กลุ่ม "อัซซุรูรียะห์"
อ.อิสหาก พงษ์มณี ....แปลเรียบเรียง
กลุ่มอัสสุรูรียะห์ (السرورية) เป็นกลุ่มความคิดที่เกิดขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 ซึ่งผสมผสานแนวคิดของอัซซะละฟียะห์ (สำนักที่เน้นการปฏิบัติตามแบบอย่างยุคแรกของศาสนาอิสลาม) และ อิควานุลมุสลิมีน (ภราดรภาพมุสลิม) โดยกลุ่มนี้ถูกตั้งชื่อตามผู้ก่อตั้ง คือ มุฮัมมัด ซะรูร บิน นายิฟ ซัยนุลอาบิดีน นักการศาสนาจากซีเรียที่เคยเป็นสมาชิกของอิควานุลมุสลิมีนก่อนแยกตัวออกมาและก่อตั้งแนวคิดใหม่ ซึ่งผสมผสานระหว่างหลักการศาสนากับการเคลื่อนไหวทางการเมือง
รายละเอียดเกี่ยวกับกลุ่มซะรูรียะห์
การก่อตั้งและชื่อเรียก
มุฮัมมัด ซะรูร บิน นาอิฟ ซัยนุลอาบิดีน: เดิมเคยเป็นสมาชิกของอิควานุลมุสลิมีน แต่เนื่องจากความขัดแย้งในแนวคิด เขาจึงแยกตัวออกมาและพัฒนาแนวคิดของตนเอง
กลุ่มนี้ถูกเรียกว่า "อัซซุรูรียะห์" ตามชื่อของผู้ก่อตั้ง แต่ผู้สนับสนุนกลุ่มนี้มักไม่ยอมรับชื่อนี้ และมองว่าเป็นคำที่ใช้ในเชิงวิจารณ์
แนวคิดและหลักการของกลุ่มอัซซุรูรียะห์
1. ผสมผสานแนวคิดศาสนาและการเมือง
เชื่อมั่นในหลักการศาสนาอิสลามแบบซะลัฟในเรื่องความเชื่อและอิบาดะห์ แต่ให้ความสำคัญกับแนวคิดเกี่ยวกับ "ฮากิมียะห์" (การปกครองด้วยกฎหมายอิสลาม) และการเคลื่อนไหวทางการเมือง ซึ่งแตกต่างจากซะละฟียะห์ดั้งเดิม
2. การจัดตั้งองค์กรแบบลับๆ
ได้รับอิทธิพลจากอิควานุลมุสลิมีนในด้านการจัดองค์กรและการเคลื่อนไหวอย่างเป็นระบบ
3. การมุ่งเน้นการปกครองด้วยกฎหมายอิสลาม
ยึดมั่นว่ารัฐบาลต้องปกครองด้วยกฎหมายอิสลามอย่างสมบูรณ์ และมักวิพากษ์วิจารณ์ต่อต้านรัฐบาลที่ไม่ทำเช่นนั้นอย่างรุนแรง
4. การฟื้นฟูแนวคิดญิฮาดในมิติการเมือง
สนับสนุนว่าศาสนาอิสลามไม่ใช่แค่เรื่องอิบาดะห์หรือจริยธรรมส่วนบุคคล แต่ต้องครอบคลุมถึงการปกครองและการจัดระเบียบสังคมด้วย
5. การเคลื่อนไหวที่เป็นความลับ
บางครั้งพวกเขามีลักษณะการทำงานแบบใต้ดิน ทำให้รัฐบาลในบางประเทศมองว่าพวกเขาเป็นภัยต่อความมั่นคง
การแพร่กระจายและกิจกรรม
กลุ่มนี้ได้รับความนิยมในประเทศอ่าวอาหรับ เช่น ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เหมาะสมเนื่องจากมีแนวคิดซะละฟียะห์ดั้งเดิม แต่กลุ่มซุรูรียะห์เพิ่มมิติทางการเมืองเข้าไป ใช้สถาบันการศึกษาและเวทีทางศาสนาเป็นช่องทางเผยแพร่แนวคิด ก่อตั้งสถาบันและสื่อสิ่งพิมพ์ เช่น นิตยสาร "อัสสุนนะห์" ซึ่งดำเนินงานโดยมุฮัมมัด ซุรูร
ข้อผิดพลาดและผลกระทบของกลุ่มซะรูรียะห์
1. ในด้านความเชื่อ
แม้ว่าจะอ้างอิงแนวทางซะละฟียะห์ แต่พวกเขาตีความ "ฮากิมียะห์" อย่างเคร่งครัดจนกลายเป็นแนวคิดที่เข้มงวดจนหลุดแนวทาง มุ่งเน้นทางเมืองจนทำใหัเรื่องอะกีดะห์กลายเป็นเรื่องการเมืองไปแทบทั้งสิ้น
2. ในด้านการเมือง
การมุ่งเน้นด้านการเมืองมากเกินไปทำให้เสียสมดุลกับบทบาทด้านศาสนา การวิจารณ์รัฐบาลในหลายประเทศก่อให้เกิดความขัดแย้งและความไม่มั่นคง
3. ในความสัมพันธ์กับนักวิชาการ
กลุ่มนี้มักวิพากษ์วิจารณ์นักวิชาการที่อยู่ในแนวทางซะลัฟดั้งเดิม และกล่าวหาว่าพวกเขาเป็น "นักวิชาการของรัฐ" การวิจารณ์นี้ก่อให้เกิดความแตกแยกในกลุ่มชาวมุสลิม
4. ในหมู่เยาวชน
กลุ่มนี้สามารถดึงดูดเยาวชนได้จำนวนมาก เนื่องจากแนวคิดที่เน้นความเข้มแข็งทางศาสนาและการเปลี่ยนแปลงสังคม แต่การขาดพื้นฐานความรู้ทางศาสนาที่มั่นคงทำให้บางส่วนหลงไปในแนวคิดสุดโต่ง
คำวิจารณ์ที่มีต่อกลุ่มซะรูรียะห์
1. จากนักวิชาการซะละฟียะห์ดั้งเดิม
นักวิชาการเช่น เชคอับดุลอะซีซ บิน บาซ และ เชคมุฮัมมัด บิน ศอลิฮฺ อัลอุษัยมีน วิจารณ์กลุ่มนี้ว่าเบี่ยงเบนจากหลักการซะลัฟียะห์ที่แท้จริง พวกเขามองว่ากลุ่มซะรูรียะห์เน้นด้านการเมืองมากเกินไป และละเลยการเผยแพร่หลักความเชื่ออิสลามที่ถูกต้อง
2. จากกลุ่มอิควานุลมุสลิมีน
แม้ว่ากลุ่มซุรูรียะห์จะได้รับอิทธิพลจากอิควานุลมุสลิมีน แต่บางส่วนของอิควานเห็นว่ากลุ่มนี้มีแนวทางที่แข็งกร้าวเกินไปในการปฏิบัติตามหลักศาสนา
3. จากรัฐบาลในบางประเทศ
เนื่องจากกลุ่มนี้มักวิจารณ์รัฐบาล จึงถูกมองว่าเป็นกลุ่มต่อต้าน และกิจกรรมบางอย่างของพวกเขาถูกแบน
บุคคลสำคัญของกลุ่มซะรูรียะห์
1. มุฮัมมัด ซะรูร บิน นาอิฟ ซัยนุลอาบิดีน: ผู้ก่อตั้งกลุ่มและนักเขียนชื่อดัง
2. ซัลมาน อัลเอาดะห์: แม้ว่าเขาจะไม่ได้เป็นสมาชิกโดยตรง แต่แนวคิดบางส่วนของเขาใกล้เคียงกับกลุ่มนี้
3. นาศิร อัลอุมัร: นักเผยแพร่ศาสนาที่มีชื่อเสียงในกลุ่ม
4. อาอิฎ อัลกอรนี: เคยมีแนวคิดใกล้เคียงกับกลุ่มซะรูรียะห์ในช่วงแรก
ผลกระทบต่อสังคม
กลุ่มนี้สร้างกระแสแนวคิดใหม่ที่ดึงดูดคนรุ่นใหม่จำนวนมาก แต่ในขณะเดียวกันก็ก่อให้เกิดความแตกแยกภายในชุมชนมุสลิม แนวคิดของพวกเขายังส่งผลให้เกิดความตึงเครียดในเชิงการเมืองและศาสนาในหลายประเทศ
สรุป
กลุ่มซะรูรียะห์เป็นกลุ่มที่มีแนวคิดผสมผสานระหว่างศาสนาและการเมือง แต่การมุ่งเน้นด้านการเมืองมากเกินไปและการขาดการมุ่งเน้นความรู้ทางศาสนาที่ถูกต้องทำให้เกิดข้อผิดพลาดและผลกระทบเชิงลบต่อสังคมมุสลิม การยึดมั่นในแนวทางซะลัฟดั้งเดิมที่เน้นความสมดุลระหว่างศาสนาและสังคมจึงเป็นสิ่งที่นักวิชาการหลายท่านแนะนำเพื่อหลีกเลี่ยงการเบี่ยงเบน
มุฮัมมัด ซอและห์ อัลมุนัจญิด (صالح المنجد) เป็นนักเผยแผ่ศาสนาอิสลามที่มีบทบาทไม่น้อยในการเผยแพร่ความรู้ศาสนาอิสลามคนหนึ่ง แต่เขาได้รับการวิพากษ์วิจารณ์และคำเตือนจากนักวิชาการบางท่านในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับแนวทางและความคิดของเขาดังนี้:
นักวิชาการที่วิพากษ์วิจารณ์อัลมุนัจญิด:
1. เชคซอลิห์ อัลเฟาซาน (الشيخ صالح الفوزان)
วิพากษ์ว่าอัลมุนัจญิดได้รับอิทธิพลจากแนวคิดของซัยยิด กุฏบ์ (سيد قطب) และแนวคิดเชิงเคลื่อนไหวที่เบี่ยงเบนจากแนวทางซาลาฟี (السلفي) แบบดั้งเดิม
2. เชครอบีอฺ อัลมัดคอลี (الشيخ ربيع المدخلي)
เตือนว่าอัลมุนัจญิดมีแนวทางที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มแนวคิดทางการเมืองที่ไม่สอดคล้องกับหลักการซาลาฟี
3. เชคอุบัยด์ อัลญาบิรี (الشيخ عبيد الجابري)
วิจารณ์ว่าแนวคิดของอัลมุนัจญิดมีลักษณะโน้มเอียงไปทางกลุ่มเคลื่อนไหวมากกว่าแนวทางซาลาฟีที่แท้จริง
ประเด็นที่ถูกวิจารณ์:
การสนับสนุนแนวคิดของซัยยิด กุฏบ์ : นักวิชาการบางท่านมองว่าอัลมุนัจญิดได้รับอิทธิพลจากแนวคิดของซัยยิด กุฏบ์ ซึ่งเป็นแนวคิดที่ถูกวิพากษ์ว่ามีการตีความศาสนาที่เบี่ยงเบน
การเกี่ยวข้องกับกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง : ถูกกล่าวหาว่ามีความใกล้ชิดกับแนวคิดการเมืองเชิงเคลื่อนไหว (เช่น กลุ่มอัซซุรูรียะห์ - السرورية) มีข้อกังขามากมายในเรื่องมุมมองทางการเมืองของเขาที่ไม่สอดคล้องกับแนวทางดั้งเดิมของซาลาฟี