"พ่ อ" "แม่"
เพจบันทึก”ฮัก”...แปลเรียบเรียง
อิบนิ อุษัยมีน -ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ-
"ฉันขอกำชับพี่น้องทุกท่านให้วิงวอนขอดุอาต่ออัลลอฮฺแก่บิดามารดาให้มาก ไม่ว่าท่านทั้งสองจะยังมีชีวิตอยู่หรือล่วงลับไปแล้วก็ตาม เพราะการกระทำดังกล่าวเป็นคุณลักษณะของลูกที่ดี
ผู้ที่ปฏิบัติตามคำดำรัสของอัลลอฮฺตะอาลาที่ว่า:
وَاخْفِضْ لَهُمَا جَنَاحَ الذُّلِّ مِنَ الرَّحْمَةِ وَقُل رَّبِّ ارْحَمْهُمَا كَمَا رَبَّيَانِي صَغِيرًا ( 24 )
(อัลอิสรออฺ24)
"จงนอบน้อมถ่อมตนแก่ท่านทั้งสองด้วยความเมตตา และจงขอดุอาให้แก่ท่านทั้งสองว่า:
"โอ้พระผู้เป็นเจ้าของข้าพระองค์ ได้โปรดเมตตาท่านทั้งสอง (บิดามารดา) เช่นเดียวกับที่ท่านทั้งสองได้เคยเลี้ยงดูฉันเมื่อครั้งเยาว์วัย"
نور على الدرب ( ج١ / ص٢٧٠)
ชัยคฺ อัลบานีย์ -ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ-
ทราบหรือไม่ว่า คำว่า 'ลูกที่ศอและฮฺ' หมายความว่าอย่างไร?
หมายถึงผู้ที่วิงวอนขอต่ออัลลอฮฺให้แก่คุณ ขณะที่คุณนอนอย่างโดดเดี่ยวในหลุมฝังศพ
หมายถึงผู้ที่ไม่เคยลืมคุณ ขณะที่การงานทั้งหลายของคุณสิ้นสุดลง
หมายถึงผู้ที่เฝ้าขออภัยโทษต่ออัลลอฮฺ ขอให้พระองค์ทรงยกเกรียติยกสถานะอันสูงส่งให้แก่คุณ
หมายถึงผู้ที่ระลึกนึกถึงคุณอยู่เสมอ ทุกครั้งที่เขาบริจาคทานเขาจะตั้งเจตนาถึงคุณ
นั่นเป็นการเพียงพอแล้วที่การงานที่ดีของเขาจะอยู่บนตาชั่งความดีของคุณเช่นกัน
"คุณงามความดีใดๆที่ลูกที่ศอและฮฺได้ปฏิบัติ สำหรับพ่อแม่แล้ว เขาทั้งสองจะได้รับผลบุญเช่นเดียวกัน
โดยที่ผลบุญนั้นจะไม่ลดหย่อนลงแต่ประการใด เพราะลูกมาจากน้ำพักน้ำแรง (การอบรมเลี้ยงดู) ของพ่อแม่"
ท่านร่อซู้ล ﷺ กล่าวว่า:
“อาหารที่ดีที่สุดที่คนๆหนึ่งจะรับประทานเข้าไปในร่างกาย คือสิ่งที่ได้มาจากการขวนขวาย (น้ำพักน้ำแรง) ของเขา และลูกคือสิ่งที่มาจากน้ำพักน้ำแรงของเขา”
[ أحكام الجنائز ١٢٦ - ١٢٧] .
ชัยคฺ อับดุรร็อซซ๊าก อัลบัดรฺ -ฮะฟิซ่อฮุลลอฮฺ-
พ่อแม่ทั้งหลาย จงขอดุอาให้ลูกๆของท่านให้มากเถิด ขอให้เขาเป็นคนดี ขอให้เขายืนหยัด ขอให้เขาได้รับทางนำ และปลอดภัยจากฟิตนะฮฺ แล้วอัลลอฮฺ -ผู้ทรงสูงส่งผู้ทรงเกรียติ- จะตอบแทนท่าน เช่นเดียวกับชนิดของการงานที่ท่านกระทำ นั่นก็คือลูกๆของท่านก็จะขอดุอาให้แก่ท่านเช่นกัน
แม้ว่าในขณะที่ท่านมีชีวิตอยู่ จะเห็นว่าเขาบกพร่องแค่ไหนก็ตาม แต่อัลลอฮฺจะยกเกรียติด้วยสิ่งที่ไม่คาดคิดมาก่อน ซึ่งพระองค์ได้ทรงจัดเตรียมไว้สำหรับท่านหลังจากที่ท่านสิ้นชีวิตไปแล้ว
ฉะนั้นจงขอดุอาให้ลูกๆมากเถิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กๆที่อยู่ในยุคสมัยนี้ ในช่วงเวลานี้ พวกเขาต้องเผชิญกับฟิตนะฮฺต่างๆมากมาย รวมทั้งสิ่งที่คอยขัดขวางพวกเขาออกจากความดีงาม พวกเขาถูกทดสอบด้วยสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นในยุคสมัยก่อน
ดังนั้นฉันขอกำชับพวกท่านอีกครั้งพ่อแม่ทั้งหลาย จงขอดุอาให้ลูกๆของพวกท่าน ตลอดจนลูกหลานของบรรดามุสลิม จงฉกฉวยโอกาสในช่วงเวลาที่ดุอาจะถูกตอบรับ
ฉันขอสาบานต่ออัลลอฮฺ ว่าฉันได้กำชับพวกท่านแล้ว ให้ท่านขอดุอาให้ลูกๆของพวกท่าน และลูกหลานของบรรดามุสลิมให้มาก
ขอให้พระองค์ชี้ทางนำแก่พวกเขา ปรับปรุงหัวใจของพวกเขา
ให้พวกเขาเชื่อฟังอัลลอฮฺ ให้พวกเขาออกห่างจากฟิตนะฮฺ ชี้แนะพวกเขาไปสู่หนทางอันเที่ยงตรง
เพราะเมื่อใดก็ตามที่คนๆหนึ่งได้วิงวอนขอต่ออัลลอฮฺให้ลูกๆและลูกหลานมุสลิมอย่างมากแล้ว อัลลอฮฺจะให้ลูกของเขา และลูกหลานของบรรดามุสลิมทั้งหลายขอดุอาให้แก่เขาอย่างมากเช่นกันเมื่อเขาได้เสียชีวิตไปแล้ว
﴿ هَلْ جَزَاءُ الإِحْسَانِ إِلا الإِحْسَانُ ﴾
“จะมีการตอบแทนความดีอันใดเล่า นอกจากความดี”
(อัรเราะฮฺมาน 60)
ท่านร่อซู้ล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า :
وَأَطِعْ وَالِدَيْكَ، وَإِنْ أَمَرَاكَ أَنْ تَخْرُجَ مِنْ دُنْيَاكَ فَاخْرُجْ لَهُمَا،
"จงเชื่อฟังบิดามารดาของท่าน และถึงแม้ท่านทั้งสองจะสั่งใช้ให้ท่านนำดุนยาของท่าน
(ทรัพย์สินเงินทองตลอดจนสิ่งต่างๆ ที่ลูกมีครอบครองในดุนยา) ออกไป ท่านก็จงนำออกไป เพื่อท่านทั้งสองเถิด"*
(ศ่อฮี้ฮ อะดะบุ้ล มุฟร็อด 14)
ท่านร่อซู้ล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า :
وَلَا تَعُقَّنَّ وَالِدَيْكَ، وَإِنْ أَمَرَاكَ أَنْ تَخْرُجَ مِنْ أَهْلِكَ وَمَالِكَ
"จงอย่าเนรคุณต่อบิดามารดา แม้ท่านทั้งสองจะสั่งใช้ให้ท่านนำครอบครัว และทรัพย์สินของท่านออกไปก็ตาม"
(บันทึกโดย อิมาม อะฮฺมัด)
ท่านร่อซู้ล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า :
«أَنْتَ وَمَالُكَ لِأَبِيكَ»
" ตัวท่านและทรัพย์สินของท่านนั้น เป็นสิทธิของบิดาของท่าน"
(บันทึกโดย อิมาม อิบนุ มาญะฮฺ )
*(หมายถึง ให้เชื่อฟังท่านทั้งสองในทุกเรื่องที่ท่านสั่งใช้ ตราบใดที่ไม่ใช่การฝ่าฝืนคำสั่งของอัลลอฮฺ คำสั่งของพ่อแม่ จึงเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องปฏิบัติ ไม่อนุญาตให้โต้แย้ง ผัดผ่อน หรือล่าช้าในการทำตามคำสั่ง หากท่านต้องการสิ่งใดจากลูก ให้ดำเนินการทำให้ทันที อย่าตระหนี่ถี่เหนียวกับท่านทั้งสอง เพราะไม่มีสิ่งใดที่จะทดแทนบุญคุณท่านทั้งสองได้เลย)
มีชายคนหนึ่งมาหาท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม แล้วกล่าวว่า : "ผมมาให้สัตยาบันแก่ท่านว่า ผมจะอพยพ โดยผมได้ปล่อยให้พ่อกับแม่ร้องไห้อยู่ครับ"
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวตอบว่า : "เจ้าจงกลับไปหาท่านทั้งสอง และทำให้ท่านทั้งสองหัวเราะได้ เหมือนที่เจ้าได้ทำให้ท่านทั้งสองร้องไห้เถิด"
(บันทึกโดย อิมามอันนะซาอีย์)
ญาฮิมะฮฺ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮฺ ได้มาหาท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม
และกล่าวว่า : "ท่านร่อซูลุ้ลลอฮฺครับ ผมอยากออกไปทำสงคราม ผมมาเพื่อปรึกษาท่าน"
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าว่า :"ท่านมีแม่อยู่หรือไม่?"
"มีครับ"
"เจ้าจงอยู่กับนาง เพราะสวรรค์นั้นอยู่ใต้ฝ่าเท้าทั้งสองของนาง"
(บันทึกโดย อิมามอันนะซาอีย์ อิมามอัลอัลบานีย์ระบุว่า เป็นหะดีษฮะซัน)
ท่านร่อซู้ล ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า :"เมื่อบุตรของผู้เป็นบ่าวได้เสียชีวิตลง
อัลลอฮฺจะตรัสกับมะลาอิกะฮฺว่า : "พวกเจ้าได้เก็บ (วิญญาณ) บุตรของบ่าวข้ากระนั้นหรือ ?"
มะลาอิกะฮฺจะตอบว่า : "ใช่ขอรับ"
อัลลอฮฺตรัสว่า : "พวกเจ้าได้เก็บ (วิญญาณ) แก้วตาดวงใจของเขากระนั้นหรือ ?"
มะลาอิกะฮฺจะตอบว่า : "ใช่ขอรับ"
อัลลอฮฺตรัสถามว่า : "พวกเขาพูดอะไรบ้าง?"
มะลาอิกะฮฺ : "พวกเขากล่าวสรรเสริญพระองค์ท่าน และกล่าวอินนาลิ้ลลาฮิวะอินนาอิลัยฮิรอญิอูน"
อัลลอฮฺตรัสว่า : "พวกเจ้าจงสร้างบ้านให้กับพวกเขาในสวรรค์ และจงตั้งชื่อบ้านหลังนั้นว่า “บัยตุ้ลฮัมดฺ” (บ้านแห่งการสรรเสริญ) เถิด"
( หะดีษบันทึกโดย อิมาม อัตติรมีซียฺ และเชคอัลอั้ลบานียฺได้ยืนยันว่าเป็นหะดีษระดับหะซัน )
•┈┈┈••✦✿✦••┈┈┈••┈┈┈••✦✿✦••┈┈┈••┈┈┈••✦✿✦••┈┈┈•