ความสวยงามของสตรี !
เพจบันทึกฮัก...แปลเรียบเรียง
ชัยคฺ รุสลาน -ฮะฟิซ่อฮุลลอฮฺ-
"สตรีมุสลิมะฮฺ เธอจงรีบกลับเนื้อกลับตัวจากความผิดต่างๆและการฝ่าฝืน
จงเปิดหน้าชีวิตใหม่ของเธอ เพียรพยายามประดับประดาชีวิตนั้นด้วยการเชื่อฟังอัลลอฮฺ ทำให้ชีวิตสวยงาม ด้วยการเข้าหาพระองค์ด้วยความจริงใจ
จงตรวจสอบตัวเองก่อนที่จะถูกสอบสวน ในวันที่ทรัพย์สินและลูกหลานไม่สามารถเอื้อประโยชน์ใดๆแก่เธอได้ นอกจากผู้ที่เข้าหาอัลลอฮฺด้วยหัวใจที่ดีงามเพียงเท่านั้น
จงนึกสภาพของเธอเมื่อเรือนร่างของเธอถูกชำระล้างด้วยใบพุทราและเครื่องหอม และถูกห่อด้วยผ้ากะฝั่น เพราะนั่นคือสภาพสุดท้ายของเธอ ขณะที่เธอกำลังลาจากความสวยงามของดุนยา"
ข้อคิดและข้อเตือนใจ
เรื่องราวนี้เกิดขึ้นกับตาบิอีย์ท่านหนึ่ง คือ ท่าน อุบัยดฺ อิบนิ อุมัยรฺ อบู อาศิม อัลมักกีย์ ผู้ที่มีความเคร่งครัดในศาสนาและมีความจำเป็นเลิศ ท่านเคยเป็นผู้พิพากษาของชาวมักกะฮฺในสมัยนั้น และท่านคือหนึ่งในตาบิอีนอาวุโส
"ครั้งหนึ่งมีสตรีผู้เลอโฉมนางหนึ่งซึ่งเป็นชาวมักกะฮฺ และในขณะนั้นนางก็มีสามีแล้ว อยู่มาวันหนึ่งนางได้ส่องกระจกมองใบหน้าของตัวเอง และได้ถามสามีของนางว่า ท่านคิดว่าจะมีใครที่เห็นใบหน้าของฉันแล้วจะไม่เกิดฟิตนะห์ขึ้นกับเขามั้ย?
เขาตอบว่า: มีสิ
นางถามว่า: ใครกัน?
เขาตอบว่า: ก็ท่าน อุบัยดฺ อิบนิ อุมัยรฺ ไง
นางถามว่า: ได้โปรดอนุญาติให้ฉัน ทำให้เกิดฟิตนะฮฺขึ้นกับเขาเถิด
เขาตอบว่า: ได้สิ ฉันอนุญาติ
แล้วนางก็ไปหาท่านอุบัยดฺ ทำทีว่าจะมาขอคำวินิจฉัยปัญหาศาสนา จนได้อยู่กับเขาสองต่อสองในมุมหนึ่งของมัสยิดฮะรอม เมื่อนั้นนางก็ได้เปิดใบหน้าของนางที่งดงามดั่งดวงจันทร์
ท่านอุบัยดฺจึงบอกนางว่า: โอ้บ่าวของอัลลอฮฺ จงปกปิดใบหน้าของเธอเสีย
นางตอบว่า: ฉันต้องการให้เกิดฟิตนะฮฺกับท่าน ได้โปรดมองใบหน้าของฉันเถิด
ท่านตอบว่า: ฉันจะถามบางอย่างกับเธอ หากเธอพูดความจริง เมื่อนั้นฉันจะมองใบหน้าของเธอ
นางตอบว่า: ไม่ว่าท่านจะถามอะไร ฉันจะตอบแต่ความจริงเท่านั้น
เขาถามว่า: จงบอกฉันหน่อยว่า หากมลาอิกะฮฺผู้ดึงวิญญาณมาหาเธอ เพื่อจะปลิดวิญญานของเธอ เธอพอใจมั้ยที่จะให้ฉันกระทำตามความต้องการของเธอ?
นางตอบว่า: โอ้อัลลอฮฺ ฉันไม่ต้องการเช่นนั้น
เขาตอบว่า: เธอพูดจริงแล้ว
เขาถามต่อว่า: หากเธออยู่ในหลุมฝังศพ แล้วเธอถูกจับให้ลุกนั่ง เพื่อที่จะทำการสอบสวน เธอพอใจมั้ยที่จะให้ฉันกระทำตามความต้องการของเธอ?
นางตอบว่า: โอ้อัลลอฮฺ ฉันไม่ต้องการเช่นนั้น
เขาตอบว่า: เธอพูดจริงแล้ว
เขาจึงถามต่อว่า: หากมนุษย์ทั้งหมดถูกมอบบันทึกให้แก่พวกเขา ในขณะที่ตัวเธอเองก็ยังไม่รู้ว่าเธอจะได้รับบัญชีด้วยมือขวาหรือมือซ้าย เธอจะพอใจมั้ยที่จะให้ฉันกระทำตามความต้องการของเธอ?
นางตอบว่า: โอ้อัลลอฮฺ ฉันไม่ต้องการเช่นนั้น
เขาตอบว่า: เธอพูดจริงแล้ว
เขาจึงถามต่อว่า: หากตาชั่งถูกนำมาวางในวันกิยามะฮฺ และมลาอิกะฮฺได้นำตัวเธอออกมา โดยที่เธอยังไม่รู้เลยว่าตาชั่งของเธอจะเบาหรือจะหนัก เธอพอใจมั้ยที่จะให้ฉันกระทำตามความต้องการของเธอ?
นางตอบว่า: โอ้อัลลอฮฺ ฉันไม่ต้องการเช่นนั้น
เขาตอบว่า: เธอพูดจริงแล้ว
เขาถามว่า: หากเธอกำลังยืนอยู่ต่อหน้าอัลลอฮฺเพื่อการไตร่สวน เธอพอใจมั้ยที่จะให้ฉันกระทำตามความต้องการของเธอ?
นางตอบว่า: โอ้อัลลอฮฺ ฉันไม่ต้องการเช่นนั้น
เขาตอบว่า: เธอพูดจริงแล้ว
ท่านอุบัยดฺจึงกล่าวกับนางว่า: เธอจงยำเกรงต่ออัลลอฮฺเถิด โอ้ผู้เป็นบ่าวของพระองค์ เพราะพระองค์ทรงประทานความโปรดปรานแก่เธอ ทรงมอบสิ่งที่ดีให้แก่เธอ
เมื่อนั้นนางจึงได้กลับไปหาสามีของนาง
สามีจึงได้ถามนางว่า: เธอไปทำอะไรมาบ้างล่ะ?
นางตอบว่า: ท่านยังไม่มีเสบียงอะไรติดตัว และพวกเราต่างก็ยังไม่มีเสบียงใดๆเลย
หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นางจึงมุ่งมั่นกับการละหมาด การถือศีลอด และทำอิบาดะฮฺ
จนกระทั่งสามีของนางได้กล่าวว่า:
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับฉัน ท่านอุบัยดฺ อิบนิ อุมัยรฺ เขาทำอะไรลงไป ถึงทำให้ภรรยาของฉันกระทำกับฉันเยี่ยงนี้
เพราะทุกคืนที่ผ่านมานางเคยเป็นดั่งเจ้าสาวของฉัน แต่เขาทำให้นางกลายเป็นนักบวช (เป็นผู้ที่เคร่งครัดในการปฏิบัติอิบาดะฮฺในยามค่ำคืน)"
« ذكر هذه القصة الإمام إبن القيم في - روضة المحبين ونزهة المشتاقين - صفحة 340 »
« وذكرها الإمام بن الجوزي -ذم الهوى صفحة 265 ، 266- »