การห้ามทำสิ่งที่เป็นบิดอะห์ และกิจกรรมนอกศาสนา
عن أم المؤمنين عـائـشة رضي الله عنها، قالت
قال رسول الله : { من أحدث في أمرنا هـذا مـا لـيـس مـنه فهـو رد }.
[رواه الـبـخـاري:2697، ومسلم:1718 ].
وفي رواية لمسلم : { مـن عـمـل عـمـلاً لـيـس عـلـيه أمـرنا فهـو رد
เล่าจากอาอิชะห์ ว่า : ท่านรอซูลุลลอฮ์ ได้กล่าวว่า :
ผู้ใดนำสิ่งที่ไม่มีต้นตอมาจากหลักการศาสนา เข้ามาปฏิบัติในศาสนานี้ เขาจะถูกปฏิเสธไม่เป็นที่ยอมรับ
(รายงานโดยบุคอรีย์ และมุสลิม)
และในรายงานหนึ่งของมุสลิมว่า : ผู้ใดกระทำกิจกรรมหนึ่งขึ้นมา โดยไม่ยึดอยู่กับหลักศาสนาของเรา เขาจะถูกปฏิเสธไม่เป็นที่ยอมรับ
عن جابر بن عبد الله قال
كان رسول الله - صلى الله عليه وسلم -
إذا خطب احمرت عيناه ، وعلا صوته ، واشتد غضبه حتى كأنه منذر جيش
يقول : صبحكم ومساكم
ويقول : بعثت أنا والساعة كهاتين
ويفرق بين إصبعيه السبابة والوسطى ويقول : أما بعد فإن خير الحديث كتاب الله ، وخير الهدي هدي محمد ، وشر الأمور محدثاتها ، وكل بدعة ضلالة
ثم يقول : أنا أولى بكل مؤمن من نفسه ، من ترك مالا فلأهله ، ومن ترك دينا أو ضياعا فإلى وعلى
رواه مسلم
เล่าจากท่านญาบิร ว่า :
ท่านรอซูลุลลอฮ์ เมื่อท่านกล่าวสุนทรพจน์ (คุตบะห์) ดวงตาทั้งสองข้างของท่านจะแดง, เสียงของท่านจะดัง, และท่านจะมีอาการโกรธจัด จนคล้ายเป็นผู้แจ้งข่าวแก่กองทหารเมื่อมีศัตรูมาว่า : ศัตรูจะบุกโจมตีพวกท่านแล้วในตอนเช้า และมันจะบุกโจมตีพวกท่านแล้วในตอนเย็น
และท่านกล่าวว่า :
ฉันถูกแต่งตั้งขึ้นเป็นศาสนทูต กับวันกิยามะห์นั้น เหมือนกับนิ้วทั้งสองนี้
และท่านได้ยกนิ้วขึ้นพร้อมกันสองนิ้ว คือนิ้วชี้กับนิ้วกลาง พร้อมกับกล่าวว่า :
อัมมา บะอฺดุ ถ้อยคำที่ดีที่สุดคือคัมภีร์ของอัลเลาะห์ การชี้นำที่ดีที่สุดคือการชี้นำของมุฮัมหมัด กิจกรรมที่เลวร้ายที่สุดคือ กิจกรรมที่ทำขึ้น อยู่นอกหลักการอิสลาม ทุกกิจกรรมนอกศาสนา(บิดอะห์) ถือเป็นความหลงผิด
จากนั้นท่านกล่าวว่า :
ฉันมีสิทธิ์ในตัวของผู้มีศรัทธาทุกคน ยิ่งกว่าตัวของเขาเอง ผู้ใดทิ้งทรัพย์สินไว้ มันจะตกเป็นของครอบครัวเขา ผู้ใดทิ้งหนี้สิน หรือครอบครัวไว้ ก็จะเป็นหน้าที่ของฉันต้องดูแลและชดใช้
รายงานโดยมุสลิม
ที่มา: ริยาดุสซอลีฮีน
โดย อาจารย์ อรุณ บุญชม