ละหมาดพร้อมข่าวดี
เพจบันทึกฮัก...แปลเรียบเรียง
อิบนิ ตัยมียะฮฺ -ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ-
"การละหมาดเป็นเสบียงของหัวใจ ♥ ♥ เช่นเดียวกับที่อาหารเป็นเสบียงของร่างกาย
เมื่อร่างกายไม่สามารถดำรงอยู่ได้จากการได้รับสารอาหารเพียงน้อยนิด
หัวใจ ♥ ก็ไม่สามารถสะสมเสบียงได้ในยามที่ละหมาดด้วยความเร่งรีบ (เหมือนไก่จิกข้าว)
หากแต่จำเป็นที่จะต้องละหมาดด้วยความนอบน้อมอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ เพื่อหัวใจ ♥ จะมีความยำเกรง"
ข่าวดี 10 ประการสำหรับผู้รักษาละหมาดฟะญัร
ข่าวดีที่ 1 : เขาจะได้รับรัศมีที่เต็มเปี่ยมในวันกิยามะฮฺ
ท่านร่อซู้ล ﷺ กล่าวว่า:
“จงแจ้งข่าวดีแก่บรรดาผู้ที่เดินไปยังมัสยิดในเวลาค่ำคืนอันมืดมิด ด้วยแสงสว่างอย่างสมบูรณ์ในวันกิยามะฮฺ”
[رواه أبو داود والترمذي وصححه الألباني] .
ข่าวดีที่ 2 : ละหมาดซุนนะฮฺ 2 ร่อกาอัตก่อนละหมาดฟะญัรดีกว่าดุนยา และสิ่งที่มีอยู่ในดุนยา
ท่านร่อซู้ล ﷺ กล่าวว่า :
“สองร่อกาอัตก่อนละหมาดฟะญัร ดีกว่าดุนยาและสิ่งที่มีอยู่ในดุนยาทั้งหมด”
[ رواه مسلم ]
ข่าวดีที่ 3 : เขาจะได้รับความดีอันมากมายจากทุกๆย่างก้าวที่เดินไปมัสยิด
ท่านร่อซู้ล ﷺ กล่าวว่า :
“ผู้ใดออกจากบ้านของเขาไปยังมัสยิด ทุกๆย่างก้าวจะถูกบันทึกสิบความดี
และผู้ใดที่นั่งรอละหมาดอยู่ในมัสยิดเขาจะได้รับผลบุญเทียบเท่ากับผู้ที่ยืนขอดุอากุนูต
และเขาจะถูกบันทึกเท่ากับผู้ละหมาด จนกว่าจะกลับไปยังบ้านของเขา”
[أخرجه أحمد]
ข่าวดีที่ 4 : บรรดามาลาอิกะฮฺจะเป็นสักขีพยานให้แก่เขา
อัลลอฮฺ ตรัสว่า:
“จงดำรงละหมาดตั้งแต่ตะวันคล้อยจนพลบค่ำและการอ่านยามรุ่งอรุณ แท้จริงการอ่านยามรุ่งอรุณนั้นเป็นพยานยืนยันเสมอ”
[ الإسراء : 78 ]
ข่าวดีที่ 5 : เขาจะรอดพ้นจากไฟนรก
ท่านร่อซู้ล ﷺ กล่าวว่า :
“ไฟนรกจะไม่แผดเผาผู้ที่ละหมาดก่อนดวงตะวันขึ้นและก่อนดวงตะวันตก” (หมายถึงละหมาดฟะญัรและอัศริ)
[ رواه مسلم ]
ข่าวดีที่ 6 : เขาจะมองเห็นอัลลอฮฺ
ท่านญะรีร อิบนิ อับดิลลาฮฺ เล่าว่า: ขณะที่เราอยู่กับท่านร่อซู้ล ﷺ ในคืนจันทร์เพ็ญ ท่านมองไปยังดวงจันทร์ในตอนกลางคืน แล้วกล่าวว่า:
“ท่านทั้งหลายจะได้เห็นพระเจ้าของท่าน ดั่งที่พวกท่านมองเห็นดวงจันทร์ดวงนี้
โดยที่พวกท่านจะไม่ประสบกับความยากลำบากใดๆในการมองเห็นพระองค์
ดังนั้นหากท่านสามารถที่จะไม่พลาดละหมาดก่อนตะวันขึ้น และก่อนตะวันตกดินก็จงกระทำเถิด”
(หมายถึงละหมาดฟะญัรและอัศริ) แล้วท่านญะรีรฺก็ได้อ่านอายะฮฺนี้ :
﴿ وَسَبِّحۡ بِحَمۡدِ رَبِّكَ قَبۡلَ طُلُوعِ ٱلشَّمۡسِ وَقَبۡلَ غُرُوبِهَاۖ ﴾
[طه : 130]
“และจงแซ่ซ้องสดุดีด้วยการสรรเสริญพระเจ้าของเจ้า ก่อนตะวันขึ้นและก่อนตะวันลับลงไป”
[ متفق عليه ]
ข่าวดีที่ 7 : เขาจะได้รับผลบุญของละหมาดกิยามุลลัยลฺ
จากท่านอุษมาน อิบนิ อัฟฟาน -ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ- กล่าวว่า: ฉันได้ยินท่านรอซู้ลﷺ กล่าวว่า :
“ผู้ใดละหมาดอิชาร่วมกับญะมาอะฮฺ เสมือนกับว่าเขาได้ทำละหมาดครึ่งหนึ่งของคืน
และผู้ใดละหมาดศุบฮิร่วมกับญะมาอะฮฺ เสมือนกับว่าเขาผู้นั้นได้ละหมาดตลอดทั้งคืน”
[ رواه مسلم ]
ข่าวดีที่ 8 : เขาจะได้รับดุอาจากบรรดามลาอิกะฮฺ
จากท่านอลี อิบนิ อบีฏอลิบ ฉันได้ยินท่านร่อซู้ล ﷺ กล่าวว่า :
“ผู้ใดละหมาดฟะญัร ต่อมาเขาก็นั่งรอในที่ละหมาด บรรดามลาอิกะฮฺจะกล่าวสรรเสริญเขา โดยวิงวอนขอต่ออัลลอฮฺว่า
โอ้อัลลอฮฺ ทรงได้โปรดอภัยโทษให้แก่เขา โอ้อัลลอฮฺได้โปรดเมตตาเขาด้วยเถิด”
[ رواه أحمد ]
ข่าวดีที่ 9 : เขาจะได้รับผลบุญเท่ากับการทำฮัจญ์และอุมเราะฮ์
ท่านร่อซู้ล ﷺ กล่าวว่า :
“ผู้ใดละหมาดฟะญัรร่วมกับญามาอะฮฺ ต่อมาเขาก็นั่งรำกถึงอัลลอฮฺจนกระทั่งดวงอาทิตย์ขึ้น
และเขาได้ละหมาดสองร็อกอัต เขาจะได้รับผลบุญเท่ากับการทำฮัจญ์และอุมเราะฮ์อย่างครบถ้วนสมบูรณ์
ท่านกล่าวแบบนี้ถึงสามครั้ง”
[رواه الترمذي وصححه الألباني]
ข่าวดีที่ 10 : เขาจะอยู่ในความคุ้มครองดูแลของอัลลอฮฺ
ท่านร่อซู้ล ﷺ กล่าวว่า :
“ผู้ใดละหมาดฟะญัร เขาจะได้อยู่ภายใต้การคุ้มครองของอัลลอฮฺ”
[ رواه مسلم ]
•┈┈┈••✦✿✦••┈┈┈• •┈┈┈┈•✿❁✿•┈┈┈┈•