อธิบายซูเราะฮ์อัลอาดิยาต
สรุปโดย... อ.ยะห์ยา หัสการบัญชา
อัลอาดิยาต ความหมายในทางภาษา แปลว่า ผู้หรือสิ่งที่วิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
ซูเราะฮ์อัลอาดิยาต เป็นหนึ่งในซูเราะฮ์ประเภท มักกียะฮ์
ซูเราะฮ์อัลอาดิยาต เป็นซูเราะฮ์ลำดับที่ 100 ในอัลกุรอาน
ซูเราะฮ์อัลอาดิยาต มีทั้งหมด 11
สรุปคำอธิบายอายะฮ์ที่ 1
"สาบานด้วยม้าที่ส่งเสียงหอบขณะวิ่ง"
♥ อัลอาดิยาต เป็นคำพหูพจน์ของคำว่า อัลอาดีย์ แปลว่า ผู้ที่วิ่ง หรือ เดิน ออกไปอย่างรวดเร็ว หรือสิ่งที่พุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
ส่วนในที่นี้ นักอธิบายความหมายของอัลกุรอานได้เห็นต่างเป็น 2 ทัศนะดังนี้..
ทัศนะที่หนึ่ง หมายถึง ฝูงอูฐที่เดินอย่างรวดเร็วในช่วงประกอบพิธีฮัจญ์
ทัศนะที่สอง หมายถึง ฝูงม้าที่วิ่งอย่างรวดเร็วเพื่อเข้าห้ำหั่นกับศัตรูในสงคราม
โดยทัศนะที่สองนี้มีน้ำหนักและถูกต้องมากที่สุด และการที่อัลลอฮ์ทรงสาบานกับฝูงม้าศึกนั้นบ่งบอกถึงเกียรติและคุณค่าความสำคัญของม้า
สรุปคำอธิบายอายะฮ์ที่ 2
"แล้วสาบานด้วยม้าที่กีบเท้าของมันตีกับหินจนเกิดประกายไฟ"
♥ อัลมูริยาต ในที่นี้คือ ฝูงม้าที่วิ่งด้วยความเร็วสูงจนกระทั่งเกือกของพวกมันที่กระทบกับพื้นหินเกิดประกายไฟขึ้นมา
สรุปคำอธิบายอายะฮ์ที่ 3
"แล้วสาบานด้วยม้าที่จู่โจมศัตรูในยามเช้า"
♥ สาเหตุที่เคลื่อนทัพจู่โจมศัตรูในยามรุ่งอรุณนั้นก็เพราะ ในช่วงเลาดังกล่าวศัตรูจะไม่มีความพร้อมในการรบ และบกพร่องในการเตรียมทัพ
สรุปคำอธิบายอายะฮ์ที่ 4
"แล้วมันได้ทำให้ฝุ่นตลบฟุ้งในยามนั้น"
♥ ฝูงม้าเหล่านี้วิ่งไวมากจนกระทั่งฝุ่นตลบไปทั่ว
สรุปคำอธิบายอายะฮ์ที่ 5
"แล้วมันได้บุกเข้าไปท่ามกลางหมู่ศัตรูในยามนั้น"
♥ คำว่า جمعا (ญัมอา) ในอายะฮ์นี้หมายถึงข้าศึกศัตรู หมายความว่า ฝูงม้าเหล่านี้ได้วิ่งเข้าไปท่ามกลางข้าศึกศัตรู
สรุปคำอธิบายอายะฮ์ที่ 6
"แท้จริงมนุษย์เป็นผู้เนรคุณต่อพระเจ้าของเขา"
♥ เป็นคำตอบและคำอธิบายสำหรับอายะฮ์ที่ 1-5 ในซูเราะฮ์นี้ ที่อัลลอฮ์ทรงสาบานกับฝูงม้าศึกพร้อมบอกคุณลักษณะต่างๆในการออกรบของมัน เพื่อยืนยันให้รู้ว่ามนุษย์โดยพื้นฐานนั้นเป็นผู้ที่เนรคุณอย่างมากต่ออัลลอฮ์
คือเมื่อได้รับสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิตอย่างมากมาย พวกเขาก็จะหลงระเริงคิดไปว่าทุกสิ่งอย่างนั้นได้มาด้วยตนเองไม่ใช่ความเมตตาที่ได้รับมาจากพระเจ้า หรือหลงตัวเอง ลำพองตนเวลาที่ประสบความสำเร็จได้ดีในชีวิต จนลืมไปว่าตัวเขาต้องพึ่งพาอัลลอฮ์ในการดำเนินชีวิต แต่พอประสบกับความทุกข์ยากลำบาก เขาจะตัดพ้อต่อว่าอัลลอฮ์หรือท้อแท้สิ้นหวัง
จุดนี้ชี้ให้เห็นถึงคุณค่าและความสำคัญของศาสนาอิสลามที่มีต่อชีวิตของมนุษย์ เพราะหากพวกเขาไม่มีอิสลามเป็นทางนำชีวิต พวกเขากจะตกอยู่ในความพินาศและคุณลักษณะต่างๆที่เสื่อมเสียอย่างแน่นอน
สรุปคำอธิบายอายะฮ์ที่ 7
"และแท้จริงเขาได้เป็นพยานยืนยันต่อการ(เนรคุณ)นั้นอย่างแน่นอน"
♥ ใครคือผู้ที่เป็นพยานยืนยันในอายะฮ์นี้ นักอธิบายอัลกุรอานมีความเห็นสองทัศนะ คือ
ทัศนะที่หนึ่ง อัลลอฮ์ คือผู้ที่ยืนยัน ว่ามนุษย์โดยพื้นฐานนั้นเป็นผู้ทำเนรคุณต่ออัลลอฮ์
ทัศนะที่สอง มนุษย์คือผู้ที่ยืนยันตัวของเขาเองว่าเป็นผู้เนรคุณต่ออัลลอฮ์ ทั้งในโลกนี้และโลกหน้า โดยในโลกนี้เขาได้ยืนยันด้วยพฤติกรรมที่แสดงออกมา และในโลกหน้าเขาได้ยืนยันด้วยคำพูดต่อหน้าอัลลอฮ์ในวันกิยามะฮ์
ซึ่งทัศนะที่มีน้ำหนักมากที่สุดก็คือการรวมทั้งสองทัศนะเข้าด้วยกัน
สรุปคำอธิบายอายะฮ์ที่ 8
"และแท้จริงเขามีความหวงแหน เพราะรักในสิ่งที่ดี(ทรัพย์สมบัติ)"
♥ สิ่งที่ดีในอายะฮ์นี้ หมายถึง ทรัพย์สินเงินทอง
มนุษย์ทั่วไปโดยพื้นฐานล้วนแต่ชอบทรัพย์สิน แต่ต่างกันที่ระดับความชอบ บางคนชอบทรัพย์สินเพียงแค่มีไว้ใช้จ่ายขั้นพื้นฐานอย่างพอเพียงในการดำรงชีวิตและทำความเคารพบูชาอัลลอฮ์ ส่วนบางคนก็ชอบมีไว้สะสมครอบครองอย่างมากมาย บางคนมีมากเท่าไหร่ก็ไม่พอ
สรุปคำอธิบายอายะฮ์ที่ 9
"เขาไม่รู้หรอกหรือว่า เมื่อสิ่ง(คนตาย)ที่อยู่ในหลุมฝังศพถูกให้ฟื้นขึ้นมา"
♥ อัลลอฮฺทรงตั้งคำถามเพื่อเตือนสติมนุษย์ที่ดีว่าการที่เขาเนรคุณและหลงระเริงกับการแสวงหาทรัพย์สินนั้น สุดท้าย ทุกสิ่งในโลกนี้ ทั้งทรัพย์สิน บ้านเรือน เครื่องประดับ ที่ดินไร่นา และผลประโยชน์อื่นๆทางโลก ล้วนแต่จต้องสูญสลายหายไปทั้งสิ้น และพวกเขาจะต้องฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้งเพื่อรับการสอบสวนพิพากษาจากอัลลอฮ์ในวันกิยามะฮ์
โดยที่ทรัพย์สินและผลประโยชน์เหล่านั้นที่เขาเก็บไว้โดยไม่ใช้ในทางที่ดี หรือนำไปใช้ในทางที่ไม่ดี สิ่งเหล่านั้นมันไม่ได้ให้ประโยชน์อะไรแก่เขาเลย ฉะนั้นจะมัวแต่หมกมุ่นกับพวกมันไปเพื่ออะไร ทำไมไม่ใช้ชีวิตในทางที่ดี? ทำไมไม่ฉวยโอกาสใการทำความดีสะสมที่จะให้ประโยชน์แก่ตัวเขาในโลกหน้า?
และเป็นการตั้งคำถามเพื่อขู่เตือนมนุษย์ที่ไม่ดีว่า การที่พวเขามัวแต่หมกมุ่นอยู่กับการแสวงหาทรัพย์สินและเนรคุณต่ออัลลอฮ์นั้น อีกไม่นานเมื่อพวกเขาตายจากไป และฟื้นคืชีพในวันกิยามะฮ์พวกเขาจะได้รู้ว่าสิ่งที่ทำไปนั้นมันไม่ให้ประโยชน์อะไรแก่ตัวเขา และสิ่งที่เขาจะต้องได้รับก็คือการลงโทษอันเจ็บแสบจากอัลลอฮ์
สรุปคำอธิบายอายะฮ์ที่ 10
"และสิ่งที่อยู่ในหัวอกถูกเผยออก"
♥ ยืนยันให้รู้ว่าสิ่งที่ถูกปกปิดอยู่ภายในใจของมนุษย์นั้นจะถูกเปิดเผยออกมาทั้งความดีความชั่ว ความศรัทธาและการปฏิเสธ ความสัจจริงและความกลับกลอก
สรุปคำอธิบายอายะฮ์ที่ 11
"แท้จริงพระเจ้าของพวกเขาในวัน(กิยามะฮ์)นั้น ทรงรอบรู้หยั่งถึงพวกเขาอย่างแน่นอน"
♥ แจ้งให้ทราบถึงหนึ่งในพระนามและคุณลักษณะของอัลลอฮ์ ก็คือ อัลค่อบีร หมายถึง พระผู้ทรงรอบรู้และหยั่งถึงทุกสิ่งในตัวตนของมนุษย์ทั้งหมด รวมถึงสิ่งถูกสร้างของพระองค์ทั้งหมด ทั้งที่เปิดเผยและปกปิดซ่อนเร้นในทุกช่วงเวลา โดยเฉพาะในวันกิยามะฮ์ วันแห่งการสอบสวนพิพากษา
อธิบายความหมายโดยรวมของซูเราะฮ์อัลอาดิยาต
ในตอนต้นของซูเราะฮ์นี้อัลลอฮ์ทรงสาบานกับบรรดาม้าที่ออกศึกให้ทราบว่ามนุษย์ทั้งหลายโดยพื้นฐานนั้นเป็นผู้ที่เนรคุณต่ออัลลอฮ์และเป็นผู้ที่ชอบและปรารถนาในทรัพย์สินอย่างมาก จนหลงระเริงและลืมไปว่าท้ายสุดพวกเขาจะต้องตายและจากนั้นก็จะถูกทำให้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาจากสุสานเพื่อไปรับการสอบสวนและพิพากษาในวันกิยามะฮ์อัลลอฮ์ พระเจ้าที่แท้จริงผู้ทรงรอบรู้และหยั่งถึงทุกสิ่งอย่างเกี่ยวกับพวกเขาทั้งที่เปิดเผยและปกปิดไว้ในใจ
ประโยชน์ที่ได้รับจากซูเราะฮ์อัลอาดิยาต
1. อัลลอฮ์ทรงสามารถสาบานกับสิ่งใดก็ได้ที่พระองค์ทรงประสงค์ ส่วนมนุษย์จำเป็นจะต้องสาบานกับอัลลอฮ์เพียงองค์เดียวเท่านั้น
2. มนุษย์จำเป็นจะต้องกตัญญูรู้คุณต่ออัลลอฮ์ในทุกช่องทาง ทั้งกาย วาจา และจิตใจ
3. มนุษย์โดยพื้นฐานเต็มไปด้วยคุณลักษณะที่ไม่ดีหลายอย่าง เช่น เนรคุณต่ออัลลอฮ์ ตีโพยตีพายเมื่อประสบความลำบาก หวงแหนทรัพย์สินและสิ่งดีๆ ที่ได้รับมา หลงระเริงและลืมตัว ซึ่งหนทางที่จะทำให้รอดพ้นจากคุณลักษณะไม่ดีเหล่านั้นคือ การยึดมั่นอยู่ในหลักคำสอนของอิสลาม
4. ยืนยันว่าการฟื้นคืนชีพเพื่อมารับการพิพากษาจากอัลลอฮ์ และรับผลตอบแทนจากพระองค์ในวันกิยามะฮ์นั้นมีจริง และต้องเชื่อมั่นศรัทธาในเรื่องนี้
5. ส่งเสริมให้ใช้ชีวิตในโลกนี้แบบพอเพียงและเรียบง่าย
6. ยืนยันให้รู้ว่าสิ่งที่ถูกปกปิดอยู่ภายในใจของมนุษย์นั้นจะถูกเปิดเผยออกมา ดังนั้นมุสลิมผู้ศรัทธาจะต้องให้ความสำคัญกับสิ่งที่อยู่ภายในจิตใจเพราะสิ่งที่อยู่ภายในใจจะถูกสอบสวน ทั้งเจตนาและความรู้สึกต่างๆที่เป็นอิบาดะฮ์ทางด้านจิตใจ เหมือนกับที่ให้ความสำคัญกับการกระทำ เพราะการงานทั้งหลายนั้นขึ้นอยู่กับการตั้งเจตนาที่อยู่ในจิตใจ เท่ากับว่าหัวใจคือตัวกำหนดทิศทางของการกระทำว่าจะเป็นเช่นไร
7. แจ้งให้ทราบถึงหนึ่งในพระนามและคุณลักษณะของอัลลอฮ์ ก็คือ อัลค่อบีร หมายถึง พระผู้ทรงรอบรู้และหยั่งถึงทุกสิ่งในตัวตนของมนุษย์ทั้งหมด รวมถึงสิ่งถูกสร้างของพระองค์ทั้งหมด ทั้งที่เปิดเผยและปกปิดซ่อนเร้น โดนมุสลิมทุกคนจะต้องศรัทธาและยึดมั่นในเรื่องนี้
ที่มา : ห้องเรียนอัลอิสติกอมะฮ์