ถ้อยคำแห่งปวงปราชญ์ 102
  จำนวนคนเข้าชม  164

ถ้อยคำแห่งปวงปราชญ์ 102

 

แปลและเรียบเรียง....เพจวันละหนึ่งความคิด

 

- เชค อับดุลอะซี้ซ บิน บ๊าศ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ-

 

ท่านร่อซู้ล صلى الله عليه وسلم กล่าวว่า:

"ใครที่ละหมาดศุบฮฺ เขาผู้นั้นจะอยู่ ในการพิทักษ์คุ้มครองของอัลลอฮฺ

เมื่อนั้น ท่านทั้งหลายอย่าได้ละเมิด สิ่งหนึ่งสิ่งใดจากการพิทักษ์ปกป้อง ของพระองค์

เพราะผู้ที่ละเมิดผู้ที่อยู่ภายใต้ การดูแลของพระองค์ เขาจะถูกเอาคืน จากนั้น เขาจะถูกให้คว่ำหน้าลงสู่นรกญะฮันนัม"

(บันทึกโดย อิมามมุสลิม657)

 

     หมายถึง ผู้ที่ละหมาดซุบฮิ เขาจะอยู่ในการปกป้องคุ้มครองของอัลลอฮฺ จึงไม่อนุญาตให้ละเมิด ทำร้าย เป็นศัตรูกับบุคคลดังกล่าว

     และการเป็นศัตรูกับคนที่ละหมาดศุบฮินั้น เท่ากับนำพาตัวเองเผชิญกับความโกรธกริ้วของอัลลอฮฺและการเข้าสู่ไฟนรก

      ขออัลลอฮฺ โปรดทรงให้เรารอดพ้นปลอดภัยด้วยเถิด

(นูรุน อะลัดดัรบิ)

 

 

 

รายงานจากท่านมุอ๊าศ อิบนิ ญะบั้ล ร่อฎิยัลลอฮุอันฮฺ ว่า :

 

ท่านร่อซู้ล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้สั่งเสียกับฉันไว้ 10 ประการด้วยกัน ท่านกล่าวว่า :  

      - อย่าได้ตั้งสิ่งหนึ่งสิ่งใดเป็นภาคีต่ออัลลอฮฺ แม้ว่าเจ้าจะถูกสังหารหรือถูกเผาจนมอดไหม้ก็ตาม 

      - อย่าได้เนรคุณ อกตัญญูต่อบิดามารดา แม้ว่าท่านทั้งสองจะบังคับเจ้าให้ออกห่างจากครอบครัวและทรัพย์สินของเจ้าก็ตาม 

      - อย่าได้ทิ้งละหมาดฟัรฎูโดยเจตนา เพราะคนที่ทิ้งละหมาดฟัรฎูโดยเจตนานั้น ถือว่าเขาได้หลุดพ้น (หมดสถานภาพ) จากสิทธิความชอบธรรมของอัลลอฮฺ

      - อย่าได้ดื่มสุรา เพราะสุราคือต้นเหตุแห่งความชั่วช้าทั้งปวง 

      - อย่าได้ทำการฝ่าฝืน เพราะการฝ่าฝืนจะนำมาซึ่งความกริ้วโกรธของอัลลอฮฺ 

      - อย่าได้หนีทัพในวันประจัญบาน แม้ว่าผู้คนต่างพากันล้มตาย 

      - เมื่อผู้คนประสบกับโรคระบาด และเจ้าก็อยู่ในหมู่พวกเขา เจ้าก็จงอยู่ (อย่าได้หนี)  

      - จงใช้จ่ายเพื่อครอบครัวของเจ้าตามกำลังความสามารถของเจ้า 

      - อย่าได้ละไม้เรียวในการอบรมสั่งสอนลูกๆ ของเจ้า 

      - และจงเตือนพวกเขาให้ระวังให้ดีใน (เรื่องบทบัญญัติของ) อัลลอฮฺเถิด 

(บันทึกโดย อิมาม อะฮฺมัด)

 

 

 

- เชค อิบนิ อุซัยมีน ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ-

 

คนเราหากไม่ใส่ใจในการเยียวยารักษาโรคในหัวใจของตัวเองแล้ว เขาก็จะถูกลงโทษด้วยการมีโรคที่พอกพูนมากยิ่งขึ้น

     อัลลอฮฺ ตะอาลา ตรัสว่า

"ในหัวใจของพวกเขามีโรค และอัลลอฮฺก็ได้ทรงเพิ่มโรคให้แก่พวกเขา" 

(อัลบะก่อเราะฮฺ : 10)

 

 

 

ท่านร่อซู้ล ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า :

 

" บททดสอบ ภัยพิบัติต่างๆ  จะยังคงประสบกับผู้ศรัทธาชายและผู้ศรัทธาหญิง 

ทั้งในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับตัวของเขาเอง เกี่ยวกับลูกหลาน หรือทรัพย์สินของเขา

จนกว่าเขาจะได้พบกับอัลลอฮฺ ในสภาพที่ปราศจากความผิดใดๆ"

(ศ่อฮีฮุ้ล ญาเมี้ยะ)

 

 

 

ท่านร่อซู้ล صلى الله عليه وسلم กล่าวว่า:

 

     แท้จริงอัลลอฮฺจะทรงแผ่พระหัตถ์ของพระองค์ในยามค่ำคืน เพื่อที่พระองค์จะได้ทรงอภัยโทษให้แก่ผู้กระทำความผิดในยามกลางวัน

     และจะทรงแผ่พระหัตถ์ของพระองค์ในยามกลางวัน  เพื่อที่พระองค์จะได้ทรงอภัยโทษให้แก่ผู้ที่กระทำความผิดในยามค่ำคืน

      (และจะยังคงเป็นเช่นนี้) จนกว่า ดวงอาทิตย์จะขึ้นทางทิศตะวันตก"

(บันทึกโดย อิหม่ามมุสลิม 1415)

 

 

 

ท่านร่อซู้ล ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า :

 

إنّ اللهَ إذا استُودِعَ شَيئًا حَفِظَه

“แท้จริง อัลลอฮฺนั้นเมื่อพระองค์ได้รับฝากในสิ่งใด พระองค์จะทรงปกป้องดูแลสิ่งนั้นเสมอ”

(บันทึกโดย อิมามอันนะซาอีย์)

 

 

 

- เชค อิบนิ อุซัยมีน ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ -

 

     เมื่อท่านเห็นว่า อัลลอฮฺได้ประทานทรัพย์สิน วิชาความรู้  สุขภาพพลานามัย เกียรติยศชื่อเสียง ลูกหลาน หรืออื่นๆ นอกเหนือจากนี้ แก่คนอื่นนอกเหนือจากท่าน ก็จงกล่าวว่า

 

اللهم إني أسألك من فضلك

"อัลลอฮุมมะ อินนี อัซอะลุกะ มิน ฟัฎลิกะ"

"โอ้อัลลอฮฺ แท้จริง ข้าพระองค์วิงวอนขอความโปรดปรานจากพระองค์ด้วยเถิด"

 

     ดังที่พระองค์ได้ตรัสว่า

" واسألوا الله من فضله "

"และพวกเจ้า จงวอนขอความโปรดปรานของพระองค์ต่ออัลลอฮฺเถิด"

 

     ส่วนการเป็นคนอมทุกข์ หมองเศร้า เวลาที่เห็นความโปรดปรานของอัลลอฮฺมีให้กับคนหนึ่งคนใด แล้วรู้สึกกลุ้มใจทุกข์ใจนั้น สิ่งเหล่านี้จะเป็นสิ่งเผาไหม้ตัวของท่านเอง

     และเมื่อใดก็ตามที่ท่านรู้สึกอิจฉาก็ให้กล่าวว่า :

أعوذ بالله من الشيطان الرجيم، 

اللهم إني أسألك من فضلك  كما أعطيت هؤلاء ألا تحرمني

(อะอูซุบิ้ลลาฮิ มินัชชัยฏอนิรรอญีม อัลลอฮุมมะ อินนี อัซอะลุกะ มิน ฟัฎลิกะ กะมา อะอฺฏ็อยตะ ฮาอุลาอฺ อัลลา ตะฮฺริมนีย์)

     "ข้าพระองค์ขอความคุ้มครองต่ออัลลอฮฺ ให้พ้นจากชัยฏอนที่ถูกสาปแช่ง

     ข้าแต่อัลลอฮฺ แท้จริง ข้าพระองค์วอนขอความโปรดปรานจากพระองค์ ดังเช่นที่พระองค์ได้ประทานให้แก่พวกเขาเหล่านั้น ขอพระองค์โปรดอย่าได้ทรงห้ามข้าพระองค์ (ในการได้รับสิ่งเหล่านั้น) ด้วยเถิด"

اللقاءات الشهرية (٣٩)

 

 

 

- ท่านอบี มัยมูน ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ -

 

แท้จริงแล้ว การอดทนอดกลั้นนั้นมีเงื่อนไข (ที่ทำให้การอดทนนั้นๆ ได้รับการตอบแทน)

ผู้รายงานถามว่า : แล้วมันคืออะไรหรือ ท่านอะบา มัยมูน ?

ท่านตอบว่า : แท้จริงแล้ว เงื่อนไขของการอดทนก็คือ

     ท่านจะต้องรู้ว่า ท่านจะอดทนอย่างไร? อดทนเพื่อใคร? แล้วท่านปรารถนาอะไรจากการอดทนของท่าน?

     เพียงท่านหวังในความเมตตาของอัลลอฮฺในเรื่องนั้นๆ และตั้งเจตนาให้ดี ท่านก็จะอดทนได้ตลอดรอดฝั่ง (เป็นการอดทนที่ยังผล) 

     มิเช่นนั้น ท่านก็จะมีสถานะไม่ต่างอะไรกับสัตว์ตัวหนึ่ง มันจะตะเกียกตะกายดิ้นรนยามที่ถูกทรมาน แต่พอการทรมานยุติสงบลง มันก็สงบ นิ่งเฉย 

     โดยที่มันไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวและไม่ได้เข้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อที่มันจะได้หวังในความเมตตา และอดทนต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งความจริงแล้วมันก็ไม่ได้อดทนอะไร 

     และเมื่อการทรมานยุติลง มันก็ไม่ได้รู้สึกถึงความโปรดปรานใดๆ อันเป็นเหตุให้มันต้องสรรเสริญ และแสดงความขอบคุณต่ออัลลอฮฺเลย 

 

 

 

 

๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖