ถ้อยคำแห่งปวงปราชญ์ 121
แปลและเรียบเรียง....เพจวันละหนึ่งความคิด
- อิมาม อิบนิล ก็อยยิม ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ -
ฉันได้ยินชัยคุลอิสลาม อิบนิตัยมียะฮฺกล่าวว่า : ดังที่ทราบว่า มนุษย์ที่ประเสริฐที่สุดนั้นคือ บรรดานบี
เช่นเดียวกันคนที่เลวที่สุดนั้น ก็คือ คนที่ประพฤติตนคล้ายคลึงกับบรรดานบี
จนทำให้นึกไปว่าเขาเป็นหนึ่งในบรรดาผู้ที่ ประพฤติตนคล้ายคลึงกับบรรดานบี แต่ความจริงแล้วหาเป็นเช่นนั้นไม่
คนที่ดีที่สุดภายหลังจากบรรดานบีก็คือ ผู้ที่มีวิชาความรู้ ผู้ตายชะฮีด ผู้มีความสัจจริงและผู้มีความบริสุทธิ์ใจ
ส่วนคนที่เลวทรามที่สุด คือคนที่เลียนแบบ ทำตัวคล้ายคลึงกลมกลืนกับพวกท่านเหล่านั้น แต่ความจริงแล้วหาได้เป็นเช่นนั้นไม่
(อัดดาอุ วัดดะวาอฺ)
-ชัยคุลอิสลาม อิบนิ ตัยมียะฮฺ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ-
คนบางคนทำดีกับคนอื่นเพื่อให้เป็นบุญคุณกับเขา หรือหวังอยากให้เขาทำดีกลับคืน
ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อฟังทำตาม การให้เกียรติหรือผลประโยชน์อื่นๆ
เขาอาจท้าวทวงบุญคุณ โดยกล่าวว่า ฉันทำอย่างนั้นอย่างนี้กับท่าน !!
คนเช่นนี้ ไม่ได้ภักดีต่ออัลลอฮฺ ไม่ได้ขอความช่วยเหลือต่อพระองค์ ไม่ได้ทำเพื่ออัลลอฮฺ
และไม่ได้ทำอันเนื่องเพราะพระองค์แต่อย่างใด เขาก็เป็นเช่นคนที่ทำ เพื่อให้คนอื่นเห็นเท่านั้นเอง !
( مجموع الفتاوى (٣٣٠/١٤
-อิมาม อิบนิ้ล ก็อยยิม ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ –
ใครที่อ่อนโยนกับเพื่อนมนุษย์ อัลลอฮฺก็จะทรงอ่อนโยนกับเขา
ใครที่ทำดีกับเพื่อนมนุษย์ อัลลอฮฺก็จะทรงทำดีกับเขา
ใครที่ใจบุญกับเพื่อนมนุษย์ อัลลอฮฺก็จะทรงใจบุญกับเขา
ใครที่ให้คุณให้ประโยชน์กับเพื่อนมนุษย์ อัลลอฮฺก็จะทรงให้คุณกับเขา
ใครที่ปกปิด (ข้อบกพร่อง) ของเพื่อนมนุษย์ อัลลอฮฺก็จะทรงปกปิดข้อบกพร่องของเขา
ใครที่ขัดขวาง หักห้ามเพื่อนมนุษย์จากการทำดีของตัวเอง (ไม่ปฏิบัติอย่างดีต่อผู้คน) พระองค์ก็จะทรงขัดขวางเขาจากความดีงามของพระองค์
ใครที่ปฏิบัติกับเพื่อนมนุษย์ด้วยลักษณะใด อัลลอฮฺก็จะทรงปฏิบัติกับเขาด้วยคุณลักษณะนั้นๆ ทั้งในดุนยาและอาคิเราะฮฺ เพราะอัลลอฮฺจะบันดาลให้แก่บ่าวของพระองค์ ตามแต่ที่บ่าวได้กระทำกับบรรดาปวงบ่าวพระองค์
(อัลวาบิลุศ ศ็อยยิบ)
- อัลอัลลามะฮฺ อัสสะอฺดีย์ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ-
เมื่อท่านนั่งร่วมอยู่กับผู้คน คลุกคลีกับพวกเขา
พึงทำให้ 'ความถ่อมตน' เป็นอัตลักษณ์ประจำตัวของท่าน
ให้ 'ความยำเกรงต่ออัลลอฮฺ' เป็นเสื้อคลุมกายของท่าน
และให้ 'ความจริงใจ' ต่อผู้คนทั้งหลาย เป็นแนวทางของท่านที่ดำเนินอยู่เป็นนิจสิน
(มัจมูอฺ 384/22)
- เชค สุลัยมาน อัรรุฮัยลีย์ ฮะฟิศ่อฮุ้ลลอฮฺ -
♦ ผู้ทำหน้าที่ปกครอง จำเป็นต้องทำในสิทธิหน้าที่ของตน ที่มีต่อผู้อยู่ภายใต้การปกครอง แม้ว่าผู้อยู่ภายใต้การปกครอง จะบกพร่องในหน้าที่ก็ตาม
♦ ลูก ต้องทำตามสิทธิและหน้าที่ของตนที่มีต่อบุพการี แม้ว่าบุพการีจะบกพร่องในหน้าที่ หรือบุพการีจะเข้มงวดแข็งกร้าวก็ตาม
♦ บุพการี ก็ต้องทำตามสิทธิและหน้าที่ของตน ที่มีต่อบุตร แม้ว่าบุตรจะอกตัญญู ไม่รู้คุณก็ตาม
♦ สามี ต้องทำตามสิทธิและหน้าที่ของตนที่มีต่อภรรยา แม้ว่าภรรยาจะบกพร่องในหน้าที่
♦ ภรรยา ก็ต้องทำตามสิทธิและหน้าที่ของตนที่มีต่อสามี แม้ว่าสามีจะบกพร่องในหน้าที่เช่นกัน
♦ มุสลิม จึงเป็นผู้ที่ทำตามสิทธิและหน้าที่ที่ตน ต้องรับผิดชอบ และฝากสิทธิของตนที่พึงได้รับไว้กับอัลลอฮฺ
นี่คืออัตลักษณ์ของมุสลิม ซึ่งจะไม่พบอัตลักษณ์เช่นนี้กับใครอื่นเลย อัตลักษณ์ของมุสลิมที่ก่อร้างสร้างขึ้น เพื่อประโยชน์สุขของส่วนรวม อันมีที่มาจากคัมภีร์ของอัลลอฮฺ และซุนนะฮฺของท่านร่อซู้ล ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม
( ส่วนหนึ่งจากการคลิปการบรรยายเรื่อง สิทธิต่างๆ ในอัลกุรอาน)
أَمْ حَسِبْتُمْ أَن تَدْخُلُوا الْجَنَّةَ وَلَمَّا يَعْلَمِ اللَّهُ الَّذِينَ جَاهَدُوا مِنكُمْ وَيَعْلَمَ الصَّابِرِينَ
"พวกเจ้าคิดหรือว่า พวกเจ้าจะได้เข้าสวรรค์ ทั้งๆ ที่อัลลอฮฺยังมิได้ทรงรู้ถึงบรรดาผู้ที่ต่อสู้ (ญิฮาด)ในหมู่พวกเจ้า
และพระองค์ก็จะทรงรู้ถึงบรรดาผู้ที่อดทนด้วย"
(อาละอิมรอน /142)
โอ้บรรดาเหล่าสหายของมุฮัมมัด-صلى الله عليه وسلم- พวกเจ้าคิดหรือว่า พวกเจ้าจะได้เข้าสวรรค์ โดยที่พวกเจ้าไม่ได้ถูกทดสอบด้วยการเข่นฆ่าสังหารและความยากลำบากอย่างนั้นหรือ ?
การเข้าสวรรค์จะยังไม่เกิดขึ้นจนกว่าพวกเจ้าจะถูกทดสอบ และอัลลอฮฺจะทรงทราบดี (ด้วยความรู้อันเป็นที่ประจักษ์สำหรับปวงบ่าว) ถึงบรรดาผู้ที่ต่อสู้ในหนทางของพระองค์ในหมู่พวกเจ้า และทรงทราบดีถึงบรรดาผู้ที่อดทนต่อการเผชิญหน้ากับศัตรู
(ตัฟซี้ร อัลมุยัซซัร)
อายะฮฺนี้เป็นการตั้งคำถามเชิงปฏิเสธ หมายถึง พวกเจ้าอย่าได้คิดไปเลยว่าจะได้เข้าสวรรค์โดยปราศจากความยากลำบาก(เพราะการจะได้เข้าสวรรค์นั้น) ต้องอาศัยการอดทนกับสิ่งที่ไม่ชอบในหนทางของอัลลอฮฺ และหวังในความพอพระทัยของพระองค์
เพราะสรวงสวรรค์ คือยอดปรารถนาอันสูงส่ง เเละคือสิ่งประเสริฐสุดที่บรรดาผู้ที่แข่งขันกันทำความดีทั้งหลายต่างชิงชัย(เพื่อให้บรรลุถึง) และตราบใดที่ สิ่งที่เป็นที่ปรารถนานั้นยิ่งใหญ่ วิธีการและการกระทำที่จะนำพาให้ถึงสวรรค์นั้น ก็ย่อมยิ่งใหญ่ตามไปด้วยเช่นเดียวกัน
ดังนั้น การได้รับความสะดวกสบาย จะเกิดขึ้นได้ ก็ด้วยกับการละทิ้งความสะดวกสบาย (ในโลกนี้) และจะไม่มีทางได้รับความผาสุก นอกจากต้องละทิ้งความผาสุก
หากแต่เรื่องร้ายๆ ในดุนยาที่บ่าวต้องประสบพบเจอในหนทางของอัลลอฮฺ ล้วนเป็นการทำให้จิตวิณญาณมั่นคง เป็นการฝึกฝนหัวใจ และทำให้หัวใจรู้ถึงสิ่งที่หัวใจจะหวนกลับไป(พึ่งพิง) เหล่านั้นเองเป็นการพลิก (วิกฤต) ที่ประสบเป็นการได้รับ(โอกาสแห่งคุณความดี)
เพื่อว่าหัวใจจะได้ปิติยินดี (อันเนื่องจากภาคผลของมัน) และไม่ยี่หระ (กับความลำบากที่พบเจอ) เช่นนี้แหละ คือ ความโปรดปรานของอัลลอฮฺ ที่มีแด่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์เท่านั้น
(ตัฟซี้ร อัสสะอฺดีย์)
ท่านร่อซู้ล ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า :
" มนุษย์ทั้งหลาย แท้จริงอัลลอฮฺ อัศศ่ะวะญัล ได้ตรัสกับพวกท่านว่า:
พวกเจ้าจงกำชับกันให้ทำดี ห้ามปรามกันไม่ให้ทำชั่ว
ก่อนที่พวกเจ้าจะวิงวอนขอต่อข้า แล้วข้าไม่ตอบรับ
ขอต่อข้าให้ได้รับชัยชนะ แล้วข้าไม่ช่วยเหลือพวกเจ้าให้ชนะ
และก่อนที่พวกท่านจะขอ แล้วข้าไม่ประทานให้แก่พวกเจ้า
(บันทึกโดย อัลบัศศ้าร อิบนิฮิบบาน อิบนิมาญะฮฺ)
$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$