ทั้งปีมีคืนลัยละตุ้ลก็อดร์ อยู่ค่ำคืนหนึ่ง
วันละหนึ่งความคิด....แปลเรียบเรียง
ท่านร่อซู้ล ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า:
"ผู้ใดที่ลุกขึ้นยืนละะหมาดในคืนลัยละตุ้ลก็อดร์ ด้วยความศรัทธาและหวังในความโปรดปรานจากอัลลอฮฺ
สำหรับเขาจะได้รับการอภัยโทษ ในความผิดที่แล้วมา"
(บันทึกโดยอิมาม มุสลิม)
รายงานจากท่านหญิงอาอิชะฮฺ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮา ว่า :
“ท่านร่อซู้ล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จะขยันขันแข็ง อุตสาหะทุ่มเทในการทำอิบาดะฮฺ (เป็นพิเศษ)
ในช่วงสิบคืนสุดท้าย โดยที่ท่านมิได้ทุ่มเทเช่นนี้ในคืนอื่นๆ”
(บันทึกโดย อิมามมุสลิม)
- อิมาม อิบนิล ก็อยยิม ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ -
หากว่าทั้งปีมีคืนลัยละตุ้ลก็อดร์ อยู่ค่ำคืนหนึ่ง
แน่นอนว่า ฉันจะลุกขึ้น (ละหมาดในยามค่ำคืน) ตลอดทั้งปี เพื่อให้ได้พบกับค่ำคืนนั้น
จะเป็นอะไรไป กับเพียงแค่สิบคืน !!!
(บะดาอิอุ้ล ฟะวาอิด 1/55)
- ท่านอัฎเฎาะฮ้าก ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ -
ท่านคิดว่าผู้หญิงที่มีน้ำคาวปลา ผู้หญิงมีรอบเดือน คนเดินทางและคนนอนหลับ พวกเขาจะมีส่วนได้ใดๆ ในคืนลัยละตุ้ลก็อดร์หรือไม่ ?
( ท่านอัฎเฎาะฮ้าก ตอบว่า)
แน่นอน ไม่ว่าใครที่อัลลอฮฺทรงตอบรับการงานของเขา พระองค์จะทรงให้เขามีสิทธิ์ได้รับ คุณงามความดีในคืนลัยละตุ้ลก็อดร์ด้วยเช่นกัน
لطائف المعارف 442
-อิมาม อิบนิรอญับ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ-
พี่น้องที่รัก คนที่สมควรได้รับคุณงามความดีนั้น ขึ้นอยู่กับผลงานที่ถูกตอบรับ หาใช่ขึ้นอยู่กับความมานะพากเพียรไม่
และขึ้นอยู่กับคุณงามความดีของหัวใจ หาใช่การกระทำของร่างกายเพียงอย่างเดียวไม่
เป็นไปได้ว่าสิ่งที่ได้รับของผู้ลุกขึ้นยืนละหมาด อาจเป็นเพียงแค่การอดหลับอดนอนเท่านั้น
เพราะ ...
กี่มากน้อยมาแล้วที่ผู้ลุกขึ้นละหมาด ไม่ได้รับคุณงามความดีใดๆ
และกี่มากน้อยมาแล้วที่ผู้นอนหลับใหล กลับเป็นผู้ได้รับความเอ็นดูเมตตา หลับไปโดยที่หัวใจยังคงรำลึก
ขณะที่อีกคนลุกขึ้นยืนโดยที่หัวใจ ยังคงแข็งกร้าวหยาบช้า
- เชค สุลัยมาน อัรรุฮัยลีย์ ฮะฟิศ่อฮุ้ลลอฮฺ -
ไม่ถือเป็นแบบอย่างจากอัซซุนนะฮฺ และไม่นับเป็นความดีใดๆ สำหรับท่าน โอ้ผู้เป็นบ่าวของอัลลอฮฺ ในการที่ท่านจะทำให้สภาพของตัวเองในช่วงสิบคืนสุดท้ายนี้ เหมือนกับสภาพของท่านในวันอื่นๆ
จำเป็นที่ท่านจะต้องขยันขันแข็ง ต้องเพิ่มพูนความดี เพิ่งพูนการฏออะฮฺ หากช่วงที่ผ่านมาท่านสามารถจบอัลกุรอานได้ 1 จบ ท่านสมควรต้องอ่านอัลกุรอาน 2 จบ 3 จบ 4 จบ หรือ 5 จบ
ชาวสลัฟเคยจบอัลกุรอานถึง 20 จบด้วยกันในช่วงสิบคืนสุดท้าย อันเนื่องมาจากความขมักเขม้น ขยันขันแข็ง อย่างยิ่งยวดในการทำอิบาดะฮฺ
-ท่านยะฮฺยา อิบนิ มุอ๊าศ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ-
หยาดน้ำตาจะไม่เหือดแห้งหายไป เว้นแต่จะเป็นเพราะมีหัวใจที่หยาบกร้านแข็งกระด้าง
หัวใจจะไม่หยาบกร้านแข็งกระด้าง เว้นแต่จะเป็นเพราะความผิดบาปที่มีอยู่มากมาย
และความผิดจะไม่มีอยู่อย่างมากมาย เว้นแต่จะเป็นเพราะ มีข้อบกพร่องข้อผิดพลาดอยู่อย่างมากมาย
(شعب الإيمان ٩/٣٨٣)
-ท่านมาลิก อิบนิ ดีน้าร ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ-
"อัลลอฮุมม่ะ อันตะ อัศละฮฺตัศซอลิฮีน ฟะอัศลิฮฺนา ฮัตตา นะกูน่ะ ซอลิฮีน"
ข้าแต่อัลลอฮฺ พระองค์ท่านเท่านั้น ที่ทรงปรับปรุงเปลี่ยนแปลงบรรดาคนดีๆ
ขอพระองค์โปรดทรงปรับปรุงแก้ไขเหล่าข้าพระองค์ เพื่อที่เหล่าข้าพระองค์จะได้เป็นคนดีด้วยเถิด
- อิมาม อิบนิ รอญับ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ -
เมื่อสาเหตุแห่งการได้รับการอภัยโทษ ในเดือนรอมฎอนนี้มีอยู่มากมาย
ดังนั้น คนที่พลาดโอกาสจากการได้รับการอภัยในเดือนนี้ จึงถือเป็นคนตกอับ สุดอาภัพ (จากผลบุญ) อย่างแท้จริง
- อิมาม อิบนิ้ล ก็อยยิม ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ -
ไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะเจาะจงละหมาดในยามค่ำคืน (กิยาม) ในคืนใดคืนหนึ่งที่คิดว่าจะเป็นคืนลัยละตุ้ลก็อดรฺ
หากแต่สมควรที่เขาจะต้องพากเพียรพยายาม ขยันขันแข็ง (ทำอิบาดะฮฺ) ตลอดสิบคืนสุดท้าย
เช่นนี้แหละคือแนวทางของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม
-อิมาม อิบนุ้ล เญาซีย์ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ-
สมควรให้การขยันขันแข็งในการทำอิบาดะฮฺ ในช่วงท้ายของเดือนนี้ เข้มข้นมากกว่าช่วงต้นเดือน อันเนื่องจากสองประการด้วยกัน คือ
♥ ประการแรก เนื่องเพราะความประเสริฐของสิบคืนนี้ และเพราะมีการแสวงหาค่ำคืนลัยละตุ้ลก็อดร์
♥ ประการที่สอง คือ เนื่องเพราะเป็นการอำลาเดือนนี้ เพราะไม่อาจรู้ได้เลยว่า จะได้พบเจอรอมฎอนเหมือนเช่นนี้อีกหรือไม่
&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&