จงสอนลูก ๆ ของท่าน
เพจบันทึกฮัก...แปลเรียบเรียง
อบู อิสฮาก -ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ-
"อย่าปล่อยให้ลูกๆศึกษาเล่าเรียนกับผู้ใด เว้นแต่บุคคลนั้นจะต้องเป็นผู้ที่ยึดมั่นในศาสนา
เพราะการที่เด็กจะเป็นคนที่เคร่งครัดในศาสนา (แค่ไหน?) ขึ้นอยู่กับความเคร่งครัดในศาสนาของผู้สอน"
อิบนิ อุษัยมีน -ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ-
"จงสอนลูก ๆ ของท่านให้เป็นผู้ที่มีสัจจะ ทั้งคำพูดและการปฏิบัติ เมื่อพูดกับพวกเขา ก็อย่าโกหก เมื่อสัญญากับพวกเขา ก็อย่าบิดพริ้วในคำสัญญา
ท่านร่อซู้ล ﷺ กล่าวว่า :
"ผู้ใดก็ตามที่บอกกับลูกว่า “มานี่สิ มีอะไรจะให้” แต่แล้วเขาก็ไม่ได้ให้เหมือนที่พูด นั่นถือเป็นการโกหกแล้ว"
เพราะเมื่อลูกๆเห็นท่านโกหก พวกเขาก็จะโกหกอย่างง่ายดาย
เมื่อพวกเขาเห็นท่านผิดสัญญา พวกเขาก็จะผิดสัญญาอย่างง่ายดายเช่นกัน
ดังนั้นจงทำให้พวกเขาเคยชินกับการทำดีต่อผู้อื่นและเป็นแบบอย่างที่ดี
จงเตือนพวกเขาให้ระวังการรังแกและการละเมิดสิทธิของผู้อื่น
จงปลูกฝังให้หัวใจของพวกเขารักบรรดาผู้ศรัทธาและอธิบายให้พวกเขารู้ว่า
“สายสัมพันธ์ระหว่างผู้ศรัทธานั้น เปรียบได้ดั่งอาคาร ที่ส่วนหนึ่งจะต้องผสานอีกส่วนหนึ่ง"
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้รู้ว่า มุสลิมทุกคนจำเป็นจะต้องยืนหยัดอยู่บนแนวทางเดียวกัน -นั่นคือแนวทางอันถูกต้อง- เพื่อที่จะทำให้เกิดความรักใคร่ปรองดอง สมัครสมานสามัคคี
ผู้ใดที่บุตรหลานของเขามีความสามารถในการอ่าน ก็ควรส่งเสริมให้เขาอ่านหนังสือที่มีประโยชน์ เช่นหนังสือตัฟซีรอันเที่ยงตรง และปลอดภัยจากการบิดเบือนความหมายของอัลกุรอ่าน หนังสือฮะดีษศ่อเฮียะห์ของท่านนบี ﷺ ตำราของชัยคฺอับดุรเราะฮฺมาน อัซซะอฺดีย์ -ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ- และหนังสือประวัติศาสตร์ที่ถูกต้อง ห่างไกลจากการปฏิบัติตามตามอารมณ์ โดยเฉพาะประวัติศาสตร์ของบรรพชนรุ่นแรก
เพราะการอ่านประวัติศาสตร์ของบุคคลในยุคสมัยนั้น จะทำให้ผู้อ่านมีความรู้เกี่ยวกับสภาพต่างๆของท่านนบี ﷺ และบรรดาศ่อฮาบะฮฺของท่าน ทำให้เกิดความรักใคร่ในตัวท่านเหล่านั้น และมีความเข้าใจในศาสนาเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งเคล็ดลับต่างๆของข้อตัดสินชี้ขาดปัญหา ตลอดจนบทบัญญัติต่างๆของศาสนา
จงเตือนพวกเขาให้ระวังการอ่านหนังสือที่ให้โทษ ซึ่งจะทำลายอะกีดะฮฺของมนุษย์ ทำลายอิบาดะฮฺ และจรรยามารยาทต่างๆ
จงเตือนให้พวกเขาระวังการอ่านสื่อตีพิมพ์ และวารสารต่างๆที่หลงทาง ที่เต็มไปด้วยความเคลือบแคลงสงสัย และยังก่อให้เกิดความสงสัย และทำให้เกิดฟิตนะห์ ระวังการค้นคว้าประเด็นต่างๆในศาสนาโดยผิดรูปแบบและวิธีการ
เพราะถ้าหากพวกเขาอ่านหนังสือที่ให้โทษเช่นนี้ จะส่งผลต่ออะกีดะฮฺของผู้อ่าน ตลอดจนแนวทางการดำเนินชีวิตของเขา นอกจากผู้ที่อัลลอฮฺทรงประสงค์ จากบรรดาผู้ที่พระองค์ทรงประทานความรู้ ความอีหม่านศรัทธา สามารถแยกแยะระหว่างความสัจจริงและความเท็จ และสิ่งที่เป็นประโยชน์และเป็นโทษ
الضياء اللامع من الخطب الجوامع
ชัยคฺ อับดุรร็อซซ๊าก อัลบัดรฺ -ฮะฟิซุฮุลลอฮฺ-
"เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงลูกคนใดให้ดีขึ้นได้เว้นแต่อัลลอฮฺจะปรับปรุงเขา แม้ว่าจะพยายามมากเพียงใดก็ตาม
ทั้งการอบรมจรรยามารยาทให้มีสัมมาคารวะ
ทั้งการเลี้ยงดูตลอดจนการชี้แนะให้อยู่ในร่องในรอยอยู่ในแนวทางที่ถูกต้อง และการบังคับให้เขายึดมั่นอยู่ในศาสนา
เขาไม่สามารถที่จะยืนหยัดและเปลี่ยนแปลงตัวเองได้เลย เว้นแต่อัลลอฮฺจะทรงปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตัวเขา
เพราะผู้ให้ทางนำคืออัลลอฮฺ และผู้ให้ความสำเร็จคือพระองค์เช่นเดียวกัน
ด้วยเหตุนี้เอง จำเป็นที่มุสลิมจะต้องให้ความสำคัญกับความหวังนี้ และฝากไว้กับอัลลอฮฺ วิงวอนขอจากพระองค์ อ้อนวอนต่อพระองค์ ผู้ทรงบริสุทธิ์ผู้ทรงสูงส่ง ให้พระองค์ทรงปรับปรุงลูกหลานให้ดียิ่งขึ้น
และนี่คือตัวอย่างของผู้ที่เป็นที่รักของอัลลอฮฺ ท่านนบีอิบรอฮีม -อะลัยฮิสลาม- เมื่อท่านได้วิงวอนขอต่อพระองค์ว่า:
{رَبَّنَا وَاجْعَلْنَا مُسْلِمَيْنِ لَكَ وَمِن ذُرِّيَّتِنَا أُمَّةً مُّسْلِمَةً لَّكَ}
"โอ้พระผู้เป็นเจ้าของเรา ขอพระองค์โปรดทรงทำให้เราทั้งสองเป็นผู้นอบน้อมต่อพระองค์
และโปรดทรงทำให้ลูกหลานของเราเป็นชนชาติที่นอบน้อมต่อพระองค์ด้วยเถิด"
อิบนิ อุษัยมีน -ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ-
"พ่อแม่บางคนไม่ให้ความสำคัญกับการทำดีต่อลูก ๆ
บางครั้งจะพบว่าทั้งพ่อและแม่มีหัวใจที่หยาบกระด้าง พูดจาหยาบคายกับลูกชายและลูกสาว ทำให้ลูกๆรังเกียจเขา และเขาก็รังเกียจลูกๆ จึงกลายเป็นเรื่องยากสำหรับลูกๆที่จะรักษาสิทธิที่พึงมีต่อพ่อแม่
ด้วยเหตุนี้เองจึงจำเป็นต่อพ่อแม่ทุกคน ที่จะต้องอ่อนโยนกับลูกชายและลูกสาว เพราะการกระทำเช่นนั้นคือสิ่งที่ดีต่อทุกฝ่าย และยังเป็นสิ่งที่จะช่วยให้เกิดความดีงามและความยำเกรง"
อิหม่าม อัชชาฟิอีย์ -ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ- กล่าวว่า:
"ผู้เป็นพ่อแม่ จำเป็นจะต้องอบรมเลี้ยงดูลูกๆของพวกเขา
สอนพวกเขาเกี่ยวกับการทำความสะอาดและการละหมาด และลงโทษพวกเขาเวลาที่เขาละทิ้ง
เมื่อถึงช่วงวัยที่พวกเขามีสติสัมปัชชัญญะ (บรรลุศาสนภาวะ ดั่งสัญญาณดังต่อไปนี้)
เด็กคนใดเริ่มฝัน มีประจำเดือน หรืออายุครบ 15 ปีบริบูรณ์ ก็จำเป็นที่จะต้องรักษาสิ่งที่เป็นฟัรฎู"
การอบรมเลี้ยงดูลูกคือ ~หน้าที่~ อันยิ่งใหญ่ จงขอความช่วยเหลือจากอัลลอฮฺในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายนี้เถิด เพราะอาจมีบ้างในบางครั้งที่หัวใจอ่อนล้าจากการอบรมเลี้ยงดูพวกเขา เหนื่อยกายเวลาที่พวกเขาดื้อและซน จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความทุกข์และความกังวลต่อผู้เป็นพ่อแม่
ท่าน อิบนิล ก็อยยิม -ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ- กล่าวว่า:
"มีความผิดบางประการที่ไม่มีสิ่งใดจะลบล้างความผิดนั้นได้ นอกจากความกลัดกลุ้มที่เกิดจากลูกๆ"
ดังนั้นขอแสดงความยินดีกับพวกท่าน เนื่องจากนี่เป็นหนทางที่จะทำให้ท่านได้ลบล้างความผิด หากท่านพบว่าในการอบรมเลี้ยงดูพวกเขา ทำให้ท่านต้องเหน็ดเหนื่อย ก็จงขออภัยโทษต่อพระเจ้าของท่านให้มากเถิด
บทดุอาให้ลูกหลานที่ถูกระบุไว้ในอัลกุรอ่าน
"และขอพระองค์ทรงปรับปรุงแก้ไขลูกหลานและเชื้อสายของข้าพระองค์ให้อยู่ในความดีงามด้วยเถิด"
"และข้าพระองค์ขอต่อพระองค์ให้ทรงคุ้มครองนาง และลูกของนาง"
"โอ้พระเจ้าของเราขอพระองค์โปรดประทานคู่ครองของเราและลูกหลานของเราให้เป็นที่รื่นรมย์แก่สายตาของเรา"
"โอ้พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอพระองค์ทรงให้ข้าพระองค์และลูกหลานของข้าพระองค์เป็นผู้ดำรงละหมาด"
"โอ้พระเจ้าของเราโปรดให้เราทั้งสองเป็นผู้นอบน้อมต่อพระองค์ และโปรดให้มีขึ้นจากลูกหลานของเรา ซึ่งประชาชาติที่นอบน้อมต่อพระองค์ "
"โอ้พระเจ้าของข้าพระองค์ โปรดทรงประทานแก่ข้าพระองค์ซึ่งบุตรที่ดีคนหนึ่งจากพระองค์"
"และทรงให้ข้าพระองค์และลูกหลานของข้าพระองค์พ้นจากการบูชาเจว็ด"
หากเราได้ใคร่ครวญถึงอายาตต่างๆเหล่านี้ ตลอดจนดุอาให้บุตรหลาน จะทำให้เราทราบได้ว่าสาเหตุสำคัญที่สุดที่จะทำให้ลูกหลานของเราเป็นคนดี คือการหมั่นขอดุอาให้แก่พวกเขา
และจงระวังการยึดติดกับสื่อสมัยใหม่ชนิดต่างๆ ที่นำมาใช้ในการอบรมเลี้ยงดูลูก จนทำให้เราละเลยต่อสิ่งที่สำคัญที่สุดไปนั่นคือ
~การขอดุอาให้แก่พวกเขา~
และพึงรู้เถิดว่าการอบรมเลี้ยงดูลูกหลานคือหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ และเป็นภาระที่หนักอึ้ง ดังนั้นจงขอความช่วยเหลือจากอัลลอฮฺในการอบรมเลี้ยงดูลูกๆ เพราะพระองค์คือผู้ทรงช่วยเหลือที่ดีที่สุด
มีรายงานจากท่านนุมัยร์ ท่านได้กล่าวว่า: บรรดาชาวสะลัฟต่างพูดกันว่า :
“จรรยามารยาทนั้นมาจากพ่อแม่ ส่วนความดีงามมาจากอัลลอฮฺ ผู้ทรงอำนาจผู้ทรงสูงส่ง"
كتاب العيال لابن أبي الدنيا(329)
━─┉┈◈┈┉─━ •┈┈ ••••••✦✿✦•••••• ┈┈•