ผู้ ล ะ ห ม า ด
เพจบันทึกฮัก...แปลเรียบเรียง
อิบนิล ก็อยยิม -ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ-
"คุณลักษณะของการละหมาดห้าประการต่อไปนี้ คือเครื่องหมายของการกลับกลอก
♦ ขี้เกียจเมื่อลุกละหมาด
♦ ละหมาดเพื่อแสร้งให้คนดู (แสดงออกให้คนเห็นว่าเขาเป็นผู้ที่รักษาละหมาด)
♦ ล่าช้าในการละหมาด (แต่เข้าละหมาด เขาจะรีบเร่งเหมือนอีกาจิกอาหาร)
♦ รำลึกถึงอัลลอฮฺเพียงน้อยนิดเมื่ออยู่ในละหมาด
♦ ไม่ละหมาดพร้อมญะมาอะห์ที่มัสยิด"
อิบนิ มัสอู้ด -ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ-
อิบนิ มัสอู้ด ได้ออกไปหาคนกลุ่มหนึ่งที่กำลังพูดคุยกันในมัสยิดหลังอะซาน ท่านห้ามพวกเขาจากการพูดคุยนั้น และกล่าวว่า
"อันที่จริงพวกท่านมามัสยิดก็เพื่อละหมาด ท่านก็ควรละหมาดหรือไม่ก็ควรนั่งกันเงียบๆ เพราะฉันได้ยินท่านร่อซู้ล ﷺ กล่าวว่า:
"เมื่อถึงยุคสุดท้าย จะมีผู้คนนั่งอยู่ในมัสยิด เป็นกลุ่มๆ อิหม่ามของพวกเขาคือดุนยา (เขาจะจับกลุ่มพูดถึงแต่ดุนยา)
ท่านทั้งหลายจงอย่านั่งร่วมกับพวกเขา เพราะอัลลอฮฺ มิได้ต้องการให้พวกเขามาเพื่อที่จะพูดคุยกันเช่นนั้น
-ฉะนั้นการมามัสยิดก็ไม่เกิดประโยชน์ใดๆแก่พวกเขาทั้งสิ้น-"
ท่าน อบู ซัรรฺ -ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ-
"โอ้มนุษยชาติทั้งหลาย แท้จริงฉันมีบางอย่างจะเตือนพวกท่าน ด้วยความเป็นห่วงพวกท่านเหลือเกิน
ท่านทั้งหลายจงละหมาดในค่ำคืนอันมืดมิดเถิด เพื่อที่การละหมาดนั้นจะอยู่เคียงข้างในขณะที่ท่านอยู่เพียงลำพังในหลุมฝังศพ
ท่านทั้งหลายจงถือศีลอดในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ในดุนยาเถิด เพื่อที่การถือศีลอดนั้นจะทำให้ท่านรอดพ้นจากความร้อนระอุในวันแห่งการฟื้นคืนชีพ
ท่านทั้งหลายจงบริจาคทานเถิด เพื่อจะทำให้ท่านรอดพ้นจากความหวาดกลัวในวันแห่งความยากลำบาก "
ท่านร่อซู้ล ﷺ ได้นำละหมาดเราในบางเวลา ซึ่งเป็นเวลาละหมาดที่อ่านออกเสียง (เช่นละหมาดฟะญัร มักริบ หรือ อิชา)
เมื่อละหมาดเสร็จแล้ว ท่านร่อซู้ล ﷺ จึงถามว่า : ในหมู่พวกท่าน มีผู้ใดอ่านอัลกุรอ่านพร้อมๆกับฉัน ในขณะที่ฉันอ่านออกเสียงหรือไม่?
เราตอบว่า : มีครับ
ท่านร่อซู้ล ﷺ จึงกล่าวว่า : ไฉนจึงมีคนอ่านอัลกุรอ่านแข่งกับฉัน ! คนหนึ่งคนใดในหมู่พวกท่าน อย่าได้อ่านสิ่งใดจากอัลกุรอ่าน ขณะที่ฉันอ่านอัลกุรอ่านออกเสียง นอกจาก ซูเราะฮฺอัลฟาติฮะฮฺ เท่านั้น!"
سنن الدارقطني ٦٦٣/١
ท่านนบี ﷺ ชอบให้ขอดุอาซ้ำๆสามครั้ง ดั่งฮะดีษของท่าน อับดุลลอฮฺ อิบนิ มัสอู้ด -ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ-
"เมื่อท่านนบี ﷺ ขอดุอา ท่านจะดุอาสามครั้ง และเมื่อท่านวิงวอนขอสิ่งใด ท่านจะวิงวอนขอสามครั้ง"
رواه مسلم (1794)
ท่านร่อซู้ล ﷺ กล่าวว่า:
"ผู้ใดไปยังมัสยิดในตอนเช้า ซึ่งเขาไม่ได้ไปเพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อสอนในสิ่งทีดีงาม หรือเพื่อแสวงหาวิชาความรู้
เขาจะได้รับผลตอบแทนเท่ากับผู้ทำอุมเราะฮ์อย่างครบถ้วนสมบูรณ์
ส่วนผู้ใดไปยังมัสยิดในตอนเย็น ซึ่งเขาไม่ได้ไปยังมัสยิดเพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อสอนในสิ่งทีดีงาม หรือเพื่อแสวงหาวิชาความรู้
สำหรับเขาจะได้รับผลตอบแทนของผู้ประกอบพิธีฮัจญ์อย่างครบถ้วนสมบูรณ์"
อบุล ฮะซัน อิบนิ บัฏฏ้อล -ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ-
"ผู้ใดมีความผิดมาก และประสงค์จะให้อัลลอฮฺ ลบล้างความผิดเหล่านั้นให้แก่เขา โดยไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยใดๆ
จงพยายามอยู่ในที่ๆ มีการละหมาด จนกว่าการละหมาดจะเสร็จสิ้นเถิด ทั้งนี้เพื่อจะได้รับดุอาอันมากมายจากบรรดามลาอิกะฮฺ และการขออภัยโทษ (จากบรรดามลาอิกะฮฺ)ให้แก่เขา"
ท่าน อบู สุลัยมาน อัดดารอนีย์ -ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ- กล่าวว่า:
"กี่มากน้อยแล้ว ที่อาหารการกินยับยั้งเราจากการละหมาดกิยามุลลัยลฺ (ละหมาดในยามค่ำคืน)
และกี่มากน้อยแล้ว ที่การมองสิ่งต้องห้ามปิดกั้นเราจากการอ่านซูเราะฮฺหนึ่งในอัลกุรอ่าน"
حلية الأولياء ٣٠٧/٢
มีคนถามท่าน อิบนิ มัสอู้ด -ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ-ว่า : เพราะเหตุใดเราจึงไม่สามารถละหมาดกิยามุลลัยลฺได้ครับ ?
ท่านตอบว่า : ความผิดของพวกท่านมันยับยั้งท่านเอาไว้ !!
لطائف المعارف/٤٦
•┈┈ ••••••✦✿✦•••••• ┈┈••┈┈ ••••••✦✿✦•••••• ┈┈••┈┈ ••••••✦✿✦•••••• ┈┈•