ลู ก ใ ค ร ...? !
อุมมุราชิฎ เรียบเรียง...
ลูกใคร ? เป็นคำถามที่ผู้ใหญ่มักจะถามเด็กๆ เพื่อสอบถามว่าพ่อแม่เป็นใคร ? มาจากไหน ? ลูกเต้าเหล่าใคร ? ซึ่งการสอบถามถึงพ่อแม่ เพื่อให้ทราบถึงพื้นฐานทางบ้าน พื้นฐานความรู้ พื้นฐานมารยาท และรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อพิจารณาว่าลูกของเราคบเพื่อนแบบไหน !
ฉะนั้นพื้นฐาน DNA จะส่งต่อถึงลูกอย่างแน่นอน การที่ลูกของเราคบเพื่อนจึงจำเป็นต้องสอบถามถึงที่มาที่ไป พ่อแม่ชื่ออะไร ? บ้านอยู่ที่ไหน ? จะจน จะรวย ไม่ใช่ปัญหา แต่ปัญหาในปัจจุบันคือต้องการให้ทราบว่า เพื่อนของลูกเป็นมุสลิมไหม ? เขามีพ่อแม่ที่เป็นมุสลิมไหม ? ญาติพี่น้องเป็นใคร ? ศาสนาอยู่ในระดับไหน ? กลุ่มไหน ? ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญในการคบหาต่อไปในอนาคต อย่างน้อยจะได้ทราบว่า กลุ่มแก๊งนี้จะพากันไปละหมาด หรือจะพากันไปเที่ยวไร้สาระ !
อิบนิล ก็อยยิม -ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ-
"ส่วนใหญ่แล้วที่ลูกเสียคนก็เพราะพ่อแม่ เพราะการปล่อยปละละเลยในการอบรมเลี้ยงดู ละทิ้งหน้าที่การอบรมสั่งสอนในสิ่งที่เป็นฟัรฎูและซุนนะฮฺของศาสนา"
تحفة المودود لابن القيم
ลูกใคร ? เด็กบางคน จะตอบอย่างภาคภูมิใจ ถึงชื่อ "พ่อ แม่" ของพวกเขา...
ลูกใคร ? เด็กบางคนอาจจะไม่อยากตอบชื่อ "พ่อ แม่" ของพวกเขา ทำไม ?
ลูกใคร ? เด็กบางคนชอบจะตอบเพียงชื่อ "แม่" ของพวกเขา เพราะ ?!
ลูกใคร ? เด็กบางคนอาจไม่อยากเอ่ยชื่อ "พ่อ" ของพวกเขา สาเหตุ ?!
ฉะนั้น อยากให้ลูกภาคภูมิใจในการเอ่ยชื่อ พ่อแม่ ก็สมควรทำแบบอย่างที่ดีให้พวกเขาได้เห็นเพื่อให้ลูกได้ภาคภูมิใจว่ามีพ่อ และ แม่ ที่ดีอยู่ในหลักการ ละหมาด คลุมฮิญาบ ไม่ยุ่งเกี่นวกับสิ่งฮะรอมต่างๆ .... ไม่ใช่ให้ลูกอาย ที่จะเอ่ยชื่อ พ่อแม่ ที่ไม่ได้อยู่ในหลักการศาสนา ต้องหลบๆ ซ่อนๆ เพราะมีพ่อแม่ ที่เป็นมุสลิมแต่เพียงบัตรประชาชน หรือมีแค่ชื่อที่คล้ายคลึง แต่ไม่ได้เป็นมุสลิมอย่างที่ควรจะเป็น ไม่ละหมาด ไม่คลุมฮิญาบ ไม่รู้หลักการฮาลาล ฮะรอม ไม่รู้วันถือศีลอด ไม่รู้วิธีการจ่ายซะกาต ลาเฮาละวากูวะตะอิลลาฮ์
อิหม่าม อัชชาฟิอีย์ -ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ- กล่าวว่า:
"ผู้เป็นพ่อแม่ จำเป็นจะต้องอบรมเลี้ยงดูลูกๆของพวกเขา สอนพวกเขาเกี่ยวกับการทำความสะอาดและการละหมาด และลงโทษพวกเขาเวลาที่เขาละทิ้ง
เมื่อถึงช่วงวัยที่พวกเขามีสติสัมปัชชัญญะ (บรรลุศาสนภาวะ ดั่งสัญญาณดังต่อไปนี้) เด็กคนใดเริ่มฝัน มีประจำเดือน หรืออายุครบ 15 ปีบริบูรณ์ ก็จำเป็นที่จะต้องรักษาสิ่งที่เป็นฟัรฎู"
แต่ พ่อแม่ บางคนอาจจะไม่ทราบว่าลูกตนเองนั้นอับอาย เพราะคิดว่ามีทรัพย์สินมากมายไม่จำเป็นต้องอาย !
มีชื่อเสียงมีเงินทอง จะอายทำไม ?!
ขับรถหรู ใส่ทองเต็มข้อมือ จะอายทำไม ?!
เป็นเจ้าของธุรกิจ จะอายทำไม ?!
มีบ้านหลังใหญ่ ใช้ของฟุ่มเฟือย จะอายทำไม ?!
ปัจจุบันนี้ การแสวงหาศาสนาง่ายเพียงปลายนิ้ว สื่อโซเชี่ยลที่ทำการดะวะฮ์ และให้ความรู้ศาสนามีมากมาย อัลลอฮ์อาจเมตตาลูกของท่านให้ได้รับรู้ความจริงในอิสลาม การปฏิบัติตนเป็นมุสลิมที่ดีตามซุนนะฮ์ของท่านนบีมุฮัมมัด ศอลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ในกระแสสังคมทางด้านศาสนาได้นำพา ลูกๆ ของท่านให้มีความรู้ มากกว่าที่ พ่อแม่ รู้ แม้ลูกไม่พูด แต่ลูกอายที่บางครั้ง พ่อแม่ไม่ได้รู้ศาสนา และความอายของลูก จะทำให้ลูกหนีห่างจากท่าน เพราะพวกเขาก็ไม่สามารถตักเตือน พ่อแม่ ของพวกเขาได้
อัลลอฮฺ ทรงกล่าวว่า
الْمَالُ وَالْبَنُونَ زِينَةُ الْحَيَاةِ الدُّنْيَا وَالْبَاقِيَاتُ الصَّالِحَاتُ خَيْرٌ عِندَ رَبِّكَ ثَوَابًا وَخَيْرٌ أَمَلًا [الكهف: 46]
“ทรัพย์สมบัติและลูกหลานคือ เครื่องประดับแห่งการดำรงชีวิตในโลกนี้
และความดีทั้งหลายที่จีรังนั้น เป็นการตอบแทนที่ดียิ่ง ณ ที่พระเจ้าของเจ้า และเป็นความหวังที่ดียิ่ง”
พ่อแม่ ที่ดี อัลลอฮ์ จะทรงคุ้มครองลูกๆ ของพวกเขาให้ปลอดภัย คุ้มครองริสกี มรดกที่ส่งต่อให้ลุกได้รับอย่างครบถ้วน
ลูก ๆ ที่ดี อัลลอฮ์ จะทรงตอบรับดูอาอ์ของพวกเขา และผลบุญที่พวกเขาได้ทำไว้ให้ พ่อแม่ ที่อยู่ในกุโบร ได้นอนอย่างสงบสุข
ฉะนั้น การที่ท่านเป็นมุสลิมที่ดี อยู่ในหลักการศาสนา อัลลอฮ์จะทรงคุ้มครองทั้งดุนยา และอาคิเราะฮ์
อัลลอฮ์ จะทรงคุ้มครองทรัพย์สินที่ฮาลาลของพวกท่านให้ส่งต่อถึงมือลูกหลานของพวกท่าน
อัลลอฮ์ จะทรงคุ้มครองลูกหลานของพวกท่าน ให้พบเจอแต่ผู้คนที่ดี เพื่อนที่ดี และคนที่จะคอยช่วยเหลือสนับสนุน
อัลลอฮ์ จะทรงคุ้มครองให้ท่านและลูกๆ ของท่านได้อยู่ในสถานที่ที่ดี ปลอดภัย สันติ
อัลลอฮ์ จะทรงคุ้มครองลูก ๆ ของพวกท่านให้อยู่ในหลักการศาสนา ด้วยกับดูอาอ์ของ พ่อแม่ ที่เป็นคนดี ที่ขอให้กับลูกๆ ของพวกเขา
อัลลอฮ์ จะทรงให้ท่านได้รับผลบุญจากลูกๆ ที่ดี หลานๆ ที่ดี ที่อยู่ในหลักการศาสนา ปฏิบัติอิบาดะฮ์อย่างสวยงาม และขอดูอาอ์ให้กับพ่อแม่ของพวกเขา
อัลลอฮ์ จะทรงตอบรับผลบุญ ที่ลูกๆ ของเขาได้ใช้จ่ายทรัพย์สินที่ฮาลาล นำมาได้มาสร้างสิ่งที่เป็นญาลิยะฮ์ ซึ่งเป็นผลบุญที่ต่อเนื่องจวบจนวันกิยามะฮ์
ด้วยเหตุอันไดเล่า พวกเราทั้งหลาย จึงไม่อยากเป็นพ่อแม่ ที่ดี เพื่อให้ลูก ๆ ได้ภาคภูมิใจ เมื่อเอ่ยให้ผู้คนได้รู้ว่า ... ฉันเป็นลูกใคร ?
อัลลอฮ์ ทรงบอกเกี่ยวกับพ่อที่ดี ที่ได้จากไปโดยทิ้งทรัพย์สินไว้ให้ลูกที่ยังเล็ก ว่าพระองค์จะคุ้มครองมรดกนั้นให้ถึงลูกของพวกเขาเอง โดยไม่ต้องเป็นกังวลว่าใครจะเอาไปได้ ในซูเราะฮ์ อัลกะฮ์พ ที่ให้มุสลิมได้อ่านกันในทุกคืนวันศุกร์ เพื่อตักเตือนและชี้แจงสิ่งต่างๆ และในอัลกุรอานยังมีความดีอีกมากมาย ถ้าหมั่นทบทวนกันเป็นประจำ
ดังเนื้อหาที่นบีมูซา ได้ร่วมเดินทางกับนบีคิฏิร
"ดังนั้น ทั้งสองจึงออกเดินทางต่อไป จนกระทั่งเมื่อทั้งสองพบชาวเมืองหนึ่ง ทั้งสองได้ขออาหารจากชาวเมืองนั้น แต่พวกเขาปฏิเสธที่จะต้อนรับเขาทั้งสอง ต่อมาเขาทั้งสองได้พบกำแพงหนึ่งกำลังจะพังลงมา แล้วเขาก็ทำให้มันตรง เขา(มูซา)กล่าวว่า ถ้าท่านประสงค์ แน่นอนท่านจะเอาค่าแรงตอบแทนสำหรับมันได้"
(อัลกะฮ์ฟ : 77)
"ส่วนเรื่องของกำแพงนั้น มันเป็นของเด็กผู้ชายกำพร้าสองคนที่อยู่ในเมือง และใต้กำแพงนั้นมีขุมทรัพย์ของเขาทั้งสอง และพ่อของเด็กทั้งสองเป็นคนดี ดังนั้นพระผู้เป็นเจ้าของท่านทรงประสงค์ที่จะให้เด็กทั้งสองคนบรรลุสู่ความเป็นผู้ใหญ่ และจะให้เด็กทั้งสองเอาขุมทรัพย์ของทั้งสองออกมาเอง เป็นความเมตตาจากพระผู้เป็นเจ้าของท่าน และฉันมิได้ทำสิ่งนี้ตามความพอใจของฉัน.."
(อัลกะฮ์ฟ : 82)
ชนชาวอาหรับ จะสอนลูกๆ ของพวกเขาถึงพ่อของพวกเขา จะทำอะไรก็แล้วแต่ ให้นึกถึงชื่อเสียงของพ่อ ชื่อเสียงของวงค์ตระกูล พ่อที่เป็นเสาหลักในครอบครัว พ่อที่เกี่ยวดองถึงวงค์ศาคณาญาติ ชาวอาหรับ จึงเรียกชื่อลูก และต่อด้วยชื่อพ่อ เสมอ ไม่ว่าชาย หรือหญิง เช่น มุฮัมมัด บินซัลมาน , อับดุลลอฮ์ บินซะอูด , ราชิด บินมุฮัมมัด , มุฮัมมัด บินอับดุลลอฮ์ , นูร บินคอลิด , ฟาติมะฮ์ บินมุฮัมมัด , และเมื่อจะเรียกพ่อของใครก็แล้วแต่ จะเรียกด้วยชื่อลูกชายคนโต ซึ่งบ่งบอกถึงผู้ชายคนโตที่จะเป็นเสาหลักให้กับน้องๆ เช่น อาบูมุฮัมมัด , อาบูราชิฎ , อาบูอับดุลลอฮ์, อบูฮะซัน , อุมมุคอลิด , อุมมุซัลมาน , อุมมุอะหมัด และที่สำคัญไม่ใช่เพียงชื่อพ่อเท่านั้น จะเห็นว่าบางครั้ง ชื่อลูก ชื่อพ่ออาจจะเหมือนกัน จึงเรียกเรียงจนถึงชื่อปู่ และทวด เช่น มุฮัมมัด บินซัลมาน บินซะอูด บินอับดุลลอฮ์ , ราชิฎ บินชูโกด บินดาวุด บินอับดุลลอฮ์ ฉะนั้นชื่อในพาสปอร์ต ของกลุ่มประเทศอาหรับจึงมีหลายชื่อมาก แล้วจึงเป็นชื่อเผ่า หรือตระกูล(นามสกุล)
ฉะนั้นสายสกุลจึงสำคัญมาก สำหรับชนชาติที่ต้องการรักษาชื่อเสียงวงค์ตระกูล รักษาเกียรติ เพราะสิ่งเหล่านี้ไม่สามารถซื้อขายได้ด้วยเงิน ไม่ว่าจะรวยล้นฟ้า เขาก็ด่าตามหลังถ้าไม่มีความดีให้พูดถึง ชื่อเสียงเกียติยศ สั่งสมกันมาด้วยความดีงาม การรักษาคำมั่นสัญญา(เครดิต) การช่วยเหลือผู้อื่น การรู้จักแบ่งปัน การมีมารยาท และที่สำคัญ การมีศาสนา และปฏิบัติตามหลักการของศาสนา นั่นจะทำให้มีแต่คนพูดถึง
เกียรติยศชื่อเสียงจึงสำคัญมากกว่าเงินทอง ดังคำไทยที่ว่า "ฉิบผายไม่ว่า รักษาหน้าไว้ก่อน" แม้มีเงินมากมายแต่ไม่มีบารมีสั่งสมไว้ ก็ไม่มีใครเชื่อถือ
ฉะนั้น ก่อนที่จะพูดว่า รู้ไหมกูลูกใคร ? จงสำรวจตัวเองให้ดีว่า ดีพอที่จะเป็นลูกของพ่อ และแม่หรือยัง ? และมีพ่อ และแม่ ที่ดีจนสามารถอวดชาวบ้านชาวเมืองให้ได้รู้ว่าเป็น ลูกใคร ? และภาคภูมิใจที่ได้เป็นลูกของพ่อแม่ของเรา และให้พ่อแม่ภูมิใจที่มีลูกที่ดี ไม่ต้องอาย หลบๆซ่อนๆ ทั้งพ่อแม่ และลูกๆ
อัลลอฮฺ ทรงกล่าวว่า
يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا قُوا أَنفُسَكُمْ وَأَهْلِيكُمْ نَارًا وَقُودُهَا النَّاسُ وَالْحِجَارَةُ
“โอ้บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย จงคุ้มครองตัวของพวกเจ้าและครอบครัวของพวกเจ้าให้พ้นจากไฟนรก
เพราะเชื้อเพลิงของมันคือมนุษย์ และก้อนหิน“
(อัต-ตะห์รีม 6 )
รู้ไหม กูลูกใคร ?! ชื่อตัว___ ชื่อพ่อ___ ชื่อปู่___ ชื่อทวด___ ต่อด้วยนามสกุล(สายตระกูล)___ รู้แน่ลูกใคร ?