ในละหมาดของท่าน

 

วันละหนึ่งความคิด....แปลเรียบเรียง

 

 

ท่านร่อซู้ล ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัมกล่าวว่า :

 

     "จงรำลึกถึงความตายในการละหมาดของท่านเถิด เพราะคนที่รำลึกนึกถึงความตายในการละหมาดของเขา เขาจะขมีขมันพยายามละหมาดเป็นอย่างดี

     และจงละหมาดเช่นการละหมาดของผู้ที่ ไม่คิดว่าจะได้ละหมาดเวลาใดอื่นอีกแล้ว และจงหลีกห่างจากทุกเรื่อง ที่ทำให้ต้องมาแก้ตัวให้พ้นผิดเถิด(หมายถึง ความผิดบาปทั้งมวล)"

(อิมามอัลอัลบานีย์ ระบุว่าเป็นฮะดีสฮะซัน)

 

 

 

     มีชายคนหนึ่งได้มาหาท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม พร้อมกล่าวว่า : "โอ้ ร่อซูลุ้ลลอฮฺครับ ได้โปรดสอนฉัน และได้โปรดให้มันกระชับด้วยเถิดครับ"

     ท่านกล่าวตอบว่า :

إذا قُمْتَ في صلاتِكَ، فصَلِّ صلاةَ مُودِّعٍ، ولا تَكَلَّمْ بكلامٍ تعتذِرُ منه، 

وأجمِعِ اليَأْسَ عمَّا في أيدي النَّاسِ.

     เมื่อท่านอยู่ในละหมาดของท่าน จงละหมาดประหนึ่งการละหมาดของผู้อำลา อย่าได้พูดด้วยคำพูดใดที่ทำให้ท่านต้องกลับมาขออภัยแก้ตัวใหม่

     และจงรวบรวมความสิ้นหวัง จากสิ่งที่อยู่ในมือของผู้คนทั้งหลายเถิด (อย่าหวังจากสิ่งที่มนุษย์มีครอบครอง แต่ให้หวังการช่วยเหลือจากอัลลอฮฺเท่านั้น)

(บันทึกโดย อิมาม อิบนุมาญะฮฺ 3381)

 

 

 

-ท่านอะดีย์ อิบนิ อัรฏ็อต ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ-

 

     ท่านทั้งหลาย จงเป็นเช่นชายคนหนึ่ง ที่ตักเตือนให้ข้อคิดกับลูกของตนว่า

     พ่อขอกำชับลูกว่า จงละหมาด อย่างที่ลูกกำลังคิดว่า ลูกจะไม่ได้ละหมาดอีกแล้วหลังจากละหมาดครั้งนี้ จนกว่าลูกจะตาย

     และมาเถิดลูก เรามาทำอย่างคนสองคน ที่ราวกับว่าเขาทั้งสองได้ยืนอยู่บนเหวนรก แต่หลังจากนั้น  ทั้งสองก็ขอโอกาสกลับไปแก้ตัวใหม่

 

 

 

- เชค อับดุรร็อซซ้าก อัลบัดรฺ ฮะฟิศ่อฮุ้ลลอฮฺ-

 

     หนึ่งในตัวช่วยที่ทำให้เกิดความนอบน้อมในการละหมาดและปลอดภัยจากเสียงกระซิบกระซาบของชัยฏอนขณะละหมาด

     ก็คือ..

     การตั้งใจฟังเสียงอะซานให้ดี ขณะที่มุอัซซินอะซาน  แล้วเขาหยุดงาน หยุดธุระของเขา และตั้งใจฟังอะซานและกล่าวรับอะซานตาม 

     เหมือนกับที่มุอัซซินกล่าว สิ่งนี้ ซุบฮานัลลอฮฺ จะส่งผลให้เกิดความคูชู้อฺ (นอบน้อม) ขณะละหมาด และทำให้ปลอดภัย จากเสียงกระซิบกระซาบของชัยฏอน

     เพราะการตั้งใจฟังและรับอะซานนั้น ทำให้หัวใจมีความสงบ  (ฏ่อมะนีนะฮฺ) มีสมาธิ ขจัดความยุ่งเหยิงต่างๆ ออกไปจากหัวใจ และทำให้หัวใจมุ่งหน้าเข้าหาการละหมาด ในฐานะของผู้ที่เทิดเกียรติ ให้ความยิ่งใหญ่ ให้เอกภาพแด่อัลลอฮฺ และจดจ่ออยู่กับการละหมาด

     ดังนั้น สิ่งหนึ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการทำให้เกิดความสงบปลอดภัย ก็คือ การเอาใจใส่กับการฟังเสียงอะซาน รับอะซานตามมุอัซซิน และปฏิบัติในซุนนะฮฺต่างๆ ที่มีแบบฉบับ จากนบีของเรา عليه الصلاة والسلام 

 

 

 

-ท่านมุอาวิยะฮฺ อิบนิ กุรเราะฮฺ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ-

 

ฉันมีชีวิตอยู่ทันบรรดาศ่อฮาบะฮฺ 70 คน ซึ่งหากว่าพวกเขาได้ออกมายังพวกท่าน ในวันนี้แล้วละก็

พวกเขาจะไม่รู้จักอะไร ในสิ่งที่พวกท่านเป็นกันอยู่เลย นอกจากเสียงอะซานเท่านั้น

 

 

 

- เชค อิบนิ อุซัยมีน ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ -

 

คนเราอาจจะอ่านอัลกุรอาน อาจจะเอาใจใส่กับการแสวงหาวิชาความรู้ แต่เขากลับหลงทาง -ขออัลลอฮฺทรงคุ้มครองด้วยเถิด-

ด้วยเหตุนี้ มนุษย์เราจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องวิงวอนขอ การยืนหยัดมั่นคง (บนหนทางที่เที่ยงตรง) ต่ออัลลอฮฺ ตะอาลาอยู่เป็นเนืองนิจ

 

 

 

- เชค มุฮัมมัด อิบนิ อุซัยมีน ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ -

 

     คนหนึ่งละหมาด 2 ร็อกอัตในรอมฎอน อีกคนละหมาด 2 ร็อกอัตในสิบวันแรกของเดือนซุ้ลฮิจญะฮฺ คนไหนประเสริฐกว่ากัน คนที่1 หรือ คนที่ 2 ?

     คนที่ 2 คำตอบนี้อาจดูแปลกสำหรับบุคคลทั่วไป แต่ไม่แปลกประหลาดแต่อย่างใดสำหรับผู้รู้นักวิชาการ

 

     ด้วยเหตุนี้ ฉันจึงบอกว่า จำเป็นที่ผู้รู้จะต้องชี้แจงให้ความกระจ่างแก่บุคคลทั่วไป ว่าการทำคุณงามความดี ในช่วง 10 วันแรกของเดือนซุ้ลฮิจญะฮฺนั้น เป็นที่โปรดปรานยิ่ง ณ ที่อัลลอฮฺ  ยิ่งกว่าการทำความดีในช่วงอื่น ไม่ว่าจะเป็นเวลาใดก็ตาม ซึ่งสิ่งนี้นับเป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้ เพราะได้รับการบอกเตือนแต่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ช่วงเวลานี้..ให้หมั่นทำความดีให้มาก

อ่านอัลกุรอานให้มาก

รำลึกถึงอัลลอฮฺให้มาก

ทำศ่อดาเกาะฮฺให้มาก

ถือศีลอดในช่วงเวลาดังกล่าว

     เพราะ..ไม่มีการทำความดีในช่วงเวลาใด ที่เป็นที่รักยิ่ง ณ ที่อัลลอฮฺ ยิ่งไปกว่า การทำดีในช่วง 10 วันแรก ของเดือนซุ้ลฮิจญะฮฺอีกแล้ว

 

 

 

- เชค อับดุรร็อซ้าก อัลบัดร์ ฮะฟิศ่อฮุ้ลลอฮฺ -

 

     รายงานจากท่านชะฮฺร์ อิบนิ เฮาชับว่า  ฉันกล่าวกับอุมมุซะละมะฮฺว่า 

     “ดุอาอฺที่ท่านร่อซู้ล ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ขอมากที่สุดเมื่อตอนที่ท่านอยู่กับเธอ คืออะไร?”  

     ท่านหญิงตอบว่า : "ดุอาอฺที่ท่านขอมากที่สุดคือ 

يا مقلب القلوب ثبت قلبي على دينك"

 (ยามุก็อลลิบั้ลกุลูบิ ษับบิต ก็อลบีย์ อะลาดีนิก)

 “โอ้ผู้ทรงพลิกผันบรรดาหัวใจทั้งหลาย ขอพระองค์โปรดทรงทำให้หัวใจของข้าพระองค์ มั่นคงอยู่ในศาสนาของพระองค์ด้วยเถิด”

 

     จึงส่งเสริมให้มุสลิม กล่าวดุอาอฺบทนี้ให้มากในบ้านของตัวเอง เพื่อเจริญรอยตามแบบอย่างจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม 

      เพราะท่านหญิง อุมมุ ซะละมะฮฺ ได้บอกกับเราไว้ว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม   เคยทำสิ่งนี้ในบ้านบ่อยครั้ง ท่านจะกล่าวว่า

 يا مقلب القلوب ثبت قلبي على دينك

     การกล่าวดุอาอฺบทนี้ในบ้านมากๆ  จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะหลังจากที่เราอยู่ในบ้าน ใช้เวลาพักผ่อนอยู่ในบ้าน จะทำให้ท่านออกไปสู่อะไร?

      ออกไปสู่ดุนยาและผลประโยชน์ต่างๆ ที่มีการพลิกผันเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ

     ดังนั้น การขอดุอาอฺบทนี้ในบ้านของเราให้มาก จึงเป็นการปฏิบัติตามแบบอย่างจากท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม

 

 

 

 - เชค สุลัยมาน อัรรุฮัยลีย์ หะฟิศ่อฮุ้ลลอฮฺ -

 

ละหมาดศุฮริของท่านในวันนี้ ดีกว่า ได้ผลบุญมากกว่าละหมาดศุฮริของท่านเมื่อวานนี้ 

หมายถึง ก่อนที่จะเข้าสู่เดือนซุ้ลฮิจญะฮฺ และเช่นกันกับละหมาดเวลาอื่นๆ ที่เหลือ

การทำดีกับพ่อแม่ของท่านในวันนี้ ดีกว่าการทำดีกับพ่อแม่เมื่อวาน ก่อนที่จะเข้าสู่เดือนซุ้ลฮิจญะฮฺ

การติดต่อสัมพันธ์กับเครือญาติของท่านในวันนี้ ดีกว่า ประเสริฐกว่า การติดต่อเชื่อมสัมพันธ์เมื่อวานนี้

การบริจาคของท่านในวันนี้ ดีกว่า บริสุทธิ์กว่า  เป็นที่โปรดปรานของอัลลอฮฺ ยิ่งกว่าการบริจาคของท่านเมื่อวานนี้

(ส่วนหนึ่งจากเทปบรรยายเรื่อง "วันคืนที่ดีสุดในดุนยา")

 

 

 

- ชัยคุ้ลอิสลาม อิบนิ ตัยมียะฮฺ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ -

 

     หากคนทั่วไปรู้ว่า การทำให้ละหมาดขาดหายไปนั้น เสมือนกับการทำให้การถือศีลอดในเดือนรอมฎอนขาดไป ตามมติเอกฉันท์ของมวลมุสลิมแล้วละก็ แน่นอนว่า พวกเขาจะขยันขันแข็ง ขมักเขม้น ในการละหมาดให้ตรงเวลา

(มินฮาจ อัซซุนนะฮฺ อันนะบะวียะฮฺ 5/230)

 

 

 

 

%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%