หนทางในการต่อสู้
โดย... อาจารย์ อติฟ รอดเทียน
ท่านพี่น้องผู้มีศรัทธาใน เอกองค์อัลลอฮฺ الله سبحانه وتعالى ที่รักและเคารพทุกท่าน الحمدلله ขอความรักความสุขสงบสันติความจำเริญจาก الله سبحانه وتعالى จงประสบแด่ทุกท่าน ก่อนสิ่งอื่นใดข้าพเจ้าใคร่ขอตักเตือนตัวข้าพเจ้าเองเป็นสำคัญและท่านพี่น้องทั้งหลาย ให้ตั้งตนอยู่บนหลักการตักวา تَقْوَى หลักการยำเกรงต่อ الله سبحانه وتعالى ยอมจำนนประพฤติปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดในบรรดาสิ่งที่พระองค์ทรงบัญญัติใช้ ละเว้นหลีกเลี่ยงอย่างห่างไกลจากบรรดาสิ่งที่พระองค์ทรงบัญญัติห้าม ซึ่งการตักวา تَقْوَى นี้เอง จะเป็นตัวชี้วัดสำคัญ กำกับความคิด คำพูด และการกระทำของเราให้อยู่ในหนทางของ อัลอิสลาม อันเที่ยงตรงของพระองค์ ในวันที่เขาจะหวนกลับคืนสู่พระเมตตาของ الله سبحانه وتعالى
ท่านพี่น้องผู้มีศรัทธาที่รัก الحمدلله ส่วนหนึ่งจากสิ่งที่ الله سبحانه وتعالى ทรงบัญญัติใช้กับเราทุกคนในฐานะที่เป็นบ่าวผู้ศรัทธา ให้ปฏิบัติตาม และยืนหยัดอยู่ในจุดยืนที่สำคัญ นั่นก็คือ การที่เราท่านทั้งหลายนั้นจะต้องมีความรักในบรรดาบุคคลพี่น้องร่วมศรัทธา الله سبحانه وتعالى ได้ทรงตรัสไว้ใน ซูเราะห์ อัล หุญุรอต อายะห์ ที่ 10 ว่า
49/10 تُرْحَمُونَ لَعَلَّكُمْ وَاتَّقُوااللَّهَۚأَخَوَيْكُمْ فَأَصْلِحُوابَيْنَ إِخْوَةٌ إِنَّمَاالْمُؤْمِنُونَ
“แท้จริงบรรดาผู้ศรัทธานั้นเป็นพี่น้องกัน นั่นก็หมายความว่าบรรดามุอฺมินผู้ศรัทธานั้น ไม่ใช่อื่นใดเลย นอกเสียจากเป็นพี่น้องกัน “
ความเป็นพี่น้องที่แท้จริงในที่นี้ก็คือ เป็นพี่น้องร่วมศรัทธาเดียวกัน ถึงแม้ว่าจะไม่ได้คลานตามกันมา ไม่ได้มีความเกี่ยวพันกันในเรื่องเชื้อสาย ไม่ได้มีเลือดเนื้อเชื้อไขเดียวกันก็ตาม แต่แน่นอนหากว่าเรามีศรัทธาร่วมกันอย่างถูกต้อง ยึดมั่นปฏิบัติในวิถีทางเดียวกันแล้วนั้น เราย่อมได้ชื่อว่าเป็น إِخْوَةٌเป็นพี่น้องร่วมศรัทธาดังนั้นหน้าที่ของผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นพี่น้องกันนั้น الله سبحانه وتعالى ได้ทรงกำชับเอาไว้ในอายะห์ข้างต้นอีกว่า
فَأَصْلِحُوابَيْنَ أَخَوَيْكُمْ
“ดังนั้นพวกเจ้าจงไกล่เกลี่ยประนีประนอมกันระหว่างพี่น้องทั้งสองฝ่ายของพวกท่านทั้งหลาย”
และในตอนท้ายของอายะห์ الله سبحانه وتعالى
ได้ทรงเน้นย้ำไว้ว่า تُرْحَمُونَ لَعَلَّكُمْ وَاتَّقُوااللَّهَ
และท่านทั้งหลายจงมีความยำเกรงต่อ الله سبحانه وتعالى เถิด
หวังว่าท่านทั้งหลายจะได้รับความเมตตาจาก الله سبحانه وتعالى”
ท่านพี่น้องผู้มีศรัทธาที่รัก ได้มีหะดีษอีกหลายหลายหะดีษที่ได้กล่าวถึงความเป็นพี่น้องร่วมศรัทธา ดังที่มีรายงานโดยอิหม่ามบุคอรีย์ และอิหม่ามมุสลิม รายงานจากท่านนัวอฺมาน อิบนิบะชีร ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุมา เล่าว่า ท่านศาสดา ซ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ท่านนบีسيدنا محمد ﷺ ได้กล่าวว่า
مَثَلُ المُؤْمِنينَ في تَوَادِّهِمْ وتَرَاحُمهمْ وَتَعَاطُفِهمْ ، مَثَلُ الجَسَدِ إِذَا اشْتَكَى مِنْهُ عُضْوٌ تَدَاعَى لَهُ سَائِرُ الجَسَدِ بِالسَّهَرِ والحُمَّى
“เปรียบเทียบบรรดาผู้ศรัทธาในด้านความรัก ความเอ็นดูเมตตา และการให้ความช่วยเหลือเกื้อกูลของพวกเขาที่มีต่อกันนั้น เหมือนกับร่างกายเดียวกัน กล่าวคือ เมื่ออวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งเจ็บปวด อวัยวะส่วนอื่นๆ ของร่างกายก็จะเจ็บปวดไปด้วยทั่วร่างกาย ทำให้นอนไม่หลับ เกิดอาการไข้”
และหะดีษ รายงานโดยอิหม่ามบุคอรีย์ รายงานจากท่านอบีมูซาอัลอัชอะรีย์ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ เล่าว่า ท่านนบีسيدنا محمد ﷺ ได้กล่าวว่า
"الْمُؤْمِنُلِلْمُؤْمِنِكَالْبُنْيَانِيَشُدُّبعضُهبَعْضًا
“ผู้ศรัทธากับผู้ศรัทธานั้น เปรียบดังเช่น อาคารที่บางส่วนของมันยึดติดกับอีกบางส่วน”
ท่านพี่น้องผู้มีศรัทธาที่รัก ดังนั้นแล้วคนเป็นพี่น้องกันย่อมมีความรักใคร่ต่อกัน เอ็นดูเมตตาต่อกัน ช่วยแหลือเกื้อกูลต่อกันและให้ความช่วยเหลือเมื่อพี่น้องเดือดร้อน ลำบาก นี่คือความเป็นพี่น้องต่อกัน อาคารหลังเดียวกันองค์ประกอบต่างๆย่อมคอยค้ำจุนซึ่งกันและกัน หากส่วนหนึ่งส่วนใดเสียหาย ชำรุด ย่อมส่งผลกระไปยังส่วนอื่นๆของอาคารเช่นกัน
ท่านพี่น้องผู้มีศรัทธาที่รัก ในขณะที่เราท่านทั้งหลายกำลังสุข สบาย กินอิ่ม นอนหลับ แต่หากเราท่านทั้งหลายได้ติดตามข่าวสารต่างๆ ในช่วงนี้ จะพบว่าในขณะนี้ พี่น้องผู้ศรัทธาของเราในอีกหลายพื้นที่ กำลังถูกทดสอบอย่างหนัก โดยเฉพาะพี่น้องในประเทศปาเลสไตน์ที่กำลังถูกรุกราน ถูกอธรรม โดนข่มเหงอยู่ตลอดเวลา ถูกปิดล้อมในพื้นที่อย่างสมบูรณ์ ถูกปิดกั้นพรมแดน เหล่าเด็กๆ เยาวชนถูกลิดรอนสิทธิ บรรดาสตรีถูกทารุณ ผู้คนถูกฆ่าตายในทุกวัน
พวกเราละหมาด ฟัรดู กันวันละ 5 เวลา แต่ที่นั่นต้องละหมาด ญะนาซะห์ เพิ่มอีกในทุกๆ วัน มิหนำซ้ำผู้คนยังต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างยากลำบาก ไร้อิสระ ขาดแคลนอาหารและเครื่องดื่ม ไฟฟ้าถูกตัด ขาดแคลนน้ำประปา โรงเรียนกลายเป็นสถานที่หลบภัย โรงพยาบาลขาดเครื่องมือ เครื่องใช้ โดยเฉพาะในเมือง ฆอซซะห์ หรือฉนวน กาซ่า ที่สภาพความเป็นอยู่ภายใน ดังที่ทั่วโลกได้ให้สมญาว่าเป็น “เรือนจำเปิด” ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ซึ่งแน่นอนเราท่านทั้งหลายอาจจะไม่มีความสามารถที่จะเข้าไปช่วยเหลืออะไรพวกเขาได้มากนัก แต่การช่วยเหลือของเราท่านทั้งหลายต่อพี่น้องมุสลิมผู้ศรัทธาที่กำลังถูกทดสอบอยู่นั้น สามารถทำได้โดยการขอ ดุอาอฺ ซึ่งนับว่าเป็นพื้นฐานจำเป็นที่เราท่านทั้งหลายจะต้องทำ โดยที่เราสามารถจะทำได้ในทุกที่ ทุกเวลา เป็นการแสดงออกถึงความห่วงใย ความรักที่มีต่อพี่น้องมุสลิมร่วมศรัทธา
ท่านพี่น้องผู้มีศรัทธาที่รักบทพิสูจน์ความจริงจากประวัติศาสตร์ที่ถูกจารึก จากบันทึกเรื่องราวของการต่อสู้ ตั้งแต่อดีต จนกระทั่งปัจจุบัน สงครามทุกครั้ง มุสลิมไม่เคยมีอาวุธที่ทันสมัยมากกว่าศัตรูเลย มิหนำซ้ำยังมีอาวุธที่ด้อยกว่าทุกครั้ง และจำนวนนักรบที่มีปริมาณน้อยกว่า ตั้งแต่สมัย ท่านนบีسيدنا محمد ﷺ สมัยของบรรดา คอลีฟะฮฺ สมัยบรรดา ศอฮาบะฮฺ จนหลังจากที่อิสลามได้เผยแพร่ไปในหลายประเทศ จวบจนกระทั่งปัจจุบัน ดังที่เห็นได้ในปัจจุบันคือ พี่น้องชาวปาเลสไตน์ การยืนหยัดต่อสู้กับกลุ่มชนที่เลวร้ายที่สุด ครอบครองอาวุธร้ายแรงมากที่สุด และควบคุมเศรษฐกิจทั้งหมดในโลกนี้ นั่นก็คือ ชนชาติ ยิว
สิ่งหนึ่งที่ชาวปาเลสไตน์ได้ยืนหยัดต่อสู้กับยิว ที่มองดูแล้วประชาคมโลกต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า พวกเขาต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน ไม่มีทางชนะได้ แต่ทำไม ! ชนกลุ่มเล็กๆในประเทศปาเลสไตน์ ที่มีความแตกแยกในรัฐบาล และส่วนหนึ่งจากพวกเขา ได้ถูกยิวควบคุมไว้แล้ว แต่ยิวกลับไม่สามารถจะขับไล่พวกเขาได้ แม้จะทรมานพวกเขาอย่างโหดร้ายทารุณ และไร้ซึ่งมนุษยธรรมเพียงใดก็ตาม
เพราะพี่น้องชาวปาเลสไตน์นั้นมีหลักศรัทธาที่มั่นคง ยึดหลักการอิสลามอย่างเหนียวแน่น ทำให้ไม่มีใครสามารถจะทำอะไรพวกเขาได้ ไม่สามารถเข้าครอบครองพื้นที่ของชาวมุสลิมได้อย่างเบ็ดเสร็จ แม้ว่าพวกเขาจะมีเพียงปืนไม่กี่กระบอก มีด ไม้ หรือมีเพียง "ก้อนหิน" ที่เป็นอาวุธ
ท่านพี่น้องผู้มีศรัทธาที่รัก อาวุธของมุสลิม คงไม่ใช่เพียง "ก้อนหิน" หรืออาวุธ นิวเคลียร์ ที่ร้ายแรงที่โฆษณาว่าจะทำลายโลกทั้งโลก และไม่ใช่แค่การต่อต้านสินค้าไปในแต่ละวัน หรือไม่ใช่แค่การประท้วงเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม โดยไร้แรงกระเพื่อมหรือแรงกดดันใดๆ ต่ออิสราเอล หรือพวกยิว ความยุติธรรมไม่ได้อยู่ในมือของมนุษย์คนใด ไม่ได้สถาบันไหน ไม่ได้อยู่ที่สหประชาชาติ แต่ความยุติธรรมนั้นอยู่ที่ الله سبحانه وتعالى เท่านั้น
ดังนั้นอาวุธของมุสลิมที่จะทำให้พวกเราชนะต่อมวลหมู่ศัตรูอย่างถาวรและตลอดกาล คงจะเป็นอะไรไม่ได้ นอกจากคำบัญชาจาก الله سبحانه وتعالى คำสั่งที่บอกถึงแผนการ การต่อสู้ วิธีการที่แยบยลที่พระองค์ให้มุสลิมนำมาใช้ในการต่อสู้กับทุกสิ่ง โดยบอกผ่านมาทาง ท่านนบีسيدنا محمد ﷺ แผนการ วิธีการ วิธีใช้ วิธีปฏิบัติ วิธีต่อสู้ และการจัดการกับศัตรู มีบอกไว้ให้มุสลิมแล้ว เราจะไปหาอาวุธจากไหนอีกเล่า ? เมื่ออาวุธนั้นอยู่เคียงข้างเรา อยู่ในบ้านของเรา อยู่กับเราเวลาละหมาด อยู่กับเราเวลาเดินทาง อยู่กับเราเวลากิน เวลานอน อยู่กับเราตลอดเวลาในการดำเนินชีวิต ถ้าทุกคนมีอาวุธติดตัว เราคงจะไม่เกรงกลัวผู้ใด นอกจาก الله سبحانه وتعالىพระองค์เดียวเท่านั้น
ถึงเวลาหยิบอาวุธขึ้นมาต่อสู้กับศัตรูได้แล้ว หยิบอาวุธขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียงกัน จะไม่มีศัตรูหน้าไหนกล้ามาทำร้ายเรา ไม่มีศัตรูที่ไหนกล้ามาต่อสู้กับเรา ไม่มีศัตรูคนไหนที่จะแย่งอาวุธที่ร้ายแรงนี้ไปจากพวกเราได้ และถ้าผู้ปฏิเสธได้รับรู้ความจริงของอาวุธที่เรามี เขาจะมาเป็นพี่น้องเรา และพวกเขาจะร่วมต่อสู้กับศัตรูของพวกเรา
ท่านพี่น้องผู้มีศรัทธาที่รัก ถึงเวลาที่เราจะต้องหยิบอาวุธของเรา ยึดมันเอาไว้ให้มั่นคง ยึดเอาไว้ให้แน่น อาวุธที่ไม่มีวันหายไปไหน อาวุธที่ไม่ต้องเสียเงินซื้อหาราคาแพง อาวุธที่ไม่ต้องผลิตจากโรงงานไหนๆ อาวุธที่มีพลังและทรงอำนาจอาวุธของพวกเรามุสลิมทุกคน นั่นก็คือ "คัมภีร์อัลกุรอาน และซุนนะห์ ท่านนบีسيدنا محمد ﷺ "
ถ้าเราท่านทั้งหลายไม่หยิบอาวุธนี้ขึ้นมาใช้ เรายังคงอ่อนแอ ครอบครัวของเราก็ยังอ่อนแอ สังคมก็คงจะเกิดความเข้มแข็งขึ้นไม่ได้ และเราท่านทั้งหลายก็คงไปต่อสู้กับศัตรูที่ไหนไม่ได้ เพราะเราจะพ่ายแพ้ให้กับความอ่อนแอของตัวเอง โดยที่ศัตรูไม่ต้องทำการอะไรเลย
ท่านพี่น้องผู้มีศรัทธาที่รัก ส่วนหนึ่งจากสาเหตุที่ทำให้มุสลิมได้รับชัยชนะอย่างล่าช้า ดังที่ท่านอุมัร บิน อัลค็อตต็อบได้กล่าวว่า
" ขอสาบานต่อ الله سبحانه وتعالى แท้จริงความเท็จ ความอธรรมต่างๆ ไม่สามารถต้านทานสัจธรรมและความจริง ได้ตลอดเวลา เว้นแต่ด้วยบาปที่พวกท่านหรือฉันได้กระทำขึ้น ”
เราท่านทั้งหลายเป็นประชาชาติที่ไม่มีทางที่จะชนะด้วยยุทโธปกรณ์ แต่เราจะชนะได้เพราะบาปของเรามีจำนวนเล็กน้อย และบาปของศัตรูมีจำนวนมาก หากบาปเท่ากัน พวกเขาจะเอาชนะเราด้วยยุทโธปกรณ์
ในท้ายสุดนี้ของพวกเรา อย่าได้ลืมขอ ดุอาอฺ จาก الله سبحانه وتعالى ให้พี่น้องของเราซึ่งได้รับการทดสอบจาก الله سبحانه وتعالىพวกเขากำลังเจ็บปวด พวกเขาได้รับการทรมาน ขอพวกเราได้ ดุอาอฺ ให้พี่น้องของเรา เพราะมันเป็นสิ่งที่เราสามารถจะกระทำได้อย่างดีที่สุดในช่วงระยะเวลานี้ โปรดหยุด ดุอาอฺ สาปแช่งชาวยิว แต่จง ดุอาอฺ ให้เขาได้รับทางนำ
คุตบะห์วันศุกร์ ณ มัสยิดท่าอิฐ