐอเมริกาเข้าร่วมสงครามกับอิหร่านอย่างเปิดเผย ฐานทัพที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคอ่าวอาหรับ โดยเฉพาะในซาอุดีอาระเบีย ย่อมกลายเป็นกลไกสำคัญในการปฏิบัติการทางทหาร ซึ่งจะนำมาซึ่งความเสี่ยงสูงในการถูกตอบโต้จากอิหร่าน
1. บทบาทของซาอุดีอาระเบียในสมการสงคราม
ซาอุดีอาระเบียถือเป็นพันธมิตรใกล้ชิดของสหรัฐอเมริกาในด้านยุทธศาสตร์และความมั่นคง โดยมีการตั้งฐานทัพสหรัฐฯ หลายแห่งในภูมิภาคตะวันออกของประเทศ เช่น ฐานทัพในเมือง ดัมมาม และพื้นที่โดยรอบ ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในการปฏิบัติการทางอากาศและระบบป้องกันภัยทางอากาศในภูมิภาค หากสหรัฐฯ ใช้ฐานทัพเหล่านี้ในการโจมตีอิหร่าน อิหร่านย่อมมองว่าซาอุดีอาระเบียเป็น “คู่สงคราม” โดยปริยาย
2. เป้าหมายที่มีความเสี่ยงในการถูกโจมตี
2.1 ริยาฎ
เมืองหลวงของซาอุดีอาระเบีย มีสถานะเป็นศูนย์กลางทางการเมือง การบริหาร และเศรษฐกิจ หากเกิดการโจมตีในริยาฎจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อความมั่นคงของรัฐบาลกลาง และสร้างความหวาดกลัวในระดับประเทศ
2.2 ดัมมาม
เมืองสำคัญในภาคตะวันออกของประเทศ เป็นที่ตั้งของโรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่ และโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานระดับโลก เช่น บริษัท Aramco การโจมตีในพื้นที่นี้จะสร้างผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อเศรษฐกิจของซาอุฯ และต่อเสถียรภาพด้านพลังงานของโลก
2.3 มักกะฮฺ และมะดีนะฮฺ
แม้จะมีความเป็นไปได้น้อยที่อิหร่านจะโจมตีโดยตรงเนื่องจากสถานะศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนา แต่อิหร่านอาจใช้การข่มขู่หรือปฏิบัติการในเมืองใกล้เคียงเพื่อกดดันซาอุฯ และสร้างความตื่นตระหนกในโลกมุสลิม
3. ผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความมั่นคง
การโจมตีเมืองเศรษฐกิจและศูนย์กลางพลังงานของซาอุดีอาระเบียจะส่งผลกระทบในหลายมิติ ได้แก่:
♦ ราคาน้ำมันโลกพุ่งสูง จากการหยุดชะงักของการผลิตและส่งออก
♦ โครงการพัฒนาเศรษฐกิจ Vision 2030 อาจหยุดชะงัก โดยเฉพาะการดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ
♦ ความมั่นคงภายในประเทศสั่นคลอน หากประชาชนรู้สึกไม่มั่นใจในศักยภาพของรัฐบาลในการปกป้องประเทศ
♦ การประกอบฮัจญ์และอุมเราะฮฺได้รับผลกระทบ ซึ่งไม่เพียงกระทบต่อศาสนา แต่ยังส่งผลทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวศาสนาด้วย
หากเกิดสงครามเต็มรูปแบบระหว่างอิหร่านกับสหรัฐฯ และอิสราเอล ประเทศซาอุดีอาระเบียมีความเสี่ยงสูงที่จะตกเป็นเป้าหมายในการโจมตีตอบโต้ของอิหร่าน โดยเฉพาะเมืองที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ เศรษฐกิจ และศาสนา ความเป็นไปได้นี้จึงควรถูกพิจารณาอย่างรอบคอบในทุกการตัดสินใจเชิงนโยบายของรัฐในภูมิภาค และของมหาอำนาจที่เกี่ยวข้อง เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ความขัดแยงขยายตัวกลายเป็นสงครามภูมิภาคเต็มรูปแบบ
เมื่อสงครามขยายไปยังซาอุ แน่นอนบรรดาผู้ไปประกอบพิธีฮัจญ์ กิจการโรงแรม ขนส่ง และบรรดานักศึกษาในซาอุ แรงงานต่างๆ ส่งผลกระทบอย่างแน่นอน
4. ผลกระทบต่อกิจกรรมศาสนาและภาคบริการในซาอุดีอาระเบีย
การที่ซาอุดีอาระเบียตกเป็นเป้าหมายในการโจมตีของอิหร่านในกรณีสงครามขยายตัว ย่อมก่อให้เกิดผลกระทบอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่ในเชิงยุทธศาสตร์หรือเศรษฐกิจมหภาคเท่านั้น หากแต่ยังส่งผลกระทบต่อกิจกรรมหลักที่เกี่ยวข้องกับศาสนาอิสลาม ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อทั้งซาอุดีอาระเบียและโลกมุสลิมในภาพรวม
4.1 ผลกระทบต่อพิธีฮัจญ์และอุมเราะฮฺ
ซาอุดีอาระเบียเป็นศูนย์กลางของพิธีฮัจญ์และอุมเราะฮฺที่ชาวมุสลิมจากทั่วโลกเดินทางมาประกอบศาสนกิจทุกปี หากเกิดสงครามหรือความไม่มั่นคงภายในประเทศ ความปลอดภัยของผู้แสวงบุญย่อมตกอยู่ในความเสี่ยงอย่างรุนแรง ซึ่งอาจนำไปสู่:
♦ การลดจำนวนผู้แสวงบุญจากนานาประเทศ หรือการระงับการเดินทาง
♦ ผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของซาอุฯ ในการดูแลสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของอิสลาม
♦ การวิพากษ์วิจารณ์ทางการเมืองและศาสนาเกี่ยวกับความสามารถในการบริหารจัดการฮัจญ์
4.2 ผลกระทบต่อธุรกิจบริการ: โรงแรม ขนส่ง และภาคแรงงาน
♦ เศรษฐกิจของเมืองมักกะฮฺและมะดีนะฮฺขึ้นอยู่กับการท่องเที่ยวเชิงศาสนาเป็นหลัก โดยมีอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง เช่น:
♦ โรงแรมและที่พัก
♦ การขนส่งภายในและระหว่างเมือง
♦ ร้านค้า ร้านอาหาร และธุรกิจบริการอื่น ๆ
♦ สงครามหรือการโจมตีทางอากาศจะทำให้ภาคธุรกิจเหล่านี้ต้องหยุดชะงักทันที ซึ่งจะ:
♦ สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจในวงกว้าง
♦ ส่งผลกระทบต่อแรงงานต่างชาติที่พึ่งพารายได้จากภาคบริการ
♦ เพิ่มอัตราการวางงานและภาวะเศรษฐกิจถดถอยภายในเมืองศักดิ์สิทธิ์
4.3 ผลกระทบต่อภาคการศึกษาและแรงงานต่างชาติ
ซาอุดีอาระเบียเป็นหนึ่งในประเทศที่เปิดรับนักศึกษามุสลิมจากนานาประเทศผ่านทุนการศึกษา โดยเฉพาะในมหาวิทยาลัยอิสลาม เช่น มหาวิทยาลัยอิสลามมะดีนะฮฺ (الجامعة الإسلامية بالمدينة المنورة) และ มหาวิทยาลัยอื่นๆ
หากเกิดภาวะสงคราม:
♦ นักศึกษาต่างชาติจะตกอยู่ในสถานการณ์ไม่มั่นคง อาจต้องอพยพกลับประเทศต้นทาง
♦ ส่งผลต่อกระบวนการศึกษาและความร่วมมือทางวิชาการ
♦ แรงงานต่างชาติที่เป็นกำลังหลักในภาคก่อสร้าง พลังงาน และบริการ อาจถูกเลิกจ้าง หรือได้รับผลกระทบด้านความปลอดภัยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ความขัดแย้งที่ขยายตัวเข้าสู่ซาอุดีอาระเบียจะไม่เพียงส่งผลต่อความมั่นคงของรัฐ หากแต่ยังส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อกิจกรรมทางศาสนา เศรษฐกิจท้องถิ่น และประชากรต่างชาติ ทั้งในฐานะผู้แสวงบุญ นักศึกษา และแรงงาน ความสูญเสียในด้านเหล่านี้ย่อมส่งผลสะเทือนทั้งในระดับภายในประเทศและระดับโลกอิสลาม
5. สันติภาพ: ทางเลือกที่ยั่งยืนและลดความสูญเสียในระยะยาว
แม้ว่าความขัดแย้งระหว่างประเทศจะมีปัจจัยซับซ้อน ทั้งในด้านผลประโยชน์ ความมั่นคง หรืออุดมการณ์ แต่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า "การไม่มีสงคราม" ย่อมเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ทั้งในแง่ของมนุษยธรรม เศรษฐกิจ และความมั่นคงระยะยาวของภูมิภาค
5.1 ลดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สิน
สงครามไม่เพียงแต่คร่าชีวิตทหาร หากแต่ยังส่งผลโดยตรงต่อพลเรือน ผู้บริสุทธิ์ และผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ โดยเฉพาะในตะวันออกกลางที่ประชากรจำนวนมากอาศัยอยู่ใกล้กับจุดยุทธศาสตร์ทางทหาร เช่น โรงกลั่นน้ำมัน ท่าอากาศยาน หรือเมืองศักดิ์สิทธิ์
5.2 หยุดชะงักการพัฒนาในระยะยาว
ประสบการณ์จากสงครามในซีเรีย เยเมน และอิรัก แสดงให้เห็นว่า ความขัดแย้งแม้เพียงไม่กี่ปีก็สามารถทำลายความก้าวหน้าและการพัฒนาไปได้หลายสิบปี ไม่ว่าจะเป็น:
♦ โครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนน โรงพยาบาล โรงเรียน
♦ ระบบเศรษฐกิจ การจ้างงาน และการลงทุน
♦ ระบบการศึกษาของเยาวชนที่ต้องสูญเสียโอกาสตลอดชีวิต
5.3 ลดความตึงเครียดระหว่างศาสนาและนิกาย
ภูมิภาคตะวันออกกลางเต็มไปด้วยความหลากหลายทางศาสนาและนิกาย การเข้าสู่สงครามโดยอ้างศาสนาหรือการแบ่งฝ่ายระหว่างซุนนีกับชีอะฮ์ ยิ่งเป็นการลึกซึ้งความขัดแย้งและทำลายเอกภาพของประชาคมมุสลิมโดยรวม
การไม่มีสงครามคือชัยชนะของมนุษยธรรมและอนาคต
สันติภาพไม่ใช่เพียงการหยุดยิงชั่วคราว แต่คือการสร้างเงื่อนไขให้ภูมิภาคสามารถเดินหน้าพัฒนา ฟื้นฟู และสร้างความไว้วางใจร่วมกันระหว่างรัฐ ประชาชน และนานาชาติ
ความสูญเสียจากสงครามไม่ใช่แค่สิ่งที่มองเห็นได้ทางกายภาพ หากแต่ยังรวมถึงโอกาสที่หายไปของคนรุ่นใหม่ ซึ่งอาจต้องใช้เวลาหลายชั่วอายุคนในการเยียวยา