ผู้ที่เสียชีวิตในหนทางของอัลลอฮฺ
  จำนวนคนเข้าชม  67

ผู้ที่เสียชีวิตในหนทางของอัลลอฮฺ

 

แปลและเรียบเรียง....เพจวันละหนึ่งความคิด

 

- อิมาม อิบนิ กะษีร ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ -

 

( وَلَا تَقُولُوا لِمَن يُقْتَلُ فِي سَبِيلِ اللَّهِ أَمْوَاتٌ ۚ بَلْ أَحْيَاءٌ وَلَٰكِن لَّا تَشْعُرُونَ)

"และพวกเจ้าอย่าได้พูดว่า ผู้ที่ถูกฆ่าตายในหนทางของอัลลอฮฺ เป็นผู้ที่เสียชีวิตไปแล้ว

 หาใช่เช่นนั้นไม่ พวกเขายังมีชีวิตอยู่  หากแต่พวกเจ้าเองต่างหากที่ไม่รู้สึก"

[อัลบะก่อเราะฮฺ : 154]

          อัลลอฮฺ ตะอาลาได้ทรงแจ้งให้ทราบว่า บรรดาผู้ตายชะฮีดนั้น พวกเขาจะอยู่ในโลกบัรซัค ( ช่วงเวลาระหว่างความตายกับวันฟื้นคืนชีพ)ในสภาพที่พวกเขายังมีชีวิตอยู่ และได้รับปัจจัยยังชีพ

(ตัฟซี้ร อิบนิ กะษีร)

 

 

 

 -อัลอัลลามะฮฺ อัสสะอฺดีย์ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ-

 

          อันเนื่องมาจาก (การต่อสู้)  เพื่อทำให้พจนารถของอัลลอฮฺสูงส่ง และการมีศาสนาของเขาเป็นที่ปรากฏชัด ไม่ได้ต่อสู้เพื่อเกียรติยศ ชื่อเสียงอื่นใด

          แท้ที่จริง เขาผู้นั้นไม่ได้สูญเสียชีวิตอันเป็ญที่รัก หากแต่เขาจะได้รับชีวิตที่ยิ่งใหญ่กว่า สมบูรณ์กว่า ที่พวกท่านคิดและคาดคะเน

          เพราะบรรดาผู้ที่ตายชะฮีดนั้น พวกเขาจะได้รับริสกี ปิติยินดีกับความโปรดปรานที่อัลลอฮ์ ประะทานให้แก่พวกเขา

           และพวกเขาจะแสดงความปิติยินดีกับบรรดาผู้ที่ยังไม่ได้ติดตามมาที่อยู่เบื้องหลังพวกเขาว่า ไม่มีความกลัวใด ๆ แก่พวกเขา และพวกเขาจะไม่เสียใจ 

          เช่นกันกับที่พวกเขาจะปิติยินดีกับความโปรดปรานของอัลลอฮ และแน่นอนอัลลอฮฺจะไม่ทรงทำให้รางวัลของบรรดาผู้ศรัทธานั้นสูญหาย

 

 

          صلى الله عليه وسلم ยิ่งไปกว่านั้น ท่านนบี ยังได้เคยบอกว่า วิญญาณของพวกเขาจะอยู่ด้านในของนกสีเขียว  เกาะอยู่บนต้นไม้ในสวรรค์ บริโภคจากผลของมัน และพักอาศัยอยู่ในตะเกียง (โคมไฟ) ที่ห้อยติดอยู่กับบัลลังก์ (อะรัช)

(ตัฟซี้ร อัสสะอฺดีย์)

 

 

 

- เชค ซอลิฮฺ อัลอุศ็อยมีย์ หะฟิศ่อฮุ้ลลอฮฺ -

 

          การแจ้งข่าวคราวชาวมุสลิมผู้ถูกสังหาร สร้างความขมขื่นทุกข์ระทมแก่ผู้ศรัทธา โดยที่เราไร้ความสามารถที่จะต้านทานสิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเขาเหล่านั้นได้

          สิ่งหนึ่งที่จะบรรเทาความเจ็บปวดรวดร้าวนั้นได้ก็คือ การตระหนักรู้อยู่เสมอว่า "การตัดสิน" (ให้เหตุการณ์ใดเกิดขึ้นนั้น) เป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮฺแต่เพียงผู้เดียว

          พระองค์ทรงสอดส่อง มองเห็นปวงบ่าวของพระองค์ และการลงทัณฑ์อันเจ็บปวดของพระองค์จะไม่ถูกต้านทานจากกลุ่มชนผู้อธรรมอย่างแน่นอน

          การทรมาณอันหนักหนาสาหัสของพระองค์ ย่อมเกิดขึ้นจริงด้วยฮิกมะฮฺของพระองค์ (มหาบริสุทธิ์แด่พระองค์ท่าน) และสำหรับพระองค์ทรงมี ระยะเวลาที่ทรงลิขิตไว้แล้ว ณ ที่พระองค์

          ดังนั้น จงวิงวอนขอทางออก ขอความรอดพ้นแด่เหล่าผู้ประสบภัยทั้งหลาย และพากเพียรตามกำลังความสามารถในการปกป้องเหยื่อแห่งโศกนาฏกรรม

 

 

 

- เชค คอลิด อิสมาอีล ฮะฟิศ่อฮุ้ลลอฮฺ -

 

          เมื่อครั้งที่ท่านอุมัร อิบนุ อับดุลอะซี้ซ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ ได้ขึ้นเป็นค่อลีฟะฮฺ ท่านได้เขียนสาส์นไว้ว่า :

"พึงรู้เถิดว่า การช่วยเหลือจากอัลลอฮฺนั้น ขึ้นอยู่กับปริมาณของเจตนา"

          ดังนั้น ผู้ใดที่เจตนาของเขาครบถ้วนสมบูรณ์ การช่วยเหลือของอัลลอฮฺที่มีต่อเขาก็จะครบถ้วนสมบูรณ์

          และผู้ใดที่เจตนาของเขาบกพร่อง การช่วยเหลือของอัลลอฮฺที่มีต่อเขาก็บกพร่องไปด้วยเช่นเดียวกัน"

          ตราบใดที่บ่าวบริสุทธิ์ใจต่ออัลลอฮฺ การช่วยเหลือของพระองค์ก็จะถูกประทานลงมา

          และการช่วยเหลือของอัลลอฮฺนั้นจะลงมายังผู้เป็นบ่าว ตามแต่ปริมาณที่เขาได้ทุ่มเท ได้ลงมือทำ

          ซึ่งจริงที่สุด..เพราะสิ่งนี้เป็นการบ่งบอกถึง ความสัจจริงของท่าน

          ตราบใดที่ท่านจริงกับอัลลอฮฺ  ทุ่มเท พากเพียรตามกำลังความสามารถที่มี การกระทำนี้เอง ที่เมื่ออัลลอฮฺทรงมองเห็นท่าน พระองค์จะประทานความช่วยเหลือของพระองค์ลงมา

     ดังที่พระองค์ ตรัสว่า

 

( وَالَّذِينَ جَاهَدُوا فِينَا لَنَهْدِيَنَّهُمْ سُبُلَنَا ۚ وَإِنَّ اللَّهَ لَمَعَ الْمُحْسِنِينَ)

"และบรรดาผู้ที่ต่อสู้ดิ้นรนเพื่อเรา เราจะชี้นำพวกเขาสู่หนทางของเราอย่างแน่นอน 

และแท้จริงอัลลอฮฺทรงอยู่ร่วมกับบรรดาผู้กระทำความดี" 

(อัลอันกะบูต 69)

           ด้วยเหตุนี้ จึงมีคำกล่าวที่ว่า "ทุ่มเทแค่ไหน ก็จะได้รับในสิ่งที่หวังไว้แค่นั้น"

          ท่านปรารถนาจะได้รับลำดับขั้นอันสูงส่ง ปรารถนาการยืนหยัดมั่นคงในศาสนา ปรารถนาผลบุญที่เพิ่มพูนขึ้นทุกวี่ทุกวัน ทั้งหมดนี้ย่อมไม่มีทางได้มา ด้วยความเกียจคร้าน และความสะดวกสบาย ! จำเป็นต้องอาศัยความมานะอุตสาหะ 

          คนที่ปรารถนาอาคิเราะฮฺ เขาจะมีหัวใจที่รู้สึกสงบ สบายใจ ตรงข้ามโดยสิ้นเชิงกับคนที่ทำการงานเพื่อดุนยา เขาย่อมพบกับความเหนื่อยยาก

 

 

 

-ท่าน อบุดดัรด๊าอฺ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮฺ-

 

ฉันรักความตาย...เพราะฉันถวิลหาการได้พบกับพระเจ้าของฉัน

ฉันรักความจน...เพราะมันคือการนอบน้อมต่อพระเจ้าของฉัน

ฉันรักการเจ็บป่วย...เพราะมันคือการลบล้างความผิดให้แก่ฉัน

ใครที่รำลึกถึงความตายมาก เขาก็จะเพลิดเพลินน้อยลง อิจฉาผู้อื่นน้อยลง

เมื่อไหร่ก็ตามที่ท่านรำลึกถึงผู้ตาย ก็จงนับรวมตัวท่านเอง เสมือนกับว่า ท่านเป็นหนึ่งในหมู่พวกเขา

 

 

 

๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕