ค น แ ป ล ก ห น้ า
วันละหนึ่งความคิด....แปลเรียบเรียง
ท่านร่อซู้ล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า :
“อิสลามเริ่มต้นอย่างคนแปลกหน้า และจะกลับมาเป็นเช่นคนแปลกหน้าเหมือนครั้งที่เริ่มต้น ดังนั้น ขอความดีงามอันมากมาย จงประสบแก่บรรดาคนแปลกหน้าเถิด”
(บันทึกโดย อิมาม มุสลิม)
ท่านร่อซู้ล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า :"ขอแสดงความยินดี กับบรรดาคนแปลกหน้า"
มีผู้ถามว่า : "โอ้ ร่อซูลุ้ลลอฮฺครับ ใครกันหรือคือคนแปลกหน้า?"
ท่านตอบว่า :" คือคนหมู่น้อยที่เป็นคนดี ที่อยู่กับคนหมู่มากที่ไม่ดี คนที่ต่อต้านฝ่าฝืนพวกเขา มีจำนวนมากกว่าคนที่เชื่อฟังทำตามพวกเขา"
(ซิลซิละฮฺ อัศศ่อฮีฮะฮฺ 1619)
บางรายงานใช้สำนวนว่า "คือคนที่ปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้น ขณะที่ผู้คนทั้งหลายต่างเสื่อมเสีย"
- ท่านอาลี บิน อบีฏอลิบ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮฺ -
พึงทำความรู้จักกับสัจธรรมความถูกต้องเถิด แล้วท่านจะรู้จักกับผู้ที่อยู่ในสัจธรรม
ส่วนคนที่อยู่ในความสับสน เคลือบแคลงสงสัย เรื่องราวที่ก้ำกึ่ง คลางแคลงใจทั้งหลาย ล้วนแต่จะคอยรุมเร้า
และหากว่า ทุกวันนี้คนส่วนมากอยู่บนความจริง ความถูกต้องแล้ว อิสลามก็คงไม่มีทางกลายเป็นคนแปลกหน้าไปได้
ขอสาบานต่ออัลลอฮฺ หากแต่ทุกวันนี้ อิสลามอยู่ในจุดสูงสุดของการเป็นสิ่งประหลาดแปลกปลอม
[ الدرر السنية الجزء 10 - 401/400 ]
- อิมาม อิบนิล ก็อยยิม อัลเญาซียะฮฺ -
ยิ่งอิสลามทวีความแปลกแยกมากขึ้นเพียงใด (แปลกหน้าในสายตาคนทั่วไป) ผู้รู้จะลดเหลือน้อยลง และคนอวิชาจะยิ่งเพิ่มมากขึ้น
(ซาดุ้ลมอ๊าด 3/443)
- เชค อิบนิ อุซัยมีน ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ -
ผู้เป็นบ่าวที่รอดพ้นปลอดภัย (จากการถูกลงโทษ)นั้นช่างน้อยนิดเหลือเกิน
ดังนั้น ท่านพึงสำรวจตรวจสอบตัวท่านเองเถิด ว่าท่านอยู่ในหมู่คนจำนวนน้อยเหล่านั้น หรืออยู่ในคนหมู่มาก
(ตัฟซีรซูเราะฮฺ อันนิซาอฺ 491)
ท่านร่อซู้ล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า :
“ แท้จริง ภายหลังจากพวกท่านนั้น จะมีช่วงเวลาแห่งความอดทนอดกลั้น สำหรับผู้ที่ยืนหยัดในสิ่งที่พวกท่านดำรงอยู่ ณ ช่วงเวลานั้น* จะได้ภาคผลเท่ากับจำนวน 50 คนจากหมู่พวกท่าน
บรรดาศ่อฮาบะฮฺถามว่า : ท่านนบีของอัลลอฮฺครับ จากหมู่พวกเขาเองมิใช่หรือครับ?
ท่านตอบว่า : เปล่าเลย จากหมู่พวกท่านต่างหาก”
(อิมาม อัลอัลบานีย์ระบุว่า ศ่อฮี้ฮฺ)
*อีกรายงานหนึ่ง ระบุว่า "อดทนประหนึ่งกำถ่านไฟร้อนไว้ในมือ"
- เชค มุฮัมมัด อิบนิ อุซัยมีน ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ -
ช่วงเวลาแห่งการอดทนอดกลั้น มนุษย์จะอยู่ในช่วงเวลานั้นเช่นคนแปลกหน้า เขาจะไม่พบคนที่คอยช่วยเหลือคอยสนับสนุนเขา
ยิ่งไปกว่านั้น เขาอาจจะพบกับคนที่เยาะเย้ยถากถาง ดูหมิ่นดูแคลนเขา สร้างความอึดอัดลำบากใจ และทำร้ายรังแกเขา
ดังนั้น อันเนื่องจากความทุกข์ยากที่เขาต้องประสบนี้เอง ผลตอบแทน ( ที่เขาจะได้รับ) จึงทบเท่าทวีคูณ
- อิมาม อิบนิ รอญับ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ -
จงวอนขอการยืนหยัดมั่นคงอยู่ในศาสนา จนกว่าชีวิตจะหาไม่
{ إِنَّ الَّذِينَ قَالُوا رَبُّنَا اللَّهُ ثُمَّ اسْـتَقَامُوا}
"แท้จริงบรรดาผู้ที่กล่าวว่า พระเจ้าของเราคืออัลลอฮฺ หลังจากนั้น พวกเขาก็ยืนหยัด"
ผู้ที่กล่าวว่า " พระเจ้าของเราคืออัลลอฮฺ" นั้นมีจำนวนมาก แต่บรรดาผู้ที่ยืนหยัดอย่างแท้จริง มีจำนวนน้อย เพราะการยืนหยัดและการมั่นคงนั้น ผู้เป็นบ่าวไม่สามารถให้มีขึ้นได้ด้วยตัวของเขาเอง ด้วยเหตุนี้ จึงต้องอาศัยการวิงวอนขอต่อพระเจ้าของเขา
"مجموع الرسائل" (٣٣٩/١)
- อัลอัลลามะฮฺ อัสสะอฺดีย์ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ -
ผู้เป็นบ่าวสมควรต้องพร่ำขอต่อพระเจ้าของเขาอย่างสม่ำเสมอ ให้อีหม่านของเขามั่นคง และมีจุดจบที่งดงาม
(ตัยซีรุ้ล ละฏีฟิ้ลมันนาน 286)
- เชค อิบนิ อุซัยมีน ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ -
ฉันขอกำชับสั่งเสียตัวของฉันเองและพวกท่านทั้งหลาย ให้พวกเราวิงวอนขอการมีอีหม่านที่มั่นคงอยู่เสมอ
และท่านทั้งหลายจงวิตกหวั่นเกรงเอาไว้ให้ดี เพราะใต้ฝ่าเท้าของพวกท่าน มีพื้นที่ที่ไม่ปลอดภัย (ที่ๆ เท้าไม่อาจยืนอยู่ได้)
ดังนั้น หากอัลลอฮฺ عز وجل ไม่ทรงทำให้พวกท่านมั่นคงแล้วละก็ พวกท่านย่อมตกไปสู่ความพินาศอย่างแน่นอน
- ท่าน อบุล อาลิยะฮฺ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ –
จะมียุคสมัยหนึ่งมายังผู้คน หัวใจของพวกเขาจะร้างราว่างเปล่าจากอัลกุรอาน พวกเขาจะไม่ได้พบกับรสชาติความหวานหอมใดๆ
หากพวกเขาขาดตกบกพร่องในคำบัญชาใช้ พวกเขาก็จะกล่าวกันว่า แท้จริง อัลลอฮฺนั้น คือผู้ทรงอภัยอย่างมากมาย คือผู้ทรงเอ็นดูเมตตาเสมอ
และหากพวกเขาทำในสิ่งที่ถูกบัญชาห้ามปรามไว้ พวกเขาก็จะกล่าวกันว่า เราจะถูกยกโทษให้ เพราะเราไม่ได้ตั้งสิ่งใดเป็นภาคีกับอัลลอฮฺ กิจการทั้งหมดของพวกเขา เป็นเพียงความละโมบปรารถนาที่เลื่อนลอย หาได้มีความจริงใจใดๆ เลย (เบาความกับคำสั่งใช้และคำสั่งห้ามของอัลลอฮฺทั้งๆ ที่ทราบดี)
$#@%&$#@%&$#@%&$#@%&$#@%&$#@%&$#@%&$#@%&$#@%&