บทบาทและหน้าที่ของมุสลิมกับการช่วยเหลือสังคม 1
ความประเสริฐของการช่วยเหลือผู้อื่น
อับดุลวาเฮด สุคนธา... เรียบเรียง
ความหมาย
การช่วยเหลือคนอื่นคือการตอบสนองความต้องการของผู้อื่น เช่น กรณีคือการที่เรารู้สึกเห็นอกเห็นใจกับความยากลำบากที่เขาพบเจอจริง ๆ ก็เลยต้องการให้ความช่วยเหลือด้วยความเต็มใจก็ได้เช่นกัน
อิบนุรอญับกล่าวว่า :
"ความทุกข์ คือความยากลำบากอย่างมากที่ทำให้ผู้เผชิญรู้สึกเหมือนติดอยู่ในสภาพคับขัน
การบรรเทา หมายถึงการช่วยผ่อนคลายความทุกข์นั้นให้เบาลง ซึ่งเปรียบเหมือนการคลายสิ่งที่รัดคอให้หลวมลงเพื่อให้เขาได้หายใจ
และการปลดเปลื้อง นั้นยิ่งใหญ่กว่านั้นอีก คือการขจัดความทุกข์ให้หมดสิ้นไปจนความเศร้าโศกและความกังวลของเขาหายไป
ดังนั้น การบรรเทา จะได้รับผลตอบแทนเป็นการบรรเทา และการปลดเปลื้อง จะได้รับผลตอบแทนเป็นการปลดเปลื้องเช่นกัน"
การช่วยเหลือผู้อื่นเป็นการกระทำความดีที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งนำประโยชน์มาสู่ผู้อื่น ใครก็ตามที่ช่วยเหลือในการสนองความต้องการของผู้อื่น พระเจ้าผู้ทรงเกียรติจะตอบสนองความต้องการของเขาเช่นกัน
อัลลอฮฺทรงกล่าวว่า
وَافْعَلُوا الْخَيْرَ لَعَلَّكُمْ تُفْلِحُونَ﴾ [الحج - 77].)
“และจงประกอบความดี หวังว่าพวกเจ้าจะได้รับชัยชนะ”
ความสำคัญของการช่วยเหลือผู้อื่น
มารยาทของศาสนาอิสลามที่มุสลิมจะต้องมีอันเป็นคุณลักษณะของผู้ศรัทธานั้นคือการที่ต้องช่วยเหลือพี่น้องมุสลิมหรือผู้อื่นในสังคมด้วยกัน เพราะว่าการช่วยเหลือนั้นเป็นความดี เป็นคุณธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการช่วยเหลือกันให้มีคุณธรรม เพราะมันคือการสร้างสังคมที่ดีมีน้ำใจเห็นอกเห็นใจเห็นคุณค่าในเพื่อนมนุษย์ มีความเอื้ออาทร เอาใจใส่ในทุกข์สุขของผู้อื่น อย่าละเลยที่จะให้ความช่วยเหลือเกื้อกูลแบ่งปันเสียสละความสุขของตนเองเพื่อทำประโยชน์แก่ผู้อื่น
ผู้ศรัทธาที่สมบูรณ์ต้องมีหลักความเชื่อที่ถูกต้อง มีศรัทธาที่เข้มแข็งนำสู่การปฏิบัติความดี ไม่ว่าจะเป็นการปฏิบัติระหว่างบ่าวที่มีต่อพระเจ้า และการปฏิบัติต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน รวมไปถึงการมีจรรยามารยาทที่สวยงาม นี่คือหลักสำคัญในการเป็นผู้ศรัทธาที่สมบูรณ์
เมื่อเราลองไปดูหะดิษต่างๆ ที่บอกถึงสาเหตุที่ทำให้เข้าสวรรค์ ก็จะพบว่าไม่ได้มีเพียงเรื่องของการอิบาดะห์ต่ออัลลอฮ์เท่านั้น แต่ยังมีสาเหตุอื่นๆที่ทำให้เข้าสวรรค์ได้เช่นกัน เช่น การทำดีต่อพ่อแม่ การทำดีต่อเพื่อนมนุษย์ หรือแม้แต่การทำดีต่อสัตว์ โดยเน้นจากคนที่อยู่รอบข้าง คนใกล้ชิด หรือเพื่อนบ้านของเรา
อัลลอฮฺตะอาลา ตรัสว่า
(وَاعْبُدُواْ اللهَ وَلاَ تُشْرِكُواْ بِهِ شَيْئاً وَبِالْوَالِدَيْنِ إِحْسَاناً وَبِذِي الْقُرْبَى وَالْيَتَامَى وَالْمَسَاكِينِ وَالْجَارِ ذِي الْقُرْبَى وَالْجَارِ )
“และจงเคารพสักการะอัลลอฮฺเถิด และอย่าให้มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดเป็นภาคีกับพระองค์ และจงทำดีต่อผู้บังเกิดเกล้าทั้งสอง และต่อผู้เป็นญาติที่ใกล้ชิด
เด็กกำพร้าและผู้ขัดสน และเพื่อนบ้านใกล้เคียงและเพื่อนที่ห่างไกล และเพื่อนเคียงข้าง (เพื่อนที่ร่วมเดินทางหรือร่วมงาน) และผู้เดินทาง
และผู้ที่มือขวาของพวกเจ้าครอบครอง(บ่าวไพร่) แท้จริงอัลลอฮฺ ไม่ทรงชอบผู้ยะโสผู้โอ้อวด”
(อัน-นิสาอ์ 36)
อัลลอฮ์ ทรงตรัสว่า
(مَّن يَشْفَعْ شَفَاعَةً حَسَنَةً يَكُن لَّهُ نَصِيبٌ مِّنْهَا)
“บุคคลใดให้ความช่วยเหลืออย่างดี เขามีสิทธิ์ได้รับส่วนดีจากความช่วยเหลือนั้น ”
(ซูเราะห์อันนิซาอฺ อายะห์ที่ 85)
(وَتَعَاوَنُواْ عَلَى الْبَرِّ وَالتَّقْوَى وَلاَ تَعَاوَنُواْ عَلَى الإِثْمِ وَالْعُدْوَانِ)
“และพวกจงช่วยเหลือกันในสิ่งที่เป็นคุณธรรม และความยำเกรง และจงอย่าช่วยเหลือกันในสิ่งที่เป็นบาป และเป็นศัตรูกัน”
(ซูเราะห์อัลมาอิดะห์ อายะห์ที่ 2)
หะดีษรายงานจากท่านอบีฮุร็อยเราะห์ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้กล่าวว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า
(وَاللهُ فِي عَوْنِ الْعَبْدِ مَا كَانَ الْعَبْدُ فِي عَوْنِ أَخِيهِ)
“ อัลลอฮฺพร้อมที่จะช่วยเหลือบ่าวของพระองค์ ตราบที่บ่าวคนนั้นยังคงอยู่ในการช่วยเหลือพี่น้องของเขา”
(บันทึกโดยมุสลิม)
อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงสั่งใช้ให้บรรดาผู้ศรัทธานั้นช่วยเหลือกันและกัน สนับสนุนกันในเรื่องของคุณธรรมความดี และความยำเกรง และห้ามปรามในสิ่งที่เป็นความชั่ว ซึ่งสิ่งนั้นเป็นคุณธรรม
อัลลอฮฺ ตรัสไว้ว่า
(وَالْمُؤْمِنُونَ وَالْمُؤْمِنَاتُ بَعْضُهُمْ أَوْلِيَاءُ بَعْضٍ يَأْمُرُونَ بِالْمَعْرُوفِ وَيَنْهَوْنَ عَنِ الْمُنكَرِ وَيُقِيمُونَ الصَّلاَةَ وَيُؤْتُونَ الزَّكَاةَ وَيُطِيعُونَ اللَّهَ وَرَسُولَهُ أُوْلَئِكَ سَيَرْحَمُهُمُ اللَّهُ إِنَّ اللَّهَ عَزِيزٌ حَكِيمٌ)
“และบรรดาผู้ศรัทธาชาย และบรรดาผู้ศรัทธาหญิงนั้น บางส่วนของพวกเขาต่างเป็นผู้ช่วยเหลืออีกบางส่วน
ซึ่งพวกเขาจะใช้ให้ปฏิบัติในสิ่งที่ดีและห้ามปรามในสิ่งที่ชั่ว
และพวกเขาจะดำรงไว้ซึ่งการละหมาด และจ่ายซะกาต และภักดีต่ออัลลอฮฺ และรอซูลของพระองค์
ชนเหล่านี้แหละ อัลลอฮฺจะทรงเอ็นดูเมตตาแก่พวกเขาแท้จริงอัลลอฮฺนั้นเป็นผู้ทรงเดชานุภาพ ผู้ทรงปรีชาญาณ”
(ซูเราะห์อัตเตาบะฮฺ อายะห์ที่ 71)
ความประเสริฐของการช่วยเหลือผู้อื่น
♦· การช่วยเหลือผู้อื่น บ่งชี้ถึงความศรัทธา
รายงานจากท่าน นัวอฺมาน อิบนิบะชีร ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุมา กล่าวว่า ท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า
مَثَلُ الْمُؤْمِنِينَ فِي تَوَادِّهِمْ وَتَرَاحُمِهِمْ وَتَعَاطُفِهِمْ مَثَلُ الْجَسَدِ؛ إِذَا اشْتَكَى مِنْهُ عُضْوٌ تَدَاعَى لَهُ سَائِرُ الْجَسَدِ بِالسَّهَرِ وَالْحُمَّى
“เปรียบเทียบบรรดาผู้ศรัทธาในด้านความรัก ความเอ็นดูเมตตา และการให้ความช่วยเหลือเกื้อกูลของพวกเขาที่มีต่อกันนั้น เหมือนกับร่างกายเดียวกัน
กล่าวคือ เมื่ออวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งเจ็บปวด อวัยวะส่วนอื่นๆของร่างกายก็จะเจ็บปวดไปด้วยทั่วร่างกายทำให้ให้นอนไม่หลับ เกิดอาการไข้”
(บันทึกโดยบุคอรีย์และมุสลิม)
♦· การช่วยเหลือผู้อื่น บ่งชี้ถึงความรักที่มีต่อพี่น้อง
อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮู ตะอาลา ตรัสว่า
(إِنَّمَا الْمُؤْمِنُونَ إِخْوَةٌ فَأَصْلِحُوا بَيْنَ أَخَوَيْكُمْ وَاتَّقُوا اللَّهَ لَعَلَّكُمْ تُرْحَمُونَ)
“แท้จริงบรรดาผู้ศรัทธานั้นเป็นพี่น้องกัน ดังนั้นพวกเจ้าจงไกล่เกลี่ยประนีประนอมกันระหว่างพี่น้องทั้งสองฝ่ายของพวกเจ้า
และจงยำเกรงอัลลอฮฺเถิด หวังว่าพวกเจ้าจะได้รับความเมตตา”
(ซูเราะห์อัลหุญุรอต อายะห์ที่ 10)
รายงานจากท่านอบีมูซาอัลอัชอะรีย์ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ เล่าว่าท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า
(الْمُؤْمنُ لِلْمُؤْمِنِ كَالْبُنْيَانِ يَشُدُّ بَعْضُهُ بَعْضًا وَشَبَّكَ بَيْنَ أَصَابِعِه)
“ผู้ศรัทธากับผู้ศรัทธานั้น เปรียบดังเช่น อาคารที่บางส่วนของมันยึดติดกับอีกบางส่วนและท่านได้ประสานนิ้วมือของท่านเข้าหากัน”
(บันทึกโดยบุคอรีย์)
♦· อัลลอฮฺจะทรงช่วยเหลือกับคนที่ช่วยเหลือพี่น้อง
มีรายงานจากท่านอบีฮุร็อยเราะห์ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ จากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
(مَنْ نَفَّسَ عَنْ مُؤْمِنٍ كُرْبَةً مِنْ كُرَبِ الدُّنْيَا نَفَّسَ اللهُ عَنْهُ كُرْبَةً مِنْ كُرَبِ يَوْمِ الْقِيَامَةِ، وَمَنْ يَسَّرَ عَلَى مُعْسِرٍ يَسَّرَ اللهُ
الدُّنْيَا وَالْآخِرَةِ، وَمَنْ سَتَرَ مُسْلِمًا سَتَرَهُ اللهُ فِي الدُّنْيَا وَالآخِرَةِ، وَاللهُ فِي عَوْنِ الْعَبْدِ مَا كَانَ الْعَبْدُ فِي عَوْنِ أَخِيهِ)
“ผู้ใดก็ตามที่ช่วยให้มุสลิม(ผู้ศรัทธา)หลุดพ้นจากความทุกข์อย่างหนึ่งจากบรรดาความทุกข์แห่งดุนยา อัลลอฮฺจะทรงปลดปล่อยเขา(จาก)ความทุกข์หนึ่งของบรรดาความทุกข์ในวันกิยามะฮฺ
และผู้ใดให้ความสะดวกแก่ผู้ที่กำลังยากลำบาก อัลลอฮฺจะทรงให้ความสะดวกแก่เขาทั้งในโลกนี้และอาคิเราะฮฺ
และผู้ใดปกปิดความอับอายของมุสลิม อัลลอฮฺจะทรงปิดความอับอายของเขาทั้งในโลกนี้และอาคิเราะฮฺ
อัลลอฮฺพร้อมที่จะช่วยเหลือบ่าวของพระองค์ ตราบที่บ่าวคนนั้นชอบที่จะช่วยเหลือพี่น้องของเขา”
(บันทึกโดยมุสลิม)
♦· คนที่ช่วยเหลือผู้อื่นจะได้รับความดีมากมาย
อัลลอฮฺ ตรัสว่า
(وَمَن يَشْفَعْ شَفَاعَةً سَيِّئَةً يَكُن لَّهُ كِفْلٌ مِّنْهَا ۗ وَكَانَ اللَّهُ عَلَىٰ كُلِّ شَيْءٍ مُّقِيتًا)
“ และผู้ใดให้ความช่วยเหลืออย่างชั่ว ก็จะเป็นของเขา ซึ่งส่วนหนึ่งจากความชั่วนั้น
และปรากฏว่าอัลลอฮฺนั้นทรงเดชานุภาพเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง”
(ซูเราะห์อันนิซาอฺ อายะห์ที่ 85)
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม รายงานจากท่านอบูมูซา อัลอัชอะรีย์ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้เล่าว่า
(كَانَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ إِذَا جَاءَهُ السَّائِلُ، أَوْ طلِبَتْ إِلَيْهِ حَاجَةٌ، قَالَ: اشْفَعُوا تُؤْجَرُوا، وَيَقْضِي اللَّهُ عَلَى لِسَانِ نَبِيِّهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ مَا شَاءَ)
“ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เมื่อมีผู้ร้องขอความช่วยเหลือหรือต้องการความช่วยเหลือมาหาท่าน
ท่านร่อซูลได้กล่าว(แก่บรรดาศอฮาบะห์)ว่า : พวกท่านจงให้ความช่วยเหลือ พวกท่านจะได้รับผลตอบแทน และอัลลอฮฺจะจัดการให้ลุล่วงตามคำพูดของนบีของพระองค์ ตามที่พระองค์ทรงประสงค์”
(บันทึกโดยบุคอรีย์ และมุสลิม)
♦· คนที่ช่วยเหลือผู้อื่นอย่างลับๆอัลลอฮฺจะช่วยเหลือเขาในโลกนี้และโลกหน้า
ท่านรอซูลุลลอฮฺﷺกล่าวว่า :
من نصر أخاه بظهرِ الغَيبِ ، نصره اللهُ في الدنيا و الآخرةِ.
“ผู้ใดที่ช่วยเหลือพี่น้องของเขาอย่างลับ ๆ อัลลอฮฺก็จะทรงช่วยเหลือเขาทั้งในดุนยาเเละอาคิเราะฮฺ”
( เชคอัลบานียฺให้สถานะหะซัน «ศ่อฮีหฺ อัลญามิอฺ»)
♦· คนที่ช่วยเหลือผู้อื่นอัลลอฮฺจะปกป้องเขารอดพ้นจากไฟนรก
รายงานจากท่าน อบีดัรดาฮ์ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้เล่าว่าท่านรอซูลุลลอฮฺﷺกล่าวว่า :
مَنْ رَدَّ عَنْ عِرْضِ أَخِيهِ رَدَّ اللهُ عَنْ وَجْهِهِ النَّارَ يَوْمَ الْقِيَامَةِ
“ใครก็ตามที่ปกป้องความบริสุทธิ์ของพี่น้องของเขา อัลลอฮ์ก็จะปกป้องใบหน้าของเขาจากนรกในวันกิยามะฮ์”
(บันทึกโดย อิม่าม ติรมีซีย์ ศ่อฮีหฺ)
♦· คนที่อัลลอฮฺทรงรักคือคนที่ช่วยเหลือผู้อื่น
รายงานจากอัมรฺ บิน ดีนารฺ จากอิบนุอุมัร: ร่อดิยัลลออันฮูมา ว่า
أَنَّ رَجُلًا جَاءَ إِلَى رَسُولِ اللَّهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ، فَقَالَ: يَا رَسُولَ اللَّهِ أَيُّ النَّاسِ أَحَبُّ إِلَى اللَّهِ؟ وَأَيُّ الْأَعْمَالِ أَحَبُّ إِلَى اللَّهِ؟ فَقَالَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ: أَحَبُّ النَّاسِ إِلَى اللَّهِ أَنْفَعَهُمْ لِلنَّاسِ، وَأَحَبُّ الْأَعْمَالِ إِلَى اللَّهِ سُرُورٍ تُدْخِلُهُ عَلَى مُسْلِمٍ، أَوْ تَكْشِفُ عَنْهُ كُرْبَةً، أَوْ تَقْضِي عَنْهُ دِينًا، أَوْ تَطْرَدُ عَنْهُ جُوعًا، وَلِأَنْ أَمْشِيَ مَعَ أَخٍ لِي فِي حَاجَةٍ أَحَبُّ
أَثْبَتَ اللَّهُ عَزَّ وَجَلَّ قَدَمَهُ عَلَى الصِّرَاطِ يَوْمَ تَزِلُّ فِيهِ الْأَقْدَامُ ،
แท้จริงมีชายคนหนึ่งมายังท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ถาม ท่านร่อซูลว่า โอ้ร่อซูลลอฮฺ มนุษย์ประเภทใหน และการงานชนิดใด เป็นที่รักยิ่ง ณ ที่อัลลอฮฺ
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ตอบว่า
“ผู้คนที่อัลลอฮ์ทรงรักมากที่สุด คือผู้ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นมากที่สุด
และการงานที่อัลลอฮ์ทรงรักมากที่สุด คือการสร้างความสุขแก่พี่น้องมุสลิม การช่วยขจัดความทุกข์ให้เขา การชำระหนี้แทนเขา หรือการช่วยเหลือให้พ้นจากความหิวโหย
และสำหรับฉัน การเดินไปช่วยเหลือพี่น้องของฉันในความจำเป็นของเขา เป็นสิ่งที่ฉันรักมากกว่าการทำ อิอ์ติกาฟ (การปลีกตัวเพื่ออิบาดะฮ์) ในมัสยิดแห่งนี้ (หมายถึงมัสยิดในเมืองมาดีนะฮ์) เป็นเวลาหนึ่งเดือน
ผู้ใดที่ระงับความโกรธของตน อัลลอฮ์จะทรงปกปิดข้อบกพร่องของเขา
และผู้ใดที่อดกลั้นความไม่พอใจ แม้ว่าเขาจะสามารถแสดงออกมาได้ อัลลอฮ์ผู้ทรงอำนาจและเกียรติยศจะทรงเติมเต็มหัวใจของเขาด้วยความสงบในวันกิยามะฮ์
และผู้ใดที่เดินไปช่วยเหลือพี่น้องของเขาในความต้องการ จนกระทั่งช่วยให้ความต้องการนั้นสำเร็จ อัลลอฮ์จะทรงทำให้เท้าของเขามั่นคงบนสะพาน ซิรอต ในวันที่เท้าของผู้คนจะลื่นไถล”
(เชคอัลบานียฺให้สถานะ «ศ่อฮีหฺ อัลญามิอฺ»)