“มุจญฺริม” ผู้ที่หัวเราะเยาะเย้ยผู้ศรัทธา
  จำนวนคนเข้าชม  98

เรื่องราวของซูเราะฮฺอัลมุฏ็อฟฟิฟีน 4

“มุจญฺริม” ผู้ที่หัวเราะเยาะเย้ยผู้ศรัทธา

 

 

อับดุลสลาม เพชรทองคำ

 

          อายะฮฺที่ 29 ไปจนกระทั่งจบซูเราะฮฺที่อายะฮฺ 36 อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาตรัสถึงพฤติกรรมของผู้ปฏิเสธศรัทธาที่มีต่อบรรดาผู้ศรัทธา แต่ในท้ายที่สุดบรรดาผู้ศรัทธากลับเป็นผู้ได้รับชัยชนะ

 

     อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาตรัสว่า

 

إِنَّ ٱلَّذِينَ أَجۡرَمُواْ كَانُواْ مِنَ ٱلَّذِينَ ءَامَنُواْ يَضۡحَكُونَ 29

 

“แท้จริงบรรดาผู้กระทำผิดนั้น เคยหัวเราะเยาะบรรดาผู้ศรัทธา”

 

     คำว่า أَجۡرَمُواْ บรรดาผู้กระทำความผิดนั้น ก็คือ คำเดียวกับคำว่า มุจญฺริม مجرم ผู้กระทำความผิด ซึ่งหมายรวมหมดถึงบรรดากาฟิรหรือผู้ปฏิเสธศรัทธา ..บรรดามุชริกีนหรือผู้ที่ตั้งภาคีต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา รวมไปจนถึงผู้ที่ฝ่าฝืนต่อคำสั่งของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา

 

          ซึ่งในอายะฮฺนี้ อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงเล่าให้เราฟังว่า ในโลกดุนยานี้ บรรดาคนที่เขาเป็นมุจญฺริม คนที่เขากระทำความผิด เขามักจะชอบหัวเราะเยาะ يَضۡحَكُونَ ก็คือหัวเราะเยาะ เยาะเย้ยถากถาง ดูถูกบรรดาผู้ศรัทธา ..ในสมัยท่านนบีมีมาแล้ว จวบจนมาถึงในยุคของเราก็ยังปรากฏให้เราเห็น ยังมีคนที่เยาะเย้ย ดูหมิ่นดูแคลนมุสลิม กล่าวร้ายต่าง ๆ นานา เป็นไปตามที่อัลลอฮฺ.ซุบฮานะฮูวะตะอาลาได้ตรัสเอาไว้ทุกประการ

 

          ในเรื่องนี้ นักตัฟซีร หรือนักอรรถาธิบายอัลกุรอาน ได้อธิบายว่า ในสมัยที่ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมทำการเผยแผ่อัลอิสลามนั้น ผู้คนส่วนใหญ่ที่เข้ารับนับถืออัลอิสลาม มักจะเป็นคนยากจน คนที่ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไร คนที่ไม่ได้มีตำแหน่งใหญ่โต ..

 

          ในขณะที่คนที่เป็นหัวโจกที่ต่อต้านท่านนบี มักจะเป็นคนร่ำรวยมั่งคั่ง เป็นผู้ที่คนอื่นให้เกียรติ เป็นระดับบิ๊ก ๆ เช่น อะบูญะฮัล อะบูละฮับ อะบูซุฟยาน เป็นคนใหญ่คนโต มีลูกสมุน ...พวกนี้ เวลาที่เขาเห็นมุสลิม เห็นบรรดาผู้ศรัทธา พวกเขาก็จะหัวเราะเยาะเย้ย พูดดูถูกดูแคลนต่าง ๆ นานา 

 

         เช่น เวลาเห็นท่านบิลาล ก็จะหัวเราะเยาะกลั่นแกล้ง ..พวกมุจญริมพวกนี้เขาไม่ได้รู้สึกเลยว่าสิ่งที่พวกเขาทำนี้ มันเป็นความผิด หรือมันเป็นสิ่งที่ไม่ดี แต่ที่พวกเขาทำได้ ก็เพราะในจิตใจของพวกเขามันแอบแฝงการดูถูกดูแคลนบรรดาผู้ศรัทธา.. ซึ่งนี่ก็คือลักษณะอีกอย่างหนึ่งของพวกอัลมุฏ็อฟฟิฟีน .. 

 

          หัวโจกพวกนี้เป็นที่มาของซูเราะฮฺอัลมุฏ็อฟฟิฟีน พวกเขาเป็นพวกกุเรชมักกะฮฺ เป็นมุชริกีนมักกะฮฺ มีอาชีพค้าขาย ..การค้าขายในสมัยนั้นก็มักจะใช้การชั่งและการตวงเป็นหลัก (ตามที่เราเคยกล่าวถึงไปแล้วในตอนต้นซูเราะฮฺ) แล้วพวกเขาก็โกง..โกงเล็กโกงน้อย ร่ำรวยมาจากการโกง เอารัดเอาเปรียบผู้อื่น แล้วก็ยังจะมาดูถูกดูแคลน หัวเราะเยาะเย้ยถากถางคนอื่น ซึ่งทั้งสองลักษณะนี้จึงเป็นเรื่องที่มุสลิมเราต้องพึงระมัดระวัง ต้องพยายามอย่าให้มันมีอยู่ในตัวเรา...นะอูซุบิลลาฮฺ มินซาลิก

 

         อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงบอกให้เราทราบว่า บรรดามุจญฺริม คนที่เขากระทำความผิดนั้น เขามักจะชอบหัวเราะเยาะบรรดาผู้ศรัทธา ชอบดูถูกดูแคลนมุสลิม พวกเขามีพฤติกรรมอย่างไร ?

 

وَإِذَا مَرُّواْ بِهِمۡ يَتَغَامَزُونَ 30

“และเมื่อบรรดาผู้ศรัทธาเดินผ่านพวกเขาไป พวกเขาจะหลิ่วตาให้กัน”

 

     คำว่า  مَرُّواْ ก็คือเดินผ่าน ..ซึ่งมีคำอธิบายของอุละมาอ์ว่า مَرُّواْ หมายถึง ผู้ศรัทธาเดินผ่านพวกมุจญฺริมก็ได้ หรือจะหมายถึงเมื่อเวลาที่พวกมุจญฺริมเดินผ่านผู้ศรัทธาก็ได้ ..

 

     ประเด็นหลักก็คือ เมื่อเวลาที่พวกเขาเห็นผู้ศรัทธา พวกเขาจะ يَتَغَامَزُونَ ก็คือหยักคิ้วหลิ่วตาให้กันและกัน ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่แสดงออกถึงการเย้ยหยัน เยาะเย้ย ดูถูกดูแคลนผู้ศรัทธา 

 

     เท่านี้ยังไม่พอ..อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงเล่าถึงพฤติกรรมของพวกนี้ต่ออีกว่า

 

وَإِذَا ٱنقَلَبُوٓاْ إِلَىٰٓ أَهۡلِهِمُ ٱنقَلَبُواْ فَكِهِينَ 31

 

     “และเมื่อพวกเขา ٱنقَلَبُوٓاْ กลับไปยังครอบครัวของพวกเขา พวกเขาก็กลับไปอย่าง فَكِهِينَ คึกคะนอง(กลับไปอย่างผู้ที่พึงพอใจที่ได้เย้ยหยันผู้ศรัทธา) ”

 

          พวกมุจญฺริม หรือพวกที่กระทำความผิดนั้น เมื่อพวกเขาเห็นบรรดาผู้ศรัทธาต่อหน้าต่อตา พวกเขาก็แสดงการเยาะเย้ย เท่านี้ยังไม่พอ เมื่อเวลาที่พวกเขากลับไปที่บ้านของพวกเขา ไปเจอครอบครัว เจอพี่น้องของพวกเขา พวกเขาก็เอาไปเล่า เอาไปบอกอย่างสนุกปากว่า ได้ทำอย่างนั้นอย่างนี้กับบรรดาผู้ศรัทธา พวกเขามีความพึงพอใจ มีความสุขที่ได้เยาะเย้ย ดูถูกบรรดาผู้ศรัทธาทั้งต่อหน้าและลับหลัง

 

     อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงเล่าถึงพฤติกรรมอีกอย่างของบรรดามุจญฺริม ผู้กระทำความผิดว่า

 

وَإِذَا رَأَوۡهُمۡ قَالُوٓاْ إِنَّ هَٰٓؤُلَآءِ لَضَآلُّونَ 32

 

     “และเมื่อพวกเขา(บรรดาผู้กระทำความผิด)เห็นบรรดาผู้ศรัทธา...

     พวกเขาก็กล่าวว่า แท้จริง..พวกเขา(บรรดาผู้ศรัทธา)เหล่านี้ لَضَآلُّونَ เป็นผู้หลงทางอย่างแน่นอน”

 

          พวกเขาคิดเอาเองว่า บรรดาผู้ศรัทธาเป็นผู้ที่หลงทาง เป็นผู้ที่หลงผิด เพราะไม่ปฏิบัติตามศาสนาของปู่ย่าตายาย พวกเขาเชื่อสิ่งที่พวกเขาเห็นเท่านั้น ไม่เชื่อวันแห่งการตอบแทน ไม่เชื่อว่าวันกิยามะฮฺจะมีจริง 

 

          เพราะว่าพอไปเชื่อว่าวันกิยามะฮฺมีจริง ก็โกงไม่ได้ ทำโน้นก็ไม่ได้ ทำนี่ก็ไม่ได้ ทำให้สูญเสียผลประโยชน์มากมายที่จะได้รับในโลกดุนยา พวกเขาคิดเอาเองว่าบรรดาผู้ศรัทธาหลงผิดที่ไปเชื่อท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ไปมีความหวังลม ๆแล้ง ๆเกี่ยวกับชีวิตหลังความตาย เกี่ยวกับผลตอบแทนที่จะได้รับในโลกอาคิเราะฮฺ ไปเชื่อเรื่องของสวรรค์ นรกว่ามีจริง ทำให้ต้องละทิ้งผลประโยชน์ต่าง ๆนานาที่จะได้รับตรงหน้า ได้รับทันทีในโลกดุนยานี้ ..นี่คือสิ่งที่บรรดามุจญฺริม ผู้กระทำความผิดคิด เป็นการคิดเอาเอง ...

 

     แต่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงตอบโต้พวกเขาว่า

 

 

وَمَآ أُرۡسِلُواْ عَلَيۡهِمۡ حَٰفِظِينَ 33

“และพวกเขา(บรรดามุจญฺริม ผู้กระทำความผิด)ไม่ได้ถูกส่งมาเพื่อ حَٰفِظِينَ เป็นผู้ปกปักรักษาบรรดาผู้ศรัทธาแต่อย่างใด”

 

          นั่นก็หมายความว่า ..อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงบอกบรรดามุจญฺริมผู้กระทำความผิดว่า พวกเขาไม่ได้ถูกส่งมาเพื่อมาดูแลการกระทำของบรรดาผู้ศรัทธา ไม่ได้มีหน้าที่มาคอยสอดส่องว่า บรรดาผู้ศรัทธาทำไม่ถูก คิดไม่ถูกอย่างนั้นอย่างนี้ ไม่ได้มีหน้าที่มาดูแลรักษาบรรดาผู้ศรัทธาแต่อย่างใด ...ดังนั้น ไม่ต้องมาเดือดร้อน ในสิ่งที่บรรดาผู้ศรัทธาคิดหรือทำ ไม่ต้องมาตัดสินว่าบรรดาผู้ศรัทธาเป็นผู้ที่หลงผิด มันไม่ใช่หน้าที่ของพวกเขา ...แต่พระองค์ต่างหากเป็นผู้ที่ดูแลปกปักรักษาบรรดาผู้ศรัทธา

 

          อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงบอกว่า โลกดุนยานี้ บรรดามุจญฺริมผู้กระทำความผิดชอบที่จะหัวเราะเยาะเย้ยบรรดาผู้ศรัทธา แต่ความจริงแล้ว พอไปถึงโลกอาคิเราะฮฺ ..เหตุการณ์มันจะตรงข้ามกัน พระองค์ตรัสว่า

 

فَٱلۡيَوۡمَ ٱلَّذِينَ ءَامَنُواْ مِنَ ٱلۡكُفَّارِ يَضۡحَكُونَ 34

“ดังนั้น วันนี้ فَٱلۡيَوۡمَ (ก็หมายถึงวันกิยามะฮฺ) บรรดาผู้ศรัทธาก็จะ يَضۡحَكُونَ หัวเราะเยาะบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาบ้าง”

 

     เข้าทำนอง หัวเราะทีหลังดังกว่า

 

عَلَى ٱلۡأَرَآئِكِ يَنظُرُونَ 35

“พวกเขา(บรรดาผู้ศรัทธา)จะมองดูอยู่บนเตียง”

 

          ในวันกิยามะฮฺ บรรดาผู้ศรัทธาจะได้รับความสุข ได้รับรางวัล ได้พำนักในสวนสวรรค์ของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตาอะลา ได้เอนกายอยู่บน عَلَى ٱلۡأَرَآئِكِ นั่ง ๆนอนๆ อยู่บนเตียงถัก แล้วก็มองไปยังสิ่งสวยงามต่าง ๆในสวนสวรรค์อย่างมีความสุข ...

          ในขณะที่บรรดามุจญฺริมผู้กระทำความผิด ต่างทุกข์ทรมานจากการถูกลงโทษสำหรับสิ่งที่พวกเขาไม่เชื่อ ไม่ศรัทธา

 

هَلۡ ثُوِّبَ ٱلۡكُفَّارُ مَا كَانُواْ يَفۡعَلُونَ 36

“ดูซิว่า..บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาจะได้รับผลตอบแทนตามที่เขาได้ปฏิบัติมา(ในโลกดุนยา)หรือไม่”

 

          อายะฮฺนี้เป็นประโยคคำถาม ถามเรา แต่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาไม่ได้ทรงต้องการคำตอบ แต่เป็นคำถามเพื่อเน้นย้ำให้แก่เราว่า บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธานั้น จะไม่ได้รับรางวัลอะไรในสิ่งพวกเขาทำบนโลกดุนยานี้แต่อย่างใด ตรงกันข้าม พวกเขากลับได้รับการลงโทษอย่างแสนสาหัส ในฐานะของมุจญฺริม ผู้กระทำความผิด ซึ่งรวมไปทั้งหมด ตั้งแต่บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา บรรดามุชริกีน บรรดามุนาฟิก เป็นการลงโทษอย่างตลอดกาล ...

 

          ในขณะที่บรรดาผู้ศรัทธาจะได้รับรางวัล เป็นรางวัลตอบแทนที่ยิ่งใหญ่ดีงาม ไม่มีอะไรในโลกดุนยานี้ที่จะมาเทียบได้ และเป็นรางวัลตอบแทนที่สุขยิ่งอย่างตลอดกาล

 

          ทั้งหมดดังกล่าวข้างต้นนั่นก็คือ เรื่องราวของซูเราะฮฺอัลมุฏ็อฟฟิฟีน ..เก็บเรื่องราวมาจากการอธิบายของบรรดาอุละมาอ์อะฮฺลุซซุนนะฮฺ วัลญะมาอะฮฺ ตามความเข้าใจของบรรดาสะละฟุศศ่อลิหฺ บรรดาคนดี ๆมีคุณธรรมในยุคสามร้อยปีแรกของอัลอิสลาม ...

 

          เมื่อเราได้รับทราบแล้ว ก็ขอให้เราพึงระวัง และออกห่างจากการเป็นผู้ทำให้พร่องในทุก ๆกรณี และให้เราได้เร่งขวนขวายในการทำตัวให้ใกล้ชิดอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาด้วยการศึกษาเรียนรู้ในเรื่องราวของบทบัญญัติศาสนา พยายามทำความเข้าใจ แล้วนำมาสู่การปฏิบัติตามคำสั่งใช้ของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา โดยพยายามทำให้สุดความสามารถของเรา ในขณะเดียวกันก็ต้องออกห่างจากคำสั่งห้ามของพระองค์โดยสิ้นเชิง พร้อมกันนั้นก็ต้องปฏิบัติอิบาดะฮฺทุกอย่างให้ตรงตามแบบฉบับของท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม นั่นก็คือต้องไม่ทำบิดอะฮฺด้วย เพื่อที่ในวันกิยามะฮฺ เราจะได้รอดพ้นจากการถูกลงโทษในไฟนรก และได้รับรางวัลตอบแทนด้วยสวนสวรรค์อันบรมสุขของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาอย่างตลอดกาล

 

 

          สุดท้ายนี้ ขออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาโปรดคุ้มครองเราทุกคนให้เป็นผู้ที่ยืนหยัดต่อบทบัญญัติศาสนาของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ขอพระองค์โปรดคุ้มครองเราให้ห่างไกลจากการเป็นอัลมุฏ็อฟฟิฟีน ผู้ที่ทำให้พร่อง ..

          ขออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาโปรดให้เราเห็นความจริงเป็นความจริง และประทานให้เราได้ยึดมั่นปฏิบัติตามความจริงนั้นตลอดไป..

          และโปรดให้เราเห็นความเท็จเป็นความเท็จ และประทานให้เราออกห่างจากความเท็จนั้นอย่างไกลๆ..

          และโปรดอย่าให้ความเท็จนั้น สร้างความสับสนแก่เรา จนทำให้เราหลงออกจากทางอันถูกต้อง..และโปรดทำให้เราเป็นผู้นำแก่บรรดาผู้ยำเกรง

 

«اللَّهُمَّ أَرِنَا الْحَقَّ حَقًّا، وَارْزُقْنَا اتِّبَاعَهُ، وَأَرِنَا الْبَاطِلَ بَاطِلًا، وَارْزُقْنَا اجْتنِاَبَهُ، وَلَا تَجْعَلْهُ مُلْتَبِسًا عَلَيْنَا فَنَضِلَّ، وَاجْعَلْنَا لِلْمُتَّقِينَ إِمَامًا»

อามีน

 

(นะศีหะหฺ มัสญิดดารุลอิหฺซาน บางอ้อ )

  Click.... อรรถาธิบาย เรื่องราวของซูเราะฮฺอัลมุฏ็อฟฟิฟีน 1