ห้ามทำร้ายตนเอง ด้วย บุ ห รี่ !
อนัส ลีบำรุง....เรียบเรียง
จงยำเกรงต่ออัลลอฮฺ เกรงกลัวต่อพระองค์ ปฏิบัติตามในสิ่งที่ถูกสั่งใช้ให้กับเราและออกห่างจากสิ่งที่พระองค์ทรงห้าม เพื่อเราจะได้รับภาคผลบุญที่ดียิ่งทั้งในดุนยาและอาคีเราะฮฺ
ในทุกวันนี้เราจะเห็นสิ่งที่ขัดต่อหลักการศาสนาของพี่น้องเราอยู่สิ่งหนึ่งที่มีอย่างแพร่หลาย ที่เกิดขึ้นในแทบจะทุกครอบครัว สาเหตุที่เกิดสิ่งนั้นอาจจะมาด้วยกับหลายปัจจัย แน่นอนสิ่งแรกเริ่มที่เราจะมองก็คงจะไม่พ้นกับสถาบันครอบครัวที่อาจจะขาดการตัรบียะฮฺ การตักเตือนกันในเรื่องราวของศาสนา ปัญหาที่ว่านี้ก็คือการสูบบุหรี่
พี่น้องผู้ศรัททั้งหลาย แท้จริงความสวยงามความดีงามของศาสนาของเราถูกสร้างมาบนการนำมาซึ่งความดีงามและป้องกันความหายนะ ความชั่วร้ายต่างๆ การที่อัลลอฮฺทรงสั่งใช้เราในเรื่องใดเรื่องหนึ่งนั้นแล้ว สิ่งนั้นล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่มีประโยชน์แก่เราทั้งสิ้น กระนั้นแล้วสิ่งที่ถูกห้ามเรื่องหนึ่งเรื่องใดแล้ว สิ่งนั้นล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่เกิดโทษ ไม่ให้ประโยชน์ สร้างความเสียหายแก่เราอย่างแน่นอน ด้วยความรอบรู้ของพระองค์ พระองค์ไม่ทรงต้องการความยากลำบากให้เกิดขึ้นกับมนุษย์คนใด พระองค์ทรงต้องการให้ความสะดวกง่ายดายแก่เราเสียมากกว่าด้วยซ้ำ ดังที่พระองค์ได้ทรงตรัสว่า :
يُرِيدُ ٱللَّهُ بِكُمُ ٱلۡيُسۡرَ وَلَا يُرِيدُ بِكُمُ ٱلۡعُسۡرَ
“อัลลอฮ์ทรงประสงค์ให้มีความสะดวกแก่พวกเจ้า และไม่ทรงให้มีความลำบากแก่พวกเจ้า “
(ซูเราะฮฺ บะกอเราะฮฺ 185)
ลองพิจารณาดูเถิดพี่น้องศาสนาของเรานั้นคือศาสนาแห่งความสะดวกง่ายดายดังที่ท่านท่านนบี ﷺ ได้กล่าวว่า :
إنَّ هذا الدينَ يسرٌ، “แท้จริงศาสนาอิสลามนั้นสะดวกง่ายดาย”
(บันทึกโดยนะซาอีย์ 5049)
และแน่นอนจากความสะดวกง่ายดายที่ว่านั้นคือสิ่งที่อัลลอฮฺทรงทำให้ฮาลาล ดีงาม ให้มีประโยชน์แก่พวกเรา และจากรากฐานของเรื่องราวในดุนยาที่เกิดประโยชน์กับมนุษย์ในทุกวันนี้ที่เราจะมองเห็นเป็นรูปธรรมได้ก็คือ จากระบบการคมนาคมต่างๆ รถยนต์ รถไฟ เรือ จากเสื้อผ้าของเรา จากสิ่งของที่เราดื่มกิน จากมุอามาลาตเรื่องทั่วๆไปอื่นๆ ทีพระองค์ทรงให้กับเรา ถ้าใครเขาจะมาห้ามเรื่องราวมุอามาลาตก็ตอบกลับเขาไปว่า ไหนหล่ะหลักฐานที่ท่านนำมาห้ามในเรื่องดังกล่าว แต่ถ้าหากว่ามันไม่มีก็ตอบเขาไป อัลลอฮฺ ตรัสว่า :
هُوَ ٱلَّذِي خَلَقَ لَكُم مَّا فِي ٱلۡأَرۡضِ جَمِيعٗا
“พระองค์คือผู้ได้ทรงสร้างสิ่งทั้งมวลในโลกไว้สำหรับพวกเจ้า “
(ซูเราะฮฺ บะกอเราะฮฺ 29)
قُلۡ مَنۡ حَرَّمَ زِينَةَ ٱللَّهِ ٱلَّتِيٓ أَخۡرَجَ لِعِبَادِهِۦ وَٱلطَّيِّبَٰتِ مِنَ ٱلرِّزۡقِۚ
“จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ว่าผู้ใดเล่าที่ให้เป็นที่ต้องห้าม ซึ่งเครื่องประดับร่างกาย จากอัลลอฮฺ
ที่พระองค์ได้ทรงให้ออกมาสำหรับปวงบ่าวของพระองค์ และบรรดาสิ่งดี ๆ จากปัจจัยยังชีพ”
[ซูเราะฮฺ อัลอะอฺรอฟ 32]
พี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย ส่วนในเรื่องของสิ่งที่เป็นอันตรายและสกปรก แท้จริงอัลลอฮฺได้ทรงห้ามมันเอาไว้อย่างชัดเจน ในเมื่อมันถูกห้ามเอาไว้แล้วใครที่มาบอกว่ามันฮาลาล ถามเขาไปเลยว่าไหนหล่ะหลักฐานที่ท่านว่ามันอนุญาต แต่ถ้าหากว่ามันไม่มีก็ตอบเขาไป อัลลอฮฺทรงตรัสว่า :
قُلۡ أُحِلَّ لَكُمُ ٱلطَّيِّبَٰتُ - “จงกล่าวเถิด ที่ถูกอนุมัติแก่พวกเจ้านั้นคือสิ่งดี ๆ ทั้งหลาย”
[ซูเราะฮฺ อัลมาอิดะฮฺ 4]
وَيُحِلُّ لَهُمُ ٱلطَّيِّبَٰتِ وَيُحَرِّمُ عَلَيۡهِمُ ٱلۡخَبَٰٓئِثَ
“และจะอนุมัติให้แก่พวกเขาซึ่งสิ่งดี ๆ ทั้งหลาย และจะให้เป็นที่ต้องห้ามแก่พวกเขา”
[ซูเราะฮฺ อัลอะอฺรอฟ 157]
พอเราทราบถึงความหมายของสองอายะฮฺข้างต้นนี้แล้วมันก็เป็นที่เข้าใจได้ว่า สิ่งที่เป็นอันตรายและสกปรกนั้นมันเป็นสิ่งต้องห้าม
นี่คือความเมตตาจากอัลลลอฮฺที่ได้ทรงส่งท่านนบีมุหัมมัด ﷺ มาแจ้งแก่เราซึ่งให้นับถือพระเจ้าที่แท้จริง และเชื่อฟังในทุกสิ่งๆ ห้ามการนำสิ่งอื่นมาเคียงคู่กับพระองค์ในทุกรูปแบบ และได้แจ้งแก่เราซึ่งสิ่งที่ดีงาม และสิ่งที่ไม่ดีที่เป็นข้อห้ามสำหรับพวกเรา ที่เราถูกห้ามสิ่งต่างๆนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นประโยชน์แก่มนุษย์ทั้งสิ้น ถ้าเราจะไปค้นคว้าดูหลักฐานจากกิตาบุลลอฮฺและซุนนะฮฺ เราจะพบว่าอะไรที่เป็นสิ่งอันตรานั้นมันถูกสั่งห้ามไว้ซึ่งแก่พวกเรา ดังที่อัลลอฮฺทรงตรัสว่า :
وَلَا يُضَآرَّ كَاتِبٞ وَلَا شَهِيدٞۚ – “และผู้เขียนก็จงอย่าก่อให้เกิดความเดือดร้อนขึ้น“
[ซูเราะฮฺ บะกอเราะฮฺ 282]
وَلَا تُمۡسِكُوهُنَّ ضِرَارٗا لِّتَعۡتَدُواْۚ – และพวกเจ้าจงอย่ายับยั้งพวกนางไว้โดยมุ่งก่อความเดือดร้อน
[ซูเราะฮฺ บะกอเราะฮฺ 231]
และจากหะดีษจากท่านซะอี๊ด อัลคุดรีย์ ร่อฎิยัลลอฮุอันอุ เล่าวว่า แท้จริงท่านนบีมุหัมมัด ﷺ ได้กล่าวว่า :
«لا ضَرَرَ ولا ضِرَارَ» - จะต้องไม่ทำความเสียหายแก่ตนเองแลผู้อื่น
[บันทึกโดยอะหฺมัด 2865]
ฉะนั้นแล้วสำหรับตัวของผู้ศรัทธาเมื่อพบหลักฐานที่ประจักษ์ชัดเจนถึงเรื่องที่จะเป็นอันตราย ถึงสิ่งที่ไม่ดี ไม่เกิดประโยชน์แก่เราก็ควรละทิ้งเสียและออกห่างโดยเร็ว บุหรี่นั้นเป็นบาลาอฺที่เกิดขึ้นอย่างแพร่แหลายแก่พวกเราในวันนี้ แรกเริ่มเดิมที่ก็แพร่หลายแค่ในหมู่ผู้ชาย พี่น้องลองดูวันนี้สิมันแพร่หลายไปในทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะผู้ ญ หรือแม้แต่เด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะเลยด้วยซ้ำ
โอ้พี่น้องบ่าวของอัลลอฮฺ ไม่เป็นที่สงสัยเคลือบแคงใดๆเลยว่า การสูบบุหรี่นั้นมันอันตราย สกปรก และเป็นสิ่งที่ไม่ใช่สิ่งสวยงามเลย กลิ่นควันของมันก็ยังสามารถทำอันตรายให้เกิดขึ้นแก่ผู้อื่นได้ บรรดาอุลามาอฺในยุคสมัยนี้ อนุญาติให้ห้ามคนที่สูบบุหรี่ถ้าหากว่าควันนั้นเข้ามารบกวนคนในมัสยิดเลย เพราะบุหรี่มันทำร้ายผู้คน ทำร้ายผู้ศรัทธา
บุหรี่นั้นเป็นอันตรายด้วยการเห็นพ้องของผู้มีสติปัญญา ไม่ว่าจะด้านศาสนาหรือด้านการแพทย์ ไม่เว้นแม้แต่แพทย์ที่ไม่ได้นับถือศาสนาอิสลามก็ตามที บุหรี่สร้างความเสียหายประการใหญ่ๆ เลยก็คือ
บุหรี่ยังสร้างความเสียหายให้แก่ทรัพย์สินทำให้ทรัพย์สินนั้นบกพร่อง แน่นอนบางครั้งเรายังเห็นพี่น้องของเราไม่สามารถแม้แต่จะจ่ายค่าเลี้ยงดูให้กับภรรยาและครอบครัว แต่สามารถจับจ่ายไปกับการซื้อบุหรี่ได้ เราผู้ศรัทธาถูกห้ามจากการทำให้ทรัพย์สินบกพร่องไปกับของไม่ดีของที่ไม่ถูกต้อง แท้จริงทรัพย์สินเงินทองนั้นคืออามานะฮฺของพวกท่าน และมันจะถูกสอบสวนอย่างแน่นอนว่าได้ถูกใช้จ่ายไปอย่างไร พี่น้องลองหยุดคิดสักนิดแล้วพูดกับตัวเองว่า อัลลอฮฺทรงประทานริสกีให้กับเราเพื่อมาหมดกับบุหรี่กระนั้นหรือ ?
บุหรี่สร้างความเสียหายแก่ตนเอง เพราะในควันบุหรี่นั้นเต็มไปด้วยสารอันตราย ได้แก่ นิโคติน ซึ่งจัดเป็นสารเสพติดและยังมีมากมายถึง 7000 ชนิด สารพิษอีกมากกว่า 250 ชนิด และสารก่อมะเร็งอีกมากกว่า 70 ชนิด และเมื่อสูบเข้าไปแล้วมันทำให้เกิดโทษตามระบบร่างกายภายในของเราที่พระเจ้าได้ทรงสร้างมาอย่างสมบูรณ์ไร้ที่ติ
เริ่มจากริมฝีปากทั้งล่างบน ตามด้วยปาก ลำคอ หลอดอาหาร ปอด หลอดเลือดสมอง ทางเดินหายใจ หัวใจ กระดูกและกล้ามเนื้อตลอดจนทำให้เกิดโรคร้ายนานับประการ เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคทางเดินปัสสาวะ การเสี่ยงแท้งของหญิงตั้งครรภ์ โอกาสที่จะตาบอดถาวรก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่มาจากการสูบบุหรี่ แน่แท้เราถูกสั่งห้ามไม่ให้สร้างความหายนะ ความพินาศ
ดังที่อัลลอฮฺทรงตรัสว่า :
وَلَا تَقۡتُلُوٓاْ أَنفُسَكُمۡۚ - และจงอย่าฆ่าตัวของพวกเจ้าเอง
[ซูเราะฮฺ อันนิซาอฺ 29]
وَلَا تُلۡقُواْ بِأَيۡدِيكُمۡ إِلَى ٱلتَّهۡلُكَةِ – และจงอย่าโยนตัวของพวกเจ้าสู่ความพินาศ
[ซูเราะฮฺ บะกอเราะฮฺ 195]
บุหรี่สร้างความเสียหายให้แก่บุคคลอื่นๆ มันสามารถทำร้ายพ่อแม่ ทำร้ายลูกทั้งเด็กโตเด็กเล็กหรือแม้กระทั่งเด็กที่อยู่ในท้อง ทำร้ายญาติพี่น้องทั้งสิ้น เราอย่าลืมว่าถ้าเราเป็นคนที่สูบ เมื่อวันกิยามะฮฺมาถึงเราอาจจะถูกสอบสวนว่าได้ฆ่าบุคคลรอบข้างเราหรือป่าว แท้จริงท่านนบีมุหัมมัด ﷺ ได้กล่าวว่า :
مَلْعُونٌ مَنْ ضَارَّ مُؤْمِنًا - ผู้ใดที่ทำอันตรายแก่ผู้ศรัทธาเขาจะได้รับการถูกสาปแช่ง
[บันทึกโดยติรมิซีย์ 1941]
مَنْ ضَارَّ ، ضَارَّ اللَّهُ بِهِ، وَمَنْ شَاقَّ ، شَقَّ اللَّهُ عَلَيْهِ
ผู้ใดที่ทำให้ผู้อื่นได้รับอันตราย อัลลอฮฺจะทำให้เขาได้รับกับอันตราย(เป็นการตอบแทนในสิ่งที่เขาทำ)
ผู้ใดที่สร้างความยากลำบากแก่ผู้อื่น อัลลอฮฺจะทรงให้การงานของเขานั้นยากลำบาก
[บันทึกโดยติรมิซีย์ 1940]
พี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย มีพี่น้องของเราจำนวนมากที่ต้องการละทิ้ง แต่ก็กระทำได้เพียงชั่วขณะนึงไม่ถาวร ไม่ใช่เพราะสาเหตุใดเลยแน่แท้มันคืองานของศัตรูของเราชัยฏอน กระซิบกระซาบว่าเราทำไม่ได้หรอก ทำให้เราลังเล ทำให้เราคิดมากว่าถ้าเลิกสูบแล้วจะเป็นแบบนั้นแบบนี้ จะเกิดโรคแบบนั้นแบบนี้ แต่เราลืมไปหรือเปล่าว่าผู้ใดให้ชีวิตเรา ผู้ใดทำให้เราเจ็บป่วยและตายลงไป ?
แท้จริงท่านนบีมุหัมมัด ﷺ ได้กำชับเราสอนเราว่า : สิ่งใดที่เป็นวาญิบบนผู้ศรัทธาจำเป็นจะต้องปฏิบัติก็จงปฏิบัติ แต่ถ้าไม่ครบเงื่อนไขก็ไม่ต้องปฏิบัติ ส่วนเรื่องสิ่งที่หะรอม สิ่งต้องห้ามเราจะต้องละทิ้งอย่างเด็ดขาด ดังที่มีรายงานว่า :
ما نَهَيْتُكُمْ عنْه فَاجْتَنِبُوهُ، وَما أَمَرْتُكُمْ به فَافْعَلُوا منه ما اسْتَطَعْتُمْ،
“สิ่งที่ฉันสั่งห้ามพวกท่านนั้นจงละทิ้งมัน และสิ่งที่ฉันสั่งใช้พวกท่านจงปฏิบัติมันตามความสามารถของพวกท่าน”
[บันทึกโดยอะหฺมัด 7367]
เห็นไหมครับในหะดีษบทนี้ท่านนบี ﷺ ได้บอกว่าสิ่งที่ต้องห้ามจงละทิ้ง โดยที่ไม่ได้บอกว่าสิ่งที่ต้องห้ามจงละทิ้งตามความสามารถฉะนั้นแล้วต้องตัดออกจากชีวิตอย่างเด็ดขาด กลับกันยกตัวอย่างคำสั่งใช้ที่ให้ทำตามความสามารถ เช่น ฮัจย์ ถ้าเราไม่มีเงินจะไปทำฮัจย์โดยจะต้องไปเป็นหนี้เป็นสินเพื่อไปทำ ศาสนาก็ไม่ส่งเสริม
ลองพิจารณาดูเหล่าบรรดาศอฮาบะฮฺสหายของท่านนบีสิเมื่อบทบัญญัติห้ามดื่มสุราได้ลงมาอย่างเด็ดขาด ในหมู่บรรดาศอฮาบะฮฺยังมีคนที่ดื่มเหล้าอยู่เลย แต่ทว่าพวกเขาเอาเหยือกเหล้ามาเทจนในถนนมะดีนะฮฺเอ่อไปด้วยกับสุรา ละทิ้งอย่างเด็ดขาดโดยไม่หวนกลับไปดื่มอีก นี่คือความศรัทธาที่มีต่อคำสั่งของพระเจ้าอย่างแท้จริง
การสูบบุหรี่อาจจะเป็นสาเหตุให้การเสียชีวิตของเรานั้นเป็นการเสียชีวิตที่ไม่ดีก็เป็นได้ และการงานของพวกเรานั้นดูกันในช่วงท้ายของชีวิต ถ้าใครที่ตายในขณะสูบบุหรี่ ในวันกิยามะฮฺเขาก็จะฟื้นคืนชีพมาในสภาพที่เขานั้นสูบบุหรี่ ดังที่ท่านนบีมุหัมมัด ﷺ ได้กล่าวว่า :
يُبْعَثُ كُلُّ عَبْدٍ علَى ما ماتَ عليه – “บ่าวทุกคนจะถูกทำให้ฟื้นคืนชีพมาในสภาพที่เขาตายไป”
[บันทึกโดยอะหฺมัด 14543]
และอย่าลืมว่าการที่ท่านสูบบุหรี่นั้นมันเป็นบาปเปิดเผย แล้วบาปเปิดเผยนั้นจะไม่ได้รับการอภัย ณ ที่อัลลอฮฺ
ดังที่ท่านนบีมุหัมมัด ﷺ ได้กล่าวว่า :
كُلُّ أُمَّتي مُعافًى إلَّا المُجاهِرِينَ
“ประชาชาติของฉันทุกคนนั้นเขาจะได้รับการอภัย เว้นเสียแต่ผู้ที่เปิดเผยการกระทำความผิดของเขาเอง”
[บันทึกโดยบุคคอรีย์ 6069 , บันทึกโดยมุสลิม 2990]
พี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย พึงทราบเถิดว่าบุหรี่ทั้งหมดนั้นคือความชั่วช้า ไม่ว่าจะเป็น ใบจาก บุหรี่ปกติหรือแบบทันสมัยขึ้น พอตบุหรี่ไฟฟ้า หรือบารากู่ทั้งหลายแหล่ หุก่มศาสนานั้นเหมือนกันทั้งสิ้นไม่แตกต่างกันคือมันหะรอม ถ้าตัวของมันหะรอมเงินที่ได้มาจากมันก็หะรอมการซื้อขายมันก็หะรอมเช่นกัน ดังที่ท่านนบีมุหัมมัด ﷺ ได้กล่าวว่า :
إنَّ اللهَ تعالى إذا حرَّمَ شَيئًا حرَّمَ ثَمَنَه
“แท้จริงอัลลอฮฺเมื่อห้ามสิ่งใดราคาของมันก็เป็นที่ต้องห้าม (ซื้อขาย)”
[สุนันดารุกุฎนีย์ 2815]
ฉะนั้นแล้วผู้ที่ถูกเรียกว่าผู้ศรัทธาจะต้องละทิ้งให้ไว ละทิ้งอย่างเด็ดขาดไม่กลับไปสูบมันอีก การจะละทิ้งอย่างเด็ดขาดไม่ใช่การเหนียตละทิ้งเพื่อการแต่งงาน เพื่อลูก เพื่อภรรยา เพื่อหลาน เพื่อคนในครอบครัว ไม่ใช่ครับแต่เมื่อเราทำผิดเราทำผิดต่อคำสั่งของพระเจ้าของเราเจ้าของชีวิตของเรา ดังนั้นให้การเลิกการละทิ้งของเรานั้นเป็นไปเพื่อพระผู้เป็นเจ้าของเราด้วยความอิคลาส เพื่อพระองค์จ่ะให้ความสะดวกง่ายดายแก่เรา
สุดท้ายนี้ขออัลลอฮฺทรงฮิดายะฮฺให้กับพวกเราตั้งมั่นอยู่บนสัจธรรม ขอพระองค์ทรงช่วยเหลือทรงปลดเปลื้องความยากลำบากในการละทิ้งสิ่งไม่ดีให้กับพวกเรา และได้โปรดรับการเตาบะฮฺของพวกเราจากบาปที่เราได้เคยก่อเอาไว้