บันทึกแห่ง ’สัจธรรม’ 12
แปลเรียบเรียง...เพจบันทึกฮัก
อิหม่าม ชาฟิอีย์ -ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ-
"การอ่อนน้อมถ่อมตนคือหนึ่งในมารยาทอันดีงาม ส่วนการเย่อหยิ่งจองหองคือหนึ่งในคุณลักษณะที่น่าตำหนิ
การอ่อนน้อมถ่อมตนจะนำมาซึ่งความรัก และความพอเพียงจะทำให้เกิดความสบายใจ"
อิบนิ อุษัยมีน -ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ-
"เราไม่ได้เกิดมาใช้ชีวิตในดุนยาเหมือนกับสัตว์ ที่เอาแต่กิน ดื่ม และนอนหลับเพียงเท่านั้น
แต่เราเกิดมาใช้ชีวิตเพื่อเตรียมเสบียงสำหรับโลกอาคิเราะฮฺ"
شرح الكافية الشافية
อิบนุ ตัยมียะฮฺ -ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ-
"หนึ่งในสาเหตุหลักที่ช่วยให้การงานของชัยฏอนแข็งแกร่งขึ้น คือการฟังเพลงและการละเล่น (โห่ร้อง ปรบมือ)
“มิปรากฏว่า การละหมาดของพวกเขา ณ บ้านของอัลลอฮฺ นั้นเป็นอย่างอื่น นอกจากการเป่าเสียง และการตบมือเท่านั้น"
(อัล-อันฟาล:35)
"ฉันไม่เห็นว่าจะมีสิ่งใด เป็นอาหารเสริมสร้างสติปัญญา จิตวิญญาณ บำรุงรักษาร่างกาย และช่วยประกันความสุข
มากไปกว่า การได้ใคร่ครวญอัลกุรอ่าน อย่างสม่ำเสมอ"
(مجموع الفتاوى ٧/٤٩٣)
ชัยคฺ ศอและฮฺ เฟาซาน -ฮะฟิซ่อฮุลลอฮฺ-
เมื่อใดบ้างที่การให้สลามเป็นที่น่ารังเกียจ(ไม่เหมาะสม)
1. ให้สลามแก่ผู้ที่กำลังสนทนา เมื่อเขากำลังสนทนากับผู้อื่น
2. ให้สลามแก่ผู้ที่กำลังซิกรุลลอฮฺ ไม่ว่าจะเป็นการกล่าวตัสเบียะฮฺ ตะฮฺลีล หรือการอ่านอัลกุรอ่าน
3. ให้สลามแก่ผู้ที่กำลังอธิบายฮะดีษที่เป็นคำพูดของท่านร่อซู้ล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม
4. ให้สลามแก่ค่อฏีบที่กำลังกล่าวปราศัย ซึ่งการปราศรัยนั้นไม่ใช่คุฏบะฮฺวันศุกร์ เพราะในระหว่างคุฏบะฮฺวันศุกร์เป็นที่ต้องห้ามโดยเด็ดขาด ดังนั้นการสลามให้ค่อฏีบ การสลามให้มะอฺมูม จึงไม่เป็นที่อนุญาติ
5. ให้สลามแก่ผู้ที่กำลังสอน ไม่ว่าจะเป็นบทเรียนในเรื่องอัลกุรอ่าน อัลฮะดีษ ฟิกฮฺ และไวยกรณ์ภาษาอาหรับ ตัวอย่างบางคนเมื่อมาถึงฮะละเกาะฮฺ หรือขณะที่กำลังเรียน เขาจะยืนขึ้นและให้สลามเสียงดัง นั่นคือสิ่งที่ไม่เหมาะสม ไม่ควรปฏิบัติ เพราะเป็นการรบกวนครูผู้สอน รบกวนคนที่นั่งเรียนนั่งฟัง
6. ให้สลามแก่ผู้ที่กำลังค้นคว้าหาวิชาความรู้ หรือกำลังค้นคว้าประเด็นใดประเด็นหนึ่งในเรื่องราวศาสนา ไม่ควรสลามและขัดจังหวะ เพราะไม่มีบทบัญญัติในเรื่องดังกล่าว
7. ให้สลามแก่ผู้ที่กำลังตักเตือนผู้อื่น เมื่อเข้าไปถึงอย่าเพิ่งให้สลาม ควรนั่งฟังข้อเตือนใจ เพราะจะเป็นการขัดจังหวะทั้งผู้เตือนและผู้ฟัง
8. ให้สลามแก่ผู้ที่กำลังทบทวนทำความเข้าใจวิชาฟิกฮฺ
9. ให้สลามแก่ผู้ที่กำลังอะซาน เพราะนั่นเป็นการขัดจังหวะการอะซานของเขา
10. ให้สลามแก่ผู้ที่กำลังละหมาด เมื่อมาถึงในขณะที่มีคนๆหนึ่งกำลังละหมาด ก็จงอย่าให้สลามจนกว่าเขาจะละหมาดเสร็จเสียก่อน มีรายงานว่าครั้งหนึ่งในขณะที่ท่านนบีกำลังละหมาด ได้มีศ่อฮาบะฮฺท่านหนึ่งให้สลามท่าน ท่านนบีจึงตอบรับสลามด้วยสัญญาณมือ ดังนั้นเมื่อใดที่มีคนให้สลามท่านในขณะที่ท่านกำลังละหมาด ก็จงตอบรับสลามด้วยสัญญานมือ
11. ให้สลามแก่ผู้ที่กำลังอาบน้ำละหมาด เพราะไม่ควรให้สลามจนกว่าเขาจะอาบน้ำละหมาดเสร็จเสียก่อน เพื่อที่จะไม่เป็นการขัดจังหวะการอาบน้ำละหมาดของเขา ส่วนในกรณีของการชำระล้างที่ไม่ใช่กระทำเพื่ออิบาดะฮฺ อาจจะเป็นการอาบน้ำให้ร่างกายสดชื่น หรือเพื่อชำระล้างร่างกาย ก็ไม่มีข้อห้ามในการที่จะให้สลาม
12. ให้สลามแก่ผู้ที่กำลังรับประทานอาหาร
13. ให้สลามแก่ผู้ที่กำลังขับถ่าย (อุจจาระ) เพราะถือเป็นสิ่งเลวร้ายยิ่ง ฉะนั้นแก่ผู้ที่กำลังปัสสาวะหรืออุจจาระ อย่าได้ให้สลามตราบใดที่เขากำลังทำธุระส่วนตัวเพราะคนที่กำลังอุจจาระหรือปัสสาวะแล้วเขาได้พูดระหว่างนั้น คือสิ่งที่น่าเกลียดยิ่ง
14. ให้สลามแก่ผู้ที่กำลังต่อสู้กับศัตรูในสนามรบ ในระหว่างการรบนั้นจงอย่าได้ให้สลามแก่เขา เพราะเขากำลังมุ่งอยู่กับการสู้รบ
كتاب إتحاف الطلاب بشرح منظومة الآداب ص
อิบนุ ก็อยยิม -ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ-
"ก า ร ล ะ ห ม า ด"
♥ ช่วยนำพาริสกี
♥ ดูแลรักษาสุขภาพ
♥ ปัดเป่าทุกข์ภัย
♥ ขับไล่โรคร้าย
♥ เติมกำลังให้หัวใจ
♥ ทำให้ใบหน้าผ่องใส
♥ ทำให้จิตใจเบิกบาน
♥ ขจัดความเกียจคร้าน
♥ ทำให้ร่างกายตื่นตัว
♥ ร่างกายแข็งแรง
♥ รู้สึกสบายใจ
♥ หล่อเลี้ยงหัวใจและวิญญาณ
♥ ทำให้หัวใจสว่างไสว
♥ รักษาความดีงามที่มี
♥ และป้องกันความทุกข์"
زاد المعاد ٣٠٤/٤
มีคนถามท่าน ซะฮฺล อิบนิ อับดิลลาฮฺ ว่า: เราจะทราบได้อย่างไรว่าคนๆนั้นอยู่ในแนวทางอะฮฺลิซซุนนะฮฺ วัลญะมาอะฮฺ?
ท่านตอบว่า: เมื่อคนๆนั้นมีคุณลักษณะต่อไปนี้
- ไม่ละทิ้งการอยู่ร่วมกับญะมาอะฮฺที่อยู่บนความถูกต้อง
- ไม่ด่าทอบรรดาศ่อฮาบะฮฺของท่านนบีﷺ
- เชื่อฟังผู้นำและไม่จับอาวุธขึ้นมาต่อต้านผู้นำ
- ไม่ปฏิเสธกอฎอและกอฎัร (การกำหนดของอัลลอฮฺทั้งดีและร้าย)
- ไม่มีความสงสัยในเรื่องการศรัทธา
- ไม่โต้เถียงในเรื่องศาสนา (เพื่อที่จะไม่ยอมรับความถูกต้อง)
- ไม่ทิ้งละหมาดญะนาซะฮฺให้แก่ผู้ที่เป็นมุสลิมเพียงเพราะว่าเขาทำบาป
- ไม่ละทิ้งซุนนะฮฺของการลูบบนรองเท้า
- ไม่ละทิ้งการละหมาดญะมาอะฮฺตามหลังผู้ปกครอง ไม่ว่าเขาจะเป็นผู้อธรรมหรือมีความเป็นธรรมก็ตาม
شرح أصول اعتقاد أهل السُّنة والجماعة/ للإمام اللالكائي رحمه الله ١٨٣.
•┈┈┈••✦✿✦••┈┈┈••┈┈┈••✦✿✦••┈┈┈••┈┈┈••✦✿✦••┈┈┈•