สตรีโลกไม่ลืม ! ฮัฟเซาะฮฺ บินติ ซีรีน (อุมมุ ฮุซัยล์ )
  จำนวนคนเข้าชม  2009

ฮัฟเซาะฮฺ บินติ ซีรีน (อุมมุ ฮุซัยล์ )

 

อุ ม มุ อั๊ ฟ ว์ : เรียบเรียง

 

     ท่านหญิง ฮัฟเซาะฮฺ บินติ ซีรีน (อุมมุ ฮุซัยล์ )เธอคือตาบิอีนที่ท่านอนัสอิบนิมาลิก ร่อฎิยัลลอฮุอันฮฺ (ศ่อฮาบะฮฺลำดับท้ายๆที่เสียชีวิต) ได้เข้าไปเยี่ยมและให้สลามแก่เธอ

     เธอคือหนึ่งในหกพี่น้อง ลูกของ "ซีรีน" นักปราชญ์ผู้มีชื่อเสียง ผู้มีกิตติศัพท์เลื่องลือถึงความยำเกรง ความสุขุมและความสมถะ 

     ลูกของท่านทุกคนล้วนแต่เป็นนักรายงานหะดีษที่ได้รับการเชื่อถือและรับรองถึงความถูกต้องแม่นยำทั้งสิ้น

 

 

๐๐ สุดยอดแบบอย่างแห่งความละอาย

 

     ตัวอย่างความละอายอันเป็นคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของสตรีมีอยู่มากมายจากเหล่าบรรดาคนดีในยุคก่อนหน้า

        เรื่องราวของท่านหญิงฮัฟเซาะฮฺ ไม่เพียงเป็นการยืนยันถึงเกียรติแห่งความละอายอันเป็นคุณค่าที่ผู้หญิงทุกคนพึงรักษาไว้เท่านั้น แต่ยังยืนยันถึงความเคร่งครัด การยืนหยัด และการเลือกเฟ้นในสิ่งที่ดีที่สุดและใกล้ชิดกับความพอพระทัยของอัลลอฮฺมากที่สุดอย่างเต็มความสามารถ

 

ดังที่ครั้งหนึ่งท่าน อาซิม อัลอะฮฺวัล ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ ได้เล่าว่า"เราเคยไปหาฮัฟเซาะฮฺ แล้วนางก็นำผ้ามาปิดบังใบหน้าของนาง เราจึงบอกกับนางว่า "ขออัลลอฮฺทรงเมตตาท่าน

 อัลลอฮฺตรัสว่า...

{وَالْقَوَاعِدُ مِنَ النِّسَاءِ اللَّاتِي لا يَرْجُونَ نِكَاحاً فَلَيْسَ عَلَيْهِنَّ جُنَاحٌ أَنْ يَضَعْنَ  ثِيَابَهُنَّ غَيْرَ مُتَبَرِّجَاتٍ بِزِينَةٍ

 

     “และบรรดาหญิงชราซึ่งพวกนางไม่ปรารถนาที่จะสมรสแล้ว ไม่เป็นที่น่าตำหนิแก่พวกนางที่จะเปลื้องเสื้อผ้า (ภายนอก) ของนางออก โดยไม่เปิดเผยส่วนงดงาม"

 (อันนูร : 60) 

ซึ่งหมายถึง ญิลบ๊าบ" (ผ้าคลุมที่คลุมจากศีรษะเพื่อปิดหน้า)

นางตอบว่า "แล้วถัดต่อจากนั้นเล่า?"

เราตอบว่า :  وَأَن يَسْتَعْفِفْنَ خَيْرٌ لَّهُنَّ "แต่การละไว้ย่อมเป็นการดีกว่าสำหรับพวกนาง" 

นางจึงกล่าวว่า " สิ่งนี้เองคือ การยืนยันในเรื่องญิลบ๊าบ"

صفة الصفوة :٢٤١/٢

 

     สตรีที่หมดหวังที่จะแต่งงาน หญิงชราวัยไม้ใกล้ฝั่ง เธอเลือกที่จะปกปิด มากกว่าเปิดเผย ทั้งๆ ที่เธอมีสิทธิ์จะทำเช่นนั้น 

♥ เธอเลือกที่จะยืนหยัดในสิ่งที่ดีกว่า ประเสริฐกว่า สมควรกว่า ตามคำชี้นำจากพระเจ้าของเธอ

♥ เธอเลือกที่จะรักษาคุณค่าแห่ง "ความละอาย" "รักนวลสงวนตัวแม้ในเวลาที่ตัวของเธอปลอดภัยและปราศจากฟิตนะฮฺใดๆ 

♥ เธอเลือกที่จะสงวนเกียรติ ศักดิ์ศรี และคุณความดีที่มีตลอดไปจวบจนวาระสุดท้ายของเธอ ซุบฮานั้ลลอฮฺ!

 

 

๐๐ ผู้หญิงที่อุทิศชีวิตเพื่อภักดีต่อพระองค์

 

     กล่าวกันว่า ท่านหญิงฮัฟเซาะฮฺจะไม่ออกจากที่ละหมาดในบ้านของนางนอกจากเพื่อทำธุระ หรือเพื่องีบหลับเวลากลางวันตลอดระยะเวลา 30 ปี

♥ นางจะอาบน้ำละหมาดและเข้าไปที่ละหมาดในบ้านของนางช่วงสายและกลับออกมาอีกทีในเวลาเดียวกันของวันรุ่งขึ้น !

♥ นางจะรำลึกถึงความตายตลอดเวลา

♥ นางจะคิดเสมอว่า ความตายพร้อมจะจู่โจมเข้าหานางทุกขณะ กระทั่งว่า นางจะเตรียมผ้ากะฝั่นติดตัวไว้เสมอ 

♥ นางสวมใส่ชุดกะฝั่นเมื่อครองเอี๊ยะฮฺรอม และใส่ชุดกะฝั่นในช่วงสิบคืนสุดท้ายของเดือนรอมฎอน

 

     มีประโยคหนึ่งของท่านหญิงฮัฟเซาะฮฺ ที่นางได้ให้ข้อเตือนใจกับวัยรุ่นคนหนุ่มสาวไว้ว่า 

     "โอ้คนหนุ่มคนสาวทั้งหลาย จงทำการงานเพื่อตัวของพวกเจ้าเอง ขณะที่พวกเจ้ายังเป็นหนุ่มเป็นสาวกันอยู่เถิด เพราะฉันเห็นการลงมือทำงาน (เพื่ออาคิเราะฮฺ ) อยู่ในหมู่คนหนุ่มสาวเท่านั้น" 

 

         คือ ให้ฉวยโอกาสในวัยที่ยังคงมีกำลังวังชาและยังมีเวลา ในการตักตวงทำอมั้ลอิบาดะฮฺไว้ให้มากๆ ให้ใช้เวลากับสิ่งที่เกิดประโยชน์ แก่ตนเองทั้งในดุนยาและอาคิเราะฮฺ ก่อนที่สังขารจะไม่อำนวย

 

     ครั้งหนึ่ง นางเคยซื้อทาสหญิงรับใช้คนหนึ่ง มีคนถามทาสหญิงคนนั้นว่านายหญิงของเธอเป็นอบ่างไรบ้าง?

     เธอตอบว่า " เธอเป็นคนดี เพียงแต่เธอคงทำผิดใหญ่หลวงเอาไว้ " 

     เพราะท่านหญิงจะลุกขึ้นละหมาดและร่ำไห้ตลอดคืน ทาสหญิงจึงคิดว่าสิ่งที่เธอเห็นจากการทำอิบาดะฮฺ  การมานะพากเพียรและการละหมาดในยามค่ำคืนของนางฮัฟเซาะฮฺ คงเป็นเพราะความเศร้าโศกเสียใจในความผิดใหญ่หลวงในอดีตของนาง 

 

     นางคือ หญิงผู้ทุ่มเทในการทำอิบาดะฮฺ กล่าวกันว่านางจะค่อตัมอัลกุรอานในทุกๆ สองวัน ถือศีลอดติดต่อกันตลอดปี ยกเว้นในวันอีดและวันตัชรี้ก และลุกขึ้นละหมาดในยามค่ำคืนอยู่ไม่ขาด

 

 

๐๐ สตรีผู้เป็นแหล่งวิชาการ

 

     ท่านหญิงฮัฟเซาะฮฺท่องจำอัลกุรอานทั้งหมดได้ตั้งแต่อายุเพียง 12 ปี 

     นางขยันขันแข็งเเละทุ่มเทเวลาในการหาความรู้อยู่เสมอ นางแทบจะไม่มีโอกาสได้สัมผัสรสชาติการนอนหลับสนิท

     ตราบใดที่นางมีโอกาสหาความรู้ นางคือหนึ่งในศิษย์เอกของท่านหญิงอาอิชะฮฺ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮา

 

          นางรายงานหะดีษจากพี่ชายของนาง ท่านอนัส อิบนิ มาลิก ท่านหญิงอุมมุ อฏียะฮฺและจากท่านอื่นๆ ขณะเดียวกัน ผู้ที่รายงานหะดีษจากนางได้แก่ ท่านมุฮัมมัด อิบนิ ซีรีน พี่ชายของนาง ท่านก่อตาดะฮฺและท่านอิบนุ เอาวน์ ซึ่งนางเป็นที่รับทราบในคนยุคนั้นว่า มีความจำที่แม่นยำเป็นเลิศ

     เมื่อมีคนมาถามท่านมุฮัมมัด อิบนิ ซีรีน ว่า อายะฮฺนี้อ่านอย่างไร ?

     ท่านตอบว่า "พวกท่านจงไปหาฮัฟเซาะฮฺ เพราะเธอรู้ดีกว่าฉัน"

 

     นางเป็นแหล่งวิชาการ ของบรรดาปราชญ์ในยุคนั้น ผู้คนต่างพากันมาถามปัญหาฟิกฮฺและเอาความรู้จากเธอ

     ท่านอียาซ อิบนุ มุอาวิยะฮฺ กล่าวว่า :"ฉันไม่เคยมีชีวิตอยู่ทันใครเลย ที่จะประเสริฐยิ่งไปกว่า ฮัฟเซาฮฺ บินติ ซีรีน"

     แม้แต่ท่านมุฮัมมัด อิบนิ ซีรีน และท่านอัลหะซัน อัลบัศรีย์ ผู้มีชื่อเสียงกว่านาง และอยู่ร่วมสมัยกับนาง สำหรับท่านแล้วก็ยังไม่มีใครเทียบเท่า

     อิมาม อิบนิกะษีร ได้กล่าวไว้ในหนังสือ "อัลบิดายะฮฺวันนิฮายะฮฺ" ว่า

     " ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนที่จะมีความรู้มากไปกว่า ลูกศิษย์ของท่านหญิงอาอิชะฮฺ อันได้แก่ อุมเราะฮฺ บินติ อับดิรเราะฮฺมานฮัฟเซาะฮฺ บินติ ซีรีน , และ อาอิชะฮฺ บินติ ฏ็อลฮะฮฺ " 

 

 

๐๐ มารดาของลูกชายยอดกตัญญู

 

     - อิบนิ ฮุซัยล์ ลูกชายของนาง ได้รับการยกย่องว่า เป็นลูกกตัญญู เขาจะออกไปตัดไม้ทำฟืนในช่วงฤดูร้อน เพื่อเอามาไว้ใช้จุดคบเพลิงให้ความอบอุ่นในช่วงฤดูหนาว โดยให้เหตุผลว่า เพื่อที่จะได้ไม่เกิดเปลวควันรบกวนผู้เป็นมารดา 

 

     - เขามักจะอยู่เฝ้ามารดาคอยติดไฟเติมฟืนในโคมที่จุดไฟเวลาไฟมอดดับลงเพื่ออำนวยความสะดวกและบรรเทาความหนาวเหน็บแก่ผู้เป็นมารดา ขณะที่นางลุกขึ้นละหมาดในตอนกลางคืนจนกว่านางจะละหมาดเสร็จ

 

     - เขามักจะรีดนมอูฐแต่เช้าตรู่ แล้วนำมาให้มารดา 

     เขาบอกกับนางว่า" อุมมุ ฮุซัยล์ครับ โปรดดื่มนมนี้เถอะครับ เพราะน้ำนมที่มีรสเลิศที่สุด คือน้ำนมที่ค้างอยู่ในเต้า" (นมที่ถูกรีดตอนรุ่งสาง)

 

     - นางสูญเสียลูกชายขณะที่นางยังมีชีวิตอยู่

      นางเล่าว่า : "เมื่อลูกของฉันเสียชีวิต อัลลอฮฺได้ประทานความอดทนให้แก่ฉันตามแต่ที่พระองค์ประสงค์จะประทานให้ เพียงแต่ฉันยังคงมีความหม่นหมอง  ความเจ็บปวดที่ติดค้างอยู่ในหัวใจ ซึ่งไม่เคยจางหายไป กระทั่งมีอยู่ค่ำคืนหนึ่ง ขณะที่ฉันกำลังอ่านอัลกุรอาน  ในซูเราะฮฺ อันนะฮฺล์  เมื่ออ่านถึงดำรัที่ว่า 

 

 وَلَا تَشْتَرُوا بِعَهْدِ اللَّهِ ثَمَنًا قَلِيلًا ۚ إِنَّمَا عِندَ اللَّهِ هُوَ خَيْرٌ لَّكُمْ  إِن كُنتُمْ تَعْلَمُونَ)

 مَا عِندَكُمْ يَنفَدُ ۖ وَمَا عِندَ اللَّهِ بَاقٍ ۗ وَلَنَجْزِيَنَّ الَّذِينَ صَبَرُوا أَجْرَهُم بِأَحْسَنِ مَا  كَانُوا يَعْمَلُونَ  

 

     "และพวกเจ้าอย่าแลกเปลี่ยนข้อตกลงของอัลลอฮฺกับราคาเพียงเล็กน้อย แท้จริง ณ ที่อัลลอฮฺย่อมดีกว่าสำหรับพวกเจ้า หากพวกเจ้ารู้ สิ่งที่อยู่กับพวกเจ้าย่อมอันตรธาน และสิ่งที่อยู่กับอัลลอฮฺนั้นย่อมจีรัง และแน่นอน เราจะตอบแทนบรรดาผู้อดทนซึ่งรางวัลของพวกเขาที่ดียิ่งกว่าที่พวกเขาได้เคยกระทำไว้"    

 (อันนะฮฺล์  95-96)

      เมื่อฉันได้อ่านอายะฮฺนี้ ฉันกลับไปอ่านทวนซ้ำเเล้วซ้าอีก จนกระทั่งอัลลอฮฺได้ทรงทำให้ความเจ็บปวดที่อยู่ในหัวใจของฉันมลายหายไปในที่สุด"

 

 

๐๐ หญิงผู้ได้รับเกียรติสูงศักดิ์กระทั่งวันสุดท้ายแห่งดุนยา

 

     ท่านอนัส อิบนิ มาลิก ร่อฎิยัลลอฮุอันฮฺ เคยถามท่านหญิงว่า" ท่านอยากจะเสียชีวิตในสภาพใด?"

     นางตอบว่า : " ด้วยโรคระบาด"

     ท่านอนัสกล่าวว่า : " เพราะมันคือการตายชะฮีดสำหรับผู้ศรัทธา"

     ท่านหญิงฮัฟเซาะฮฺ บินติ ซีรีน เสียชีวิตที่เมืองบัศเราะฮฺ ประเทศอิรัคในปีฮิจเราะฮฺศักราชที่ 92  บางรายงานระบุว่า ปีที่ 101 มีอายุรวม 70 ปี 

     วันญะนาซะฮฺของนาง มีผู้มาร่วมละหมาดญะนาซะฮฺให้แก่นางอย่างล้นหลาม

     มีผู้กล่าวว่า " ไม่ว่าจะเด็กสาวหรือหญิงชรา ทุกคนต่างพากันมาร่วมญะนาซะฮฺของนาง"

 

     ขออัลลอฮฺ ตะอาลา โปรดทรงพอพระทัยในตัวนาง และโปรดทรงอภัยโทษให้แก่นาง เพียงพอแล้วในการที่ชีวประวัติของนางจะเป็นแบบอย่างอันทรงคุณค่าแก่สตรีในทุกยุคทุกสมัย ชื่อและเกียรติประวัติของนางจะถูกจารึกไว้ตลอดไป 

ยอดหญิงแห่งยุคตาบีอีน " ฮัฟเซาะฮฺ บินติ ซีรีน"

 

ربنا اغفر لنا ولإخواننا الذين سبقونا بالإيمان ولا تجعل في قلوبنا 

غلا للذين آمنوا ربنا إنك رؤوف رحيم 

وصل اللهم وسلم على المبعوث رحمة للعالمين 

وآخر دعوانا الحمد لله رب العالمين.

 

 

 

แหล่งอ้างอิงบางส่วน :

https://www.youtube.com/watch?v=owIndXORU8k

https://www.youtube.com/watch?v=0TlWSq3b5VE

https://www.youtube.com/watch?v=u-J4D5gJ98g

https://www.alkhaleej.ae