ถือศีลอดอย่างศรัทธามั่น
วันละหนึ่งความคิด....แปลเรียบเรียง
ท่านร่อซู้ล ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัมกล่าวว่า:
"ผู้ใดที่ถือศีลอดในเดือนรอมฎอน ด้วยความศรัทธาและหวังในความโปรดปราน อัลลอฮฺจะทรงอภัยโทษให้แก่เขา ในความผิดที่ผ่านพ้นมา"
(บันทึกโดยอิมามอัลบุคอรีย์)
- ชัยคุลอิสลาม อิบนิ ตัยมียะฮฺ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ -
ถือศีลอดอย่าง อีมานัน (ศรัทธามั่น) และเอี๊ยะฮฺติซาบัน (หวังในความโปรดปราน )เป็นอย่างไร ?
ศรัทธามั่น หมายถึง เชื่อว่าอัลลอฮฺ ตะอาลา ทรงกำหนดให้การถือศีลอดนี้ เป็นบทบัญญัติ เป็นข้อบังคับที่จำเป็นต้องปฏิบัติ ทรงพอพระทัยในอิบาดะฮฺนี้
และทรงมีรับสั่ง (ให้ผู้เป็นบ่าวถือศีลอด)หวังในความโปรดปราน หมายถึง การที่บ่าวถือศีลอดด้วยความบริสุทธิ์ใจ และหวังในภาคผลตอบแทนของการถือศีลอด
(ญามิอุ้ล มซาอิ้ล 1/161)
- เชค อะฮฺมัด อันนัจมีย์ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ -
ส่วนหนึ่งจากประโยชน์ของการ รับประทานอาหารสุโฮร ก็คือ
- การตื่นขึ้นมาในช่วงเวลาที่ดุอาอฺจะถูกตอบรับ อันเป็นเวลาที่พระผู้เป็นเจ้าเสด็จลงสู่ฟากฟ้าดุนยา โดยที่พระองค์จะตรัสว่า
“มีผู้วิงวอนขออยู่บ้างไหม ข้าจะให้แก่เขา มีผู้ขออภัยโทษอยู่บ้างไหม ข้าจะยกโทษให้เขา”
- บรรดามลาอิกะฮฺจะขอพรให้แก่ผู้รับประทานอาหารสุโฮร เพราะถือเป็นผู้ที่ปฏิบัติในสิ่งที่เป็นแบบฉบับจากท่านร่อซู้ล ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม
- การได้บริจาคทานในช่วงเวลานี้ แก่ผู้ขัดสนซึ่งไม่มีอะไร จะรับประทานเป็นอาหารสุโฮร
- เชค อับดุลอาซี้ซ บิน บ๊าศ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ -
คนที่ถูกขัดขวางไม่ให้ได้รับผลบุญเท่านั้นที่จะหมดสิทธิ์รับอะซาน ! เพราะการกล่าวถ้อยคำตามหลังมุอัซซิน (ผู้อะซาน) นั้น มีความประเสริฐอันยิ่งใหญ่ถึง 4 ประการด้วยกันคือ
- เป็นการลบล้างความผิด
- ได้เข้าสวรรค์
- ได้รับชัยชนะด้วยการได้รับการชะฟาอะฮฺ (ขออุทธรณ์โทษ) จากท่านร่อซู้ล صلى الله عليه وسلم
- การดุอาอฺหลังจากอะซานเสร็จแล้วเป็นดุอาอฺที่ถูกตอบรับ (ระหว่างอะซานกับอิกอมะฮฺ)
ท่าน อิบนิ ญะรี้ร กล่าวว่า : บรรพชนรุ่นแรก (สลัฟ) จะคอยสดับฟังมุอัซซินอย่างตั้งใจ เฉกเช่นที่พวกเขาสดับฟังอัลกุรอาน
[فتح الباري(22)]|
-เชค อิบนิ อุซัยมีน ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ -
ช่วงเวลาที่ละศีลอด เป็นเวลาที่ดุอาอฺจะถูกตอบรับ เพราะช่วงเวลานั้นอยู่ในตอนท้ายของการทำอิบาดะฮฺ
และเพราะส่วนมากแล้ว คนเรามักมีสภาพจิตใจที่อ่อนแอ ขณะที่กำลังจะละศีลอด
ท่านร่อซู้ล ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า:
“ไม่มีสิ่งใดอีกแล้วที่จะเป็นเกียรติแด่อัลลอฮฺ ยิ่งไปกว่า การวิงวอนขอดุอาอฺ”
(บันทึกโดย อิมามอัตติรมีซีย์)
ท่านร่อซู้ล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า :
«إِنَّ للهِ عُتَقَاءَ فِي كُلِّ يَوْمٍ وَلَيْلَةٍ، لِكُلِّ عَبْدٍ مِنْهُمْ دَعْوَةٌ مُسْتَجَابَةٌ»
“แท้จริงแล้วในแต่ละวันแต่ละคืนนั้น ย่อมมีผู้ที่อัลลอฮฺจะทรงปลดปล่อยเขาให้รอดพ้นจากไฟนรก
และสำหรับบ่าวแต่ละคนนั้น ล้วนมีดุอาอฺที่ย่อมจะถูกตอบรับอย่างแน่นอน”
(บันทึกโดย อิมามอะฮฺมัด อิมามอัลอัลบานีย์ระบุว่าศ่อเฮี๊ยะฮฺ)
ท่านร่อซู้ล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า :
لكل مُسلمٍ دعوةٌ مُستجابةٌ يدعُو بها في رمضان».
“ในเดือนรอมฎอน มุสลิมทุกคนล้วนแล้วแต่มีดุอาอฺที่เขาวิงวอนขอ ซึ่งจะถูกตอบรับ”
(บันทึกโดยอิมาม อะฮฺมัด)
ท่านร่อซู้ล ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า:
"พวกท่านจงอย่าขอดุอาอฺให้กับตัวเอง นอกเสียจากจะขอแต่สิ่งที่ดีเท่านั้น
เพราะแท้จริง บรรดามลาอิกะฮฺ จะกล่าว "อามีน" (ขอพระองค์ทรงตอบรับด้วยเถิด)ในสิ่งที่พวกท่านกล่าวกัน"
(บันทึกโดย อิมามมุสลิม)
ชายคนหนึ่งมาหาท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม และกล่าวว่า : "ท่านร่อซูลุ้ลลอฮฺครับ ดุอาอฺใดกันที่ประเสริฐที่สุดครับ?"
ท่านตอบว่า : " จงขอต่ออัลลอฮฺให้ได้รับการอภัย และความรอดพ้นปลอดภัยทั้งในดุนยาและอาคิเราะฮฺเถิด"
จากนั้นชายผู้นี้ก็ได้มาหาท่านร่อซูลุ้ลลอฮฺอีกในวันถัดมาและกล่าวว่า : "ท่านนบีของอัลลอฮฺครับ ดุอาอฺใดกันที่ประเสริฐที่สุดครับ?"
" จงขอต่ออัลลอฮฺให้ได้รับการอภัย และความรอดพ้นปลอดภัยทั้งในดุนยาและอาคิเราะฮฺเถิด
เพราะเมื่อท่านได้รับความรอดพ้นปลอดภัย ทั้งในดุนยาและอาคิเราะฮฺแล้ว แน่นอน ท่านย่อมได้รับชัยชนะแล้ว"
(บันทึกโดย อิมามอัตติรมีซีย์ 3512)