ส่วนหนึ่งของการมีความรู้
  จำนวนคนเข้าชม  1171

ส่วนหนึ่งของการมีความรู้

 

วันละหนึ่งความคิด....แปลเรียบเรียง

 

 

- เชค สุลัยมาน อัรรุฮัยลีย์ หะฟิศ่อฮุ้ลลอฮฺ -

 

     อย่าได้คิดว่า..เป็นเพราะความฉลาดของตัวเอง ถึงได้รับความรู้..แต่มันเป็นเพียงสาเหตุหนึ่ง

     อย่าคิดว่า..เพราะเข้าเรียนถี่จึงทำให้ได้รับความรู้ แต่มันเป็นเพียงสาเหตุหนึ่ง

          หากแต่รากฐานสำคัญของการได้รับความรู้ คือ ริสกีที่มาจากอัลลอฮฺ สำหรับคนที่ทุ่มเทพากเพียรในสิ่งที่เป็นเหตุปัจจัยของมัน ไม่ใช่สำหรับคนที่นั่งอยู่ในบ้านแล้วบอกว่า"ความรู้ คือ การรู้แจ้งด้วยตนเอง" หรือ การที่มีผู้คนไปบอกกับคนๆ หนึ่งให้เปิดปากพูด อัลลอฮฺจะเปิดหนทางให้แก่ท่าน ทั้งๆ ที่เขาไม่มีความรู้อะไรเลย สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เรียกว่าความรู้

          ความรู้จึงเป็นริสกีที่อัลลอฮฺประทานให้ แก่ผู้ที่ทุ่มเทในเหตุปัจจัยของมัน ดังนั้น จงหาความรู้ตามช่องทางของมัน และจงบริสุทธิ์ใจเพื่ออัลลอฮฺ และวอนขอในดุอาอฺ ขอให้พระองค์โปรดทรงเพิ่มพูนความรู้ให้แก่ท่าน ดังที่พระองค์ตรัสแก่นบีของพระองค์ว่า :

"และ (มุฮัมมัด) จงกล่าวเถิดว่า ขอพระองค์โปรดทรงเพิ่มพูนความรู้ให้แก่ข้าพระองค์ด้วยเถิด" 

(ฏอฮา :114)

     ไม่ว่าท่านจะมีความรู้มากมายเพียงใด ขอจงอย่าได้หลงตัวเอง เพราะริสกีนั้นมีได้มา ก็มีถูกริบกลับคืนไปได้เช่นเดียวกัน

     บางครั้งสิ่งที่รู้อาจไม่ได้ถูกเก็บกลับไป แต่บะรอกัตแห่งวิชาความรู้ต่างหากที่ถูกริบคืนหาย

     ดังนั้น เมื่อบะรอกัตแห่งความรู้หายไป  จึงกลายเป็นความรู้ที่ไม่มีคุณค่าแก่เจ้าของความรู้แต่ประการใด

(ชัรฮฺ กิตาบ อัลอิคลาศ บทที่ 6)

 

 

 

-เชค มุฮัมมัด สอี๊ด ร็อซลาน หะฟิศ่อฮุ้ลลอฮฺ-

 

     นักเรียนนักศึกษารุ่นเยาว์ทั้งหลาย จงอยู่กับระดับของตัวเอง...

     พวกเธอกำลังเล่าเรียนจากเหล่าผู้รู้ เพื่อที่พวกเธอจะได้เป็นบุคคลทั่วไป แห่งชาวอะฮฺลิซซุนนะฮฺ ไม่ใช่เพื่อเป็นปราชญ์ผู้คงแก่เรียนแต่อย่างใด !

 

 

 

-เชค ศ่อลาฮ ฆอนิม ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ-

 

การมีศาสนาของเด็ก... จะปรากฏให้เห็นในระยะเวลาอันสั้น

แต่วิชาความรู้ของเขา ...เขาอาจได้ใช้มัน  ...หรือ อาจไม่ได้ใช้มันเลยก็เป็นได้

 

 

 

- ท่านอับดุลลอฮฺ อิบนิ มัสอู๊ด ร่อฎิยัลลอฮุอันฮฺ -

 

แท้จริงอัลกุรอานนั้น  เป็นการยากยิ่งสำหรับเราที่จะท่องจำ แต่เป็นสิ่งง่ายดายสำหรับเรา ที่จะปฏิบัติตามอัลกุรอาน

และแท้จริงแล้ว จะมีผู้คนภายหลังจากยุคของเรา ที่การท่องจำอัลกุรอาน เป็นเรื่องงายดายสำหรับพวกเขา

แต่การปฏิบัติตามอัลกุรอาน กลับเป็นเรื่องลำบากยากเย็นสำหรับพวกเขา

 

 

 

- ท่านอับดุลลอฮฺ อิบนิ อัมรฺ อิบนิ้ล อ๊าศ ร่อฎิยัลลอฮอันฮุมา-

 

จวนเจียนเหลือเกินแล้ว ที่บรรดาชัยฏอนจะปรากฏตัว

พวกมันจะนั่งร่วมกับพวกท่านในที่ชุมนุมของพวกท่าน

จะทำให้พวกท่านเข้าใจในศาสนาของพวกท่าน

และจะสนทนากับพวกท่าน ทั้งๆ ที่พวกมันเป็นชัยฏอนอย่างแน่นอน

 

 

 

- อิมาม อิบนุ้ล เญาซีย์ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ -

 

          เมื่อท่านเห็นเพื่อนกำลังโมโหและพูดอะไรที่ไม่เข้าท่า ก็อย่าได้เอาสิ่งที่เขาพูดมาเป็นประเด็น อย่าได้ถือโทษเอาผิดกับเขา

     เพราะสภาพของเขาไม่ต่างอะไรกับสภาพของคนเมา ไม่รับรู้ในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น ให้อดทนกับความเดือดดาลของเขา อย่าติดใจอะไรกับเขา เพราะชัยฏอนกำลังเอาชนะเขาอยู่ นิสัยที่แท้จริงของเขากำลังถูกคุกคามให้แปรปรวน สติปัญญากำลังถูกบดบัง

     และเมื่อไหร่ก็ตามที่ท่านติดใจเอาความกับเขา พลอยเห็นตามกับการกระทำของเขา ท่านก็จะเป็นเช่นคนมีสติที่ประจันหน้าต่อคำกับคนสติวิปลาส หรือเหมือนคนที่รู้สึกตัวดีกำลังตำหนิติเตียนคนหมดสติ เมื่อนั้น ความผิดจึงอยู่กับท่าน

     สิ่งที่ควรทำคือ ให้มองเขาด้วยสายตาที่มีเมตตา ให้รู้ว่า เมื่อเขาตื่นขึ้นมา เขาย่อมรู้สึกเสียใจในสิ่งที่เกิดขึ้น และเขาจะสำนึกในความดีในการมีน้ำอดน้ำทนของท่าน 

     สภาพเช่นนี้เอง ที่ลูกสมควรจะเรียนรู้ (เพื่อทำความเข้าใจ) เวลาที่พ่อโมโหเพื่อน (ควรเข้าใจ) เพื่อน และภรรยา (ควรเข้าใจ) สามี เวลาที่เขาโกรธ ปล่อยให้เขาหายจากอาการที่เป็นอยู่ อย่าติดใจกับพฤติกรรมนั้น แล้วเขาจะหวนกลับมาในสภาพที่สลดเสียใจ และขออภัยในความผิด

 

 

 

ท่านร่อซู้ล ศ็อลลัลลอฮุอบัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า:

 

" พวกท่านจงอย่าได้ซักฟอกตัวของพวกท่านให้พ้นมลทินไปเลย เพราะอัลลอฮฺนั้น ย่อมทรงรู้ถึงพลพรรคแห่งคนดีในหมู่พวกท่าน"

(บันทึกโดย อิมามมุสลิม)

 

 

ท่านร่อซู้ล ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า:

 

     "ใครที่เดินเคียงข้างผู้ถูกอธรรม กระทั่งเขาสิทธิของเขาได้รับการยืนยัน อัลลอฮฺจะทรงทำให้เท้าทั้งสองของเขายืนหยัดมั่นคงบนสะพานศิร้อฏ ในวันที่บรรดาเท้าทั้งหลายต่างขยับเขยื้อนไม่เป็นกระบวน"

(อิมามอัลอัลบานีย์ระบุว่าเป็น ฮะดีษระดับฮะซัน)

 

 

 

ท่านร่อซู้ล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า :

"จงรักคนที่ท่านรักแต่พอดี เผื่อว่าสักวันเขาอาจกลายเป็นคนที่ท่านเกลียด

และจงเกลียดคนที่ท่านเกลียดแต่พอดี เผื่อว่าสักวันเขาอาจกลายเป็นคนที่ท่านรัก"

(บันทึกโดยอิมามอัตติรมีซีย์)

 

 

%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%