บทบัญญัติการตั้งชื่อ
พี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย อัลลอฮฺ ได้ประทานลูกหลานให้แก่พวกรา และสิ่งนี้คือริสกีพระองค์ทรงประทานมาให้ ตังนั้นลูกจึงเป็นอะมานะที่เราจะต้องดูแลเลี้ยงดู เพราะในวันกิยามะฮฺพระองค์จะถามเราเกี่ยวกับพวกเขา ว่าเราได้เลี้ยงดูพวกเขาหรือไม่..อย่างไร?? อบรมเขาหรือไม่อย่างไร และจะคิดบัญชีเราจากการสอบสวนนั้น
บุคคลที่ได้ชื่อว่า "ลูก" ไม่ว่าจะเป็น "ลูกชาย" หรือ "ลูกสาว" ล้วนมีสิทธิมากมาย ซึ่งจำเป็นจะต้องแจกแจง แต่ทว่าในคุตบะฮฺนี้ เราจะขอกล่าวแค่สิทธิประการดียวเท่านั้น นั่นก็คือสิทธิของการตั้งชื่อ อันหมายถึง สิทธิของการเลือกชื่อที่ดีให้กับพวกเขา
เราต่างทราบกันดีว่า ชื่อนั่นคือสิ่งที่จะต้องถูกเรียกขาน เป็นสิ่งที่บ่งชี้ถึงตัวคนๆนั้น เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับตัวเขา และยังเป็นสิ่งประดับประดาแก่ตัวของเขาเอง เป็นคำขานที่จะด้องถูกเรียกในขณะที่เขามีชีวิตอยู่บนคุนยานี้ และเมื่อเขาสิ้นชีวิดไปในโลกอาคิเราะฮฺชื่อนี้ก็จะถูกเรียกเช่นกัน และชื่อก็ยังเป็นสิ่งแรกที่บ่งบอกถึงศาสนา และชี้ให้เห็นว่าเขามาจากกลุ่มชนใด !
ท่านทั้งหลายจงพิจารณา ดูผู้ที่เข้ารับอิสลามใหม่เถิด เมื่อเขารับอิสลามแล้ว เขาได้เปลี่ยนชื่อของเขากันอย่างไร ? เพราะด้วยกับชื่อนั่นเองที่บ่งบอกถึงตัวของเขา มันคือเครื่องหมายที่บ่งบอกถึงผู้เป็นพ่อของเขา และถือเป็นบรรทัดฐานที่ละเอียดอ่อนซึ่งบ่งบอกถึงความเคร่งครัดของพ่อของเขา ด้วยเหตุนี้นี่เองสิทธิของการตั้งชื่อจึงตกอยู่ที่ผู้เป็นพ่อตามบทบัญญัติของศาสนา
พึงทราบเถิดพี่น้องครับ สิ่งที่ประชาชาติอิสลามถูกทดสอบมากที่สุดในยุคสมัยนี้ก็คือการลอกเลียนแบบ และปฏิบัติตามกลุ่มชนผู้ปฏิเสธศรัทธา ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบ ขนบธรรมเนียมประเพณี ความคิดความอ่าน การเลี้ยงดูบุตร การใช้ชีวิตในบริบทของสังคม ซึ่งมีมุสลิมอยู่หลายคนที่เลียนแบบพวกเขา ประหนึ่งกับคนกระหายน้ำที่มีความต้องการจะดื่มน้ำเย็น และจากสิ่งที่เกิดขึ้น
ดังกล่าวนี้ก็คือการตั้งชื่อเลียนแบบ โดยที่ชื่อเหล่านั้นไม่มีความหมาย หรือถ้าหากว่ามีความหมายก็ไม่ได้บอกถึงอัตลักษณ์ความเป็นอิสลามเลยแม้แต่น้อย
ณ ปัจจุบันนี้ เราจะเห็นชื่อแปลกๆที่ไม่ใช่ภาษาอาหรับต่างเป็นที่แพร่หลายในหมู่ของมุสลิมจำนวนไม่น้อย ขออัลลอฮฺทรงให้ทางนำกับพวกเขา โดยฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มสตรี เช่น จูเดีย ลอร่า หรือชื่ออื่นๆที่ไม่ใช่ชื่อของมุสลิม , และในบางกลุ่มก็ตั้งชื่อที่ไม่มีความหมาย เช่น ซูซู ฟีฟี่ มีมี่, แล้วชื่อของบรรดาสตรี คอดีญะฮฺ อาอิชะฮฺ ฮัฟเซาะฮฺ มัยมูนะฮฺ ฟาติมะฮฺ และชื่ออื่นๆที่เป็นชื่อของบรรดาศอฮาบียาต (รอดิยัลลอฮฺอันฮุนน่ะ) มันหายไปไหน ? มันไม่อินเตอร์ มันไม่ทันสมัย ? มันไม่เข้ากับยุคนี้หรือ ?
จำเป็นต่อผู้ที่เป็นมุสลิมที่จะต้องใส่ใจกับการตั้งชื่อให้กับลูกๆของเขา โดยที่ชื่อนั้นจะต้องไม่ขัดกับบทบัญญัติ ส่วนชื่ออื่น ๆ ที่เป็นชื่อของผู้ปฏิเสธศรัทธาถือว่าเป็นที่ ต้องห้าม ทั้งทางด้านภาษาและทางด้านบทบัญญัติ ดังนั้นจึงสมควรแก่เราที่จะต้องออกห่างจากชื่อเหล่านั้น และจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเกรงกลัวอัลลอฮฺ ยึดปฏิบัติตามมารยาทของอิสลาม แบบอย่างของท่านนบี ﷺ
จะต้องไม่ทำร้ายลูกหลานของเราเองด้วยกับชื่อต่างๆ เหล่านั้น เพื่อประดับประดาพวกเขาด้วยกับชื่อที่มาจากศาสนบัญญัติ ด้วยเอกลักษณ์ที่เด่นชัดที่สุดของชื่อ คือจะต้องไม่เป็นชื่อที่เหมือนกับชื่อของศัตรูของอิสลาม ซึ่งชื่อต่างๆ ที่พี่น้องของเราได้นำมาตั้งกันโดยที่พวกเขาได้รับอิทธิพลจากชาวตะวันตก ด้วยความเผลอเรอของมุสลิม ความไม่เอาใจใส่ ความไม่เอารู้ในเรื่องของศาสนา ซุบฮานัลลอฮฺ ! ! กี่มากน้อยแล้วที่ชื่อเหล่านั้นถูกเรียกขานกันในหมู่มุสลิม ! เรียกขานกันด้วยชื่อของกลุ่มที่โดนโกรธกริ้วไม่ว่าจะเป็นคริสเดียนหรือยิว หรือกลุ่มชนอื่นจากกลุ่ม่ชนผู้ปฏิเสธศรัทธา
เป็นเรื่องที่ช่างน่าแปลกเสียเหลือเกิน ที่มุสลิมผู้เป็นพ่อตั้งชื่อลูกของเขาด้วยกับชื่อศัตรูของอัลลอฮฺ เปรียบเปรยหนังสือนั้นเมื่อมันถูกอ่านจากหัวข้อของมันฉันท์ใด ลูกก็จะถูกรู้ถึงศาสนาของบิดาจากชื่อของเขาฉันนั้น แล้ว ณ ปัจจุบันเราจะสามารถแยกแยะลูกหลานมุสลิมในขณะที่พวกเขาต่างใช้ชื่อของกาเฟร ใช้ชื่อผู้ปฏิเสธศรัทธา ได้อย่างไร ?!
ผู้ปกครองบางท่าน บางคน พวกเขาตั้งชื่อที่เป็นภาษาอื่นที่ไม่ใช่ภาษาอาหรับ เป็นภาษาอื่นที่ไม่ใช่ภาษาของอัลกุรอ่าน เสมือนกับว่าภาษาของเรานั้นมีจำกัด พี่น้องครับภาษาของอัลกุรอ่านมันน้อยเสียจนเราไม่สามารถหาชื่อให้ลูกหลานของเราได้เลยกระนั้หรือ??!!
มันน่าเสียใจไหมครับลองพิจารณาดูว่า ท่านจะไม่เห็นความแพร่หลายของการตั้งชื่อมุสลิมในชนต่างศาสนิก ในกลุ่มชนอื่นๆเพราะนั่นถือเป็นเกียรติและศักดิ์ศรีของพวกเขา เขาไม่เอาชื่อของพวกเราไปตั้งเลยไม่สนใจใส่ใจเสียด้วยซ้ำ ซึ่งเกียรติของอิสลามนั้นน่ายกย่องสรรเสริญยิ่งกว่าเสียอีก แต่เรานั้นแหล่ะเป็นผู้ที่ละเลยมันเอง เป็นผู้ลดเกียรติของตนเอง
ที่เรามาเรียกร้องกันในคุตบะฮฺนี้เพราะคำว่า ชื่อ นั้นในภาษาอาหรับหมายถึง“เครื่องหมาย หรือ สัญลักษณ์” ดังที่อัลลอฮฺได้ทรงตรัสไว้ว่า :
يَا زَكَرِيَّا إِنَّا نُبَشِّرُكَ بِغُلَامٍ اسْمُهُ يَحْيَىٰ لَمْ نَجْعَل لَّهُ مِن قَبْلُ سَمِيًّا (7)
“โอ้ ซะกะรียาเอ๋ย ! แท้จริงเราจะแจ้งข่าวดีแก่เจ้าซึ่งลูกคนหนึ่ง ชื่อของเขาคือยะห์ยา เรามิเคยตั้งชื่อผู้ใดมาก่อนเลย”
(ซูเราะฮฺมัรยัม อายะฮฺ 7)
และยังมีความหมายคือ สูงส่ง ฉะนั้นแล้วจึงมีความสำคัญสำหรับหัวหน้าครอบครัวในการตั้งชื่อบุตรหลานของท่านเพราะว่าชื่อคือสัญลักษณ์ที่แสดงออกถึงความสูงส่ง
พีงรู้ไว้เถิดว่า ชื่อนั้นมีผลต่อผู้ที่ถูกเรียกอย่างมาก ดังนั้นท่านจงเลือกชื่อที่ดี ทั้งด้านภาษาและความหมาย ให้แก่ลูกๆของท่านเถิด ขออัลลอฮฺประทานความดีงามแก่พวกท่าน และชื่อนั่นเองที่จะทำให้เด็กผูกพันธ์กับบทบัญญัติของอิสลาม จรรยามารยาทอันดีงาม และมีบารอกะฮ์ ในขณะที่เขาถูกขานชื่อของเขา ด้วยกับชื่อของบรรดา นบี หรือ คนที่ศอและฮฺ เขาก็จะได้รับความประเสริฐของการเอาเยี่ยงอย่างของชนสะลัฟ, และทำให้เขาอิ่มอกอิ่มใจ
หากว่าวันหนึ่งเขาโตขึ้นและถามเราว่า : ทำไมถึงเลือกชื่อนี้ให้กับฉัน? ชื่อของฉันหมายความว่าอะไร ? ท่านจะได้ตอบพวกเขาได้อย่างภาคภูมิใจว่าท่านได้เลือกชื่อที่ดีที่สุดให้กับเขาแล้ว
ช่วงเวลาของการตั้งชื่อ ดังกล่าวนี้มีขุนนะฮฺให้ปฏิบัติในสามลักษณะด้วยกันคือ : ตั้งชื่อในวันที่เขาคลอด / ตั้งชื่อในวันที่สามของการคลอด / ตั้งชื่อในวันที่เจ็ดของการคลอด
การตั้งชื่อเป็นสิทธิของผู้เป็นพ่อ : มีรายงานว่ามีศอฮาบะฮฺหลายท่าน เวลาที่ลูกๆของพวกเขาคลอดมาแล้ว พวกเขาก็จะอุ้มลูกของเขาไปหาท่านนบี ﷺ แล้วให้ท่านนบี ﷺ ตั้งชื่อให้แก่ลูกๆของพวกเขา
ระดับความประเสริฐของชื่อต่างๆ..
อิสลามนั้นส่งเสริมให้ตั้งชื่อสองชื่อด้วยกัน นั่นก็คือ อับดุลลอฮฺ อับดุรเราะฮฺมาน ดังที่ท่านนบี ﷺ ได้กล่าวไว้ว่า :
أحبُّ الأسماءِ إلى اللهِ: عبدُ اللهِ وعبدُ الرحمنِ، - ชื่อที่เป็นที่รักยิ่ง ณ ที่อัลลอฮฺ คือ อับดุลเลาะฮฺ และอับดุรเราะฮฺมาน
ชื่อพระนามของอัลลอฮฺ โดยใช้คำว่าอับดุลนำหน้า เช่น อับดุลอาซีส , อับดุลมะลิก เป็นต้น ชื่อของบรรดานบี ชื่อของบรรดาคนที่ศอและฮฺ เช่น ชื่อของบรรดาศอฮาบะฮฺ ตัวอย่างชื่อที่ได้กล่าวไปก่อนหน้านี้เราก็อาจจะคิดว่าชื่อคนนี้ซ้ำคนนั้น ชื่อนี้มีคนตั้งเยอะแล้ว ชื่อนี้ในชุมชนซ้ำหลายคนแล้ว พี่น้องครับ อย่างน้อยประการสุดท้ายก็ขอให้เป็นชื่ออาหรับที่ดี ความหมายดี ที่ไม่ขัดกับบทบัญญัติของศาสนา
ชื่อที่ห้ามตั้ง
- ห้ามตั้งชื่อว่าอับดุล แล้วตามหลังด้วยกับสิ่งที่ไม่ใช่พระนามของอัลลอฮฺ เช่น อับดุลรอซู้ล, อับดุลนบี หรือ อับดุลกะอฺบะฮฺ
- ห้ามตั้งชื่อตามเทวรูป รูปปั้นที่ถูกเคารพสักการะอื่นจากอัลลอฮฺ
- ห้ามตั้งชื่อตามบรรดาชื่อของชัยฏอน เช่น วัลฮาน อะวัร อัลอัจดะฮฺ
- ห้ามตั้งชื่อตามชื่อของบรรดากาเฟร เช่น จอร์จ ไดอาน่า ซูซาน อลิจซาเบต
- ชื่อที่ไม่ใช่รากฐานจากภาษาอาหรับ และเป็นชื่อที่มีความหมายไม่ดี เช่น ชีรีฮาน , ชาดีย์ ที่แปลว่า ลิง
ชื่อที่ไม่สมควรตั้ง
- ชื่อที่แสดงออกถึงความตื่นตระหนก น่าหวาดกลัว หรือมีความหมายที่น่ารังเกียจ
- ตั้งชื่อตามคนชั่วทั้งหลาย นักร้อง นักดนตรี นักแสดง
- ชื่อที่แสดงออกถึงอารมณ์ความรู้สึก และชื่อที่แสดงออกถึงความหอมหวาน หรือชื่อที่แสดงออกทางรักๆใคร่ๆ ในนัยยะของความหมาย ซึ่งในกรณีนี้จะเราจะเห็นอย่างมากในการตั้งชื่อเด็กผู้ ญ
- ชื่อของบรรดาผู้ที่อัลลอฮฺลงโทษ เช่น ฟิรอูน, กอรูน, ฮามาน
- ชื่อของบรรดามลาอิกะฮฺ เช่น ญิบรีล, มีกาอีล, อิสรอฟิล มีนักวิชาการกลุ่มนึงบอกว่าเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ และหากว่านำชื่อบรรดามลาอิกะฮฺมาตั้งชื่อบุตรสาว ถือว่าฮะรอม
- ชื่อของซูเราะฮฺในอัลกุรอ่าน เช่น ตอฮา, ยาซีน, ฮามีม ส่วนคนที่บอกว่าชื่อเหล่านี้เป็นชื่อนบีนั้นไม่ถูกต้อง เพราะว่าเป็นแค่ หุรูฟมุก็อตเต๊าะอะฮฺ ที่อยู่ในตอนต้นของบรรดาซูเราะฮฺเฉกเช่น อลีฟ ลาม มีม ดังที่ชัยคฺ บิน บาซ ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ ได้กล่าวไว้
พี่น้องที่รักทั้งหลาย ท่านทั้งหลายจะถูกถามต่อหน้าอัลลอฮฺ และอะมานะฮฺนี้คือสิ่งที่อัลลอฮฺมอบหมายให้กับพวกท่าน ท่านทั้งหลายพึงระวังและพึงตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วนก่อนจะเลือกชื่อหนึ่งชื่อใดให้กับลูกหลานของพวกท่าน
โอ้ผู้เป็นพ่อทั้งหลาย หน้าที่และความรับผิดชอบนี้ เป็นภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่ของพวกท่าน ท่านทั้งหลายจงยำเกรงอัลลอฮฺเถิด อย่าลืมว่าผู้ใดที่ประทานบุตรหลานให้กับพวกท่าน และท่านทั้งหลายจงเลือกชื่อ ที่เป็นชื่อที่มีเอกลักษณ์ที่สื่อถึงความเป็นอิสลาม ชื่อที่มีรากฐานจากภาษาอาหรับภาษาแห่งอัลกุรอ่าน เป็นชื่อมีความหมายดีๆให้แก่พวกเขาเถิด
และสุดท้ายนี้ขอพระองค์ทรงประทานความสำเร็จให้กับเราและกับพวกท่านด้วยเถิด
แปลและเรียบเรียง อุมมุ วีอาม
ตรวจทาน อบู วีอาม