โรคที่รักษาไม่หาย
  จำนวนคนเข้าชม  107

โรคที่รักษาไม่หาย

 

แปลและเรียบเรียง....เพจวันละหนึ่งความคิด

 

- เชค มุฮัมมัด อิบนิ อุซัยมีน ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ-

 

     การอิจฉาริษยา คือ โรคที่รักษาไม่หาย มีที่มาจากหัวใจที่ชั่วร้าย ที่ไม่อยากให้ผู้อื่นได้รับในสิ่งที่ดี หากแต่อยากเก็บเอาสิ่งดีๆ ไว้กับตัวเองแต่เพียงลำพังเท่านั้น มันคือ หัวใจที่ตะหนี่ถี่เหนียว

     เมื่อเห็นสิ่งดีเกิดกับผู้อื่น ก็รู้สึกไม่ชอบใจ ไม่ว่าจะหวังอยากให้มันสูญสิ้นไปหรือไม่ก็ตาม ดังที่ชัยคุ้ลอิสลาม อิบนิตัยมียะฮฺได้ให้คำนิยามของการอิจฉาว่า

“คือการรังเกียจที่เห็นผู้อื่นได้รับความโปรดปราน (นิอฺมะฮฺ) จึงไม่จำกัดว่าอยากจะให้นิอมะฮฺนั้นสูญสิ้นไปหรือไม่ก็ตาม”

 

     สำหรับแนวทางการบำบัดรักษาการอิจฉาริษยานั้น ได้แก่

 

     1) ตระหนักว่าความโปรดปรานนี้มาจากอัลลอฮฺ ดังที่พระองค์ตรัสว่า 

"หรือว่าพวกเจ้าจะอิจฉามนุษย์ในสิ่งที่พระองค์ได้ประทานให้แก่พวกเขาจากความโปรดปรานของพระองค์กระนั้นหรือ ?"

     เมื่อสิ่งนั้นมาจากความโปรดปรานของอัลลอฮฺ นั่นย่อมหมายความว่าสิ่งนั้นคือการกระทำของพระองค์ การอิจฉาจึงแฝงไว้ด้วยการไม่พอใจในกำหนดของอัลลอฮฺ ดังนั้น ผู้ศรัทธาจำเป็นต้องระงับจากการกระทำนี้ให้ได้

 

     2) ยิ่งอิจฉา ก็จะยิ่งเพิ่มบาปและลดทอนความดีของตนเอง ดังคำกล่าวที่ว่า “การอิจฉาริษยาจะกัดกิดผลบุญ เช่นที่ไฟกินฟืน ฉันใดก็ฉันนั้น”

 

     3) ตระหนักไว้เสมอว่า การอิจฉามีแต่จะเพิ่มความวิตกกังวลและทุกข์ระทม ยิ่งเห็นผู้อื่นได้รับนิอฺมะฮฺมากเท่าใด ก็จะยิ่งเจ็บใจทุกข์ใจมากเท่านั้น

 

     4) ให้รู้ว่าไม่มีสิ่งใดจะขัดขวางห้ามไม่ให้อัลลอฮฺประทานความโปรดปรานนั้นกับคนที่เขาอิจฉาอยู่ได้ เมื่อเขาตระหนักรู้ในข้อนี้ เขาก็จะทราบว่าการอิจฉาของเขานั้น ไม่มีประโยชน์อะไรเลย และคนที่มีปัญญาย่อมไม่ทดลองทำในสิ่งที่ไม่เกิดประโยชน์ใดๆ

 

     5) ให้รู้ไว้ว่า คนที่อิจฉาเมื่อจมปลักอยู่กับความอิจฉาริษยา และคล้อยตามอารมณ์แห่งความอิจฉาแล้ว ความอิจฉาจะทำให้เขายุ่งอยู่กับมันจนพลาดโอกาสในการทำสิ่งที่จะเกิดประโยชน์แก่ตัวของเขาเองเป็นการเฉพาะ

      จะเห็นว่าคนที่อิจฉาจะยุ่งอยู่แต่การตามข่าวของคนที่ตนอิจฉาอยู่ เพราะคนที่อิจฉาจะติดตามสอดแนมแต่เรื่องของคนที่ตนอิจฉาอยู่เสมอนั่นเอง

 

 

 

ท่านร่อซู้ล صلى الله عليه وسلم กล่าวว่า:

 

" โรคร้ายที่เคยประสบกับ ประชาชาติก่อนหน้าพวกท่าน ได้มาประสบกับพวกท่านแล้ว

นั่นก็คือ การอิจฉาริษยา และการเกลียดชังซึ่งกันและกัน"

(บันทึกโดยอิมามอะฮฺมัดและอิมามอัตติรมีซีย์)

 

 

 

- ท่านมุอาวิยะฮฺ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮฺ-

 

          ลูกรัก..จงระวังและปลีกตัวออกห่างจากการอิจฉาเถิด เพราะมันจะเป็นที่ประจักษ์ชัดเจนในตัวของเจ้า ก่อนที่มันจะประจักษ์ชัดในคู่อริของเจ้า

 

 

 

-ท่านอบูบักร อิบนิ้ล อะรอบีย์ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ-

 

     หัวใจ จะยังไม่บริสุทธิ์อย่างแท้จริง หากยังเป็นหัวใจที่ อิจฉาริษยา ลำพองตน และหยิ่งยโส

     เพราะท่านนบี صلى الله عليه وسلم  ได้วางเงื่อนไขของการมีศรัทธาไว้ว่า:

"คือ การที่คนๆ หนึ่งปรารถนา อยากให้พี่น้องของเขาได้รับ เฉกเช่นที่เขาอยากให้ตนเองได้รับ"

(อัลฟุรูซียะฮฺ499)

 

 

 

-เชค ซอลิหฺ อัลอุศ็อยมีย์ ฮะฟิศ่อฮุ้ลลอฮฺ -

 

     พวกท่านพึงระวังการอิจฉาริษยา และพึงชำระจิตใจของพวกท่านให้สะอาดบริสุทธิ์

     เพราะการอิจฉาริษยานั้น คือสิ่งเผาไหม้คุณงามความดีทั้งหลายให้หมดไป

     ความอิจฉาเป็นที่มาของความโศกเศร้าระทมทุกข์ เป็นสิ่งขจัดการงานที่ดี

     คนขี้อิจฉาจะอมทุกข์และใช้ชีวิตอย่างอึดอัด และความสั่นคลอนไม่คงเส้นคงวา จะปรากฏให้เห็นอย่างเด่นชัด

 

 

 

- เชค อิบนิ อุซัยมีน ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ -

 

     เมื่อท่านเห็นว่า อัลลอฮฺได้ประทานทรัพย์สิน วิชาความรู้  สุขภาพพลานามัย เกียรติยศชื่อเสียง ลูกหลาน หรืออื่นๆ นอกเหนือจากนี้ แก่คนอื่นนอกเหนือจากท่าน ก็จงกล่าวว่า

 

اللهم إني أسألك من فضلك

"อัลลอฮุมมะ อินนี อัซอะลุกะ มิน ฟัฎลิกะ"

"โอ้อัลลอฮฺ แท้จริง ข้าพระองค์วิงวอนขอ ความโปรดปรานจากพระองค์ด้วยเถิด"

     ดังที่พระองค์ได้ตรัสว่า

" واسألوا الله من فضله "

"และพวกเจ้า จงวอนขอความโปรดปรานของพระองค์ต่ออัลลอฮฺเถิด"

 

          ส่วนการเป็นคนอมทุกข์ หมองเศร้า เวลาที่เห็นความโปรดปรานของอัลลอฮฺมีให้กับคนหนึ่งคนใด แล้วรู้สึกกลุ้มใจทุกข์ใจนั้น  สิ่งเหล่านี้จะเป็นสิ่งเผาไหม้ตัวของท่านเอง และเมื่อใดก็ตามที่ท่านรู้สึกอิจฉาก็ให้กล่าวว่า :

 

أعوذ بالله من الشيطان الرجيم،

اللهم إني أسألك من فضلك  كما أعطيت هؤلاء ألا تحرمني

 

(อะอูซุบิ้ลลาฮิ มินัชชัยฏอนิรรอญีม อัลลอฮุมมะ อินนี อัซอะลุกะ มิน ฟัฎลิกะ กะมา อะอฺฏ็อยตะ ฮาอุลาอฺ อัลลา ตะฮฺริมนีย์)

" ข้าพระองค์ขอความคุ้มครองต่ออัลลอฮฺ ให้พ้นจากชัยฏอนที่ถูกสาปแช่ง

ข้าแต่อัลลอฮฺ แท้จริง ข้าพระองค์วอนขอความโปรดปรานจากพระองค์ ดังเช่นที่พระองค์ได้ประทานให้แก่พวกเขาเหล่านั้น 

ขอพระองค์โปรดอย่าได้ทรงห้ามข้าพระองค์(ในการได้รับสิ่งเหล่านั้น) ด้วยเถิด"

 

اللقاءات الشهرية (٣٩)