ต้องอิบาดะฮฺต่ออัลลอฮฺ ตะอาลาองค์เดียวเท่านั้น
อับดุลสลาม เพชรทองคำ
วันนี้จะขอเน้นย้ำเรื่องของเตาฮีดอัลอุลูฮียะฮฺอีกสักครั้ง....
อุละมาอ์ส่วนใหญ่ได้แบ่งเตาฮีดออกเป็นสามประเภท ได้แก่ เตาฮีดอัรรุบูบียะฮฺ เตาฮีดอัลอุลูฮียะฮฺ เตาฮีดอัลอัสมา วัศศิฟาต
สำหรับเตาฮีดอัลอุลูฮียะฮฺ ก็คือการมอบเอกภาพแด่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา หรือมอบการเป็นพระเจ้าองค์เดียวแด่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาในเรื่องที่เราต้องมอบการเคารพอิบาดะฮฺทั้งหมดแด่พระองค์เพียงองค์เดียวเท่านั้น ทั้งในที่ลับและในที่เปิดเผย ทั้งที่อยู่ในจิตใจและการกระทำ โดยเราต้องไม่นำสิ่งหนึ่งสิ่งใด หรือคนหนึ่งคนใดมาทำการเคารพ มาทำการอิบาดะฮฺ มาขอให้ช่วยเหลือในฐานะพระเจ้าที่เป็นร็อบ ผู้ทรงสร้างทุกสิ่งทุกอย่างร่วมกับอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาอย่างเด็ดขาด เราต้องมอบความเป็นพระเจ้าที่ถูกเคารพอิบาดะฮฺแด่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาองค์เดียวเท่านั้น
ความสำคัญของเตาฮีดอัลอุลูฮียะฮฺก็คือ มันเป็นเป้าหมายที่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงสร้างญินและมนุษย์ขึ้นมา ในอัลกุรอานซูเราะฮฺอัซซาริยาต อายะฮฺที่ 56 อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาตรัสว่า
وَمَا خَلَقْتُ الْجِنَّ وَالْإِنسَ إِلَّا لِيَعْبُدُونِ
“และข้าไม่ได้สร้างญินและมนุษย์ขึ้นมาเพื่ออื่นใดทั้งสิ้น นอกจากเพื่อให้เคารพอิบาดะฮฺต่อข้าเท่านั้น”
นี่ก็คือ ภารกิจหลักของบรรดาเราะซูลของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ที่พระองค์ทรงให้มาเรียกร้องเชิญชวนมนุษย์ให้ทำการเคารพอิบาดะฮฺต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาเท่านั้น ในอัลกุรอานซูเราะฮฺอันนะหฺลิ อายะฮฺที่ 36 อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาตรัสว่า
وَلَقَدْ بَعَثْنَا فِي كُلِّ أُمَّةٍ رَّسُولًا أَنِ اعْبُدُوا اللَّهَ وَاجْتَنِبُوا الطَّاغُوتَ ۖ
“และแน่นอน เราได้ส่งเราะซูลมาในทุกๆประชาชาติ (โดยให้พวกเขาเรียกร้องเชิญชวน)ว่า
พวกท่านจงเคารพอิบาดะฮฺอัลลอฮฺเท่านั้น และจงออกห่างจากบรรดาอัฏฏอฆูต”
อัฏฏอฆูต الطَّاغُوتَ ก็คือ บรรดาเจว็ด บรรดารูปปั้น หรือสิ่งหนึ่งสิ่งใด หรือคนหนึ่งคนใด หรือทุก ๆอย่างที่ถูกผู้คนนำมาเคารพสักการะ นำมาเคารพบูชากราบไหว้ นำมาเป็นหุ้นส่วนในการเคารพอิบาดะฮฺร่วมกับอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาด้วยความสมัครใจ ...อัฏฏอฆูตจึงมีรูปแบบมากมาย และมันก็คือบรรดาสิ่งที่ถูกนำมาเป็นอิลาฮฺ เป็นพระเจ้าร่วมกับอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลานั่นเอง
เราจะเห็นว่าเรื่องสำคัญที่สุดที่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงสั่งใช้ให้เราทำก็คือ มอบเตาฮีดอัลอุลูฮียะฮฺแด่พระองค์เพียงองค์เดียวเท่านั้น ในขณะเดียวกันเรื่องใหญ่ที่สุดที่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงสั่งห้ามเรา ก็คือ ห้ามทำชิริกต่อพระองค์
หลักฐานในอัลกุรอานซูเราะฮฺอันนิซาอ์ سورة النساء ส่วนต้นของอายะฮฺที่ 36 อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาตรัสว่า
وَاعْبُدُوا اللَّهَ وَلَا تُشْرِكُوا بِهِ شَيْئًا ۖ
“พวกเจ้าจงเคารพอิบาดะฮฺอัลลอฮฺ(เท่านั้น)
และพวกเจ้าอย่าได้นำสิ่งหนึ่งสิ่งใด(หรือคนหนึ่งคนใด)มาเป็นชิริก(หรือมาเป็น)ภาคีร่วมกับพระองค์(อย่างเด็ดขาด)”
ดังนั้น การทำชิริกมันก็คือสิ่งที่มาลบล้าง หรือมาทำให้เตาฮีดของเราไม่มีความสมบูรณ์ มันมาทำลายอิบาดะฮฺ การงานทั้งหมดของเราให้กลายเป็นโมฆะ กลายเป็นสิ่งไร้ค่าในวันกิยามะฮฺ
อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาจะไม่ทรงอภัยโทษให้แก่ผู้ที่ทำชิริก นอกจากว่าเขาจะเตาบะฮฺ กลับเนื้อกลับตัว ขออภัยโทษต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา และละเลิกจากการทำชิริกเสียก่อน ..ส่วนมุสลิมคนใดที่เสียชีวิตลงโดยยังทำชิริกอยู่ ในวันกิยามะฮฺ เขาจะไม่ได้รับการอภัยโทษจากอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาเลย อันเป็นสาเหตุทำให้เขาไม่ได้เข้าสวรรค์ และต้องตกนรกตลอดกาล ...นี่ก็คือความร้ายแรงของการทำชิริก ความร้ายแรงของการที่มนุษย์เราไม่ได้มอบเตาฮีดอัลอุลูฮียะฮฺแด่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาเพียงองค์เดียว
ดังนั้น เราต้องพยายามขัดเกลาจิตใจของเราให้มีเตาฮีดอัลอุลูฮียะฮฺ เพื่อที่เราจะได้มอบการอิบาดะฮฺทั้งหมดต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานูวะตะอาลาเพียงองค์เดียวเท่านั้น เราจะไปมอบให้แก่ผู้อื่นไม่ได้ จะไปมอบให้แก่สิ่งใดก็ไม่ได้ เพราะถ้าเราทำอิบาดะฮฺโดยไปมอบให้แก่ผู้อื่น หรือมอบให้กับสิ่งอื่น ๆก็เท่ากับเป็นการทำชิริก หรือเป็นการตั้งภาคีต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา เราจำเป็นต้องตั้งเป้าหมายในการทำอิบาดะฮฺทั้งหมดของเราว่า ต้องทำเพื่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาเท่านั้น โดยเราต้องไม่ยอมให้มีภาคีใด ๆทั้งสิ้นต่อพระองค์อย่างเด็ดขาด
อย่างเช่น เมื่อเรามีความยากจน มีริสกีไม่พอใช้ ไม่พอกิน ได้รับความลำบาก มีชีวิตฝืดเคือง ก็ให้เราวิงวอนขอดุอาอ์ ขอความช่วยเหลือจากอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาโดยตรง ไม่ต้องเดินทางไปที่กุบูรของใคร ๆ แล้วก็ไปขอต่อกุบูรนั้นกุบูรนี่ ไปขอความช่วยเหลือต่อกุบูรให้ได้รับรีสกีมาก ๆ อย่างนี้ถือเป็นเรื่องการทำชิริก เป็นการตั้งภาคี ซึ่งจะทำให้สถานะของผู้กระทำชิริกนั้น กลายเป็น กาฟิร เป็นผู้ปฏิเสธศรัทธา
การขอความช่วยเหลือในเรื่องนี้ หมายถึงการขอความช่วยเหลือในเรื่องที่มนุษย์ไม่มีความสามารถจะให้ได้ เป็นเรื่องที่มันเกินความสามารถของมนุษย์ ไม่ใช่ความช่วยเหลือธรรมดา ๆที่มนุษย์เราสามารถที่จะช่วยเหลือต่อเพื่อนมนุษย์ได้ เช่น บริจาคเงิน เพื่อช่วยเหลือคนเดือดร้อน อย่างนี้เป็นเรื่องที่มนุษย์เราสามารถทำได้ แต่ถ้าจะไปขอต่อคน ๆหนึ่งแล้วก็ไปขอว่า ขอให้ท่านทำให้ฉันได้กลายเป็นคนที่ร่ำรวย มีริสกีมากมายด้วยเถอะ อย่างนี้ไม่ได้ ในอัลกุรอานซูเราะฮฺอัลมุอ์มินูน อายะฮฺที่ 117 อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาตรัสว่า
وَمَن يَدْعُ مَعَ اللَّهِ إِلَٰهًا آخَرَ لَا بُرْهَانَ لَهُ بِهِ فَإِنَّمَا حِسَابُهُ عِندَ رَبِّهِ ۚ إِنَّهُ لَا يُفْلِحُ الْكَافِرُونَ
“หากผู้ใดวิงวอนขอ(ความช่วยเหลือเรื่องหนึ่งเรื่องใด)จากสิ่งเคารพอื่น ๆ (นำมันมาเป็นพระเจ้าคู่เคียงกับอัลลอฮฺ เช่น หากใครประสบปัญหาอะไร คิดอะไรไม่ออก ทำอะไรไม่ได้ ก็วิ่งไปหาโต๊ะครู หาพ่อมดหมอผี หาหมอดูให้มาช่วยเหลือ ไปมอบความไว้วางใจต่อสิ่งอื่น การทำในลักษณะเช่นนี้)ไม่มีหลักฐานหรือข้ออ้างอันใดยืนยันให้ทำอย่างนั้นได้
แท้จริง حِسَاب หิสาบ (หรือการคิดบัญชีการกระทำของเขา)อยู่ที่พระเจ้าของเขาเท่านั้น (หมายความว่า บัญชีการกระทำใดจะบันทึกอย่างไร สิ่งที่จะถูกชำระบัญชีนั้นจะเป็นไปตามบัญชาหรือคำสั่งของพระองค์)
แน่นอนยิ่ง พระองค์จะไม่ทรงยินยอมให้บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาประสบความสำเร็จ (คือในโลกดุนยานี้ พวกเขาจะไม่ได้รับชีวิตที่ดีงามจากอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา และพวกเขาก็จะไม่ได้เข้าสวนสวรรค์ในวันกิยามะฮฺนั่นเอง)”
นอกจากนี้แล้ว เมื่อใครก็ตามที่มีสถานะเป็นกาฟิร เป็นผู้ปฏิเสธศรัทธา ก็พึงทราบไว้เถิดว่า อิบาดะฮฺทุกอย่าง การงาน การทำความดีต่าง ๆที่เขาลงทุนลงแรงทำไปตั้งมากมายก่ายกองจะกลายเป็นโมฆะ สูญสิ้น สูญหายไปหมด ณ ที่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา เพราะมันไม่มีรางวัลตอบแทนจากอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา
อัลกุรอานในซูเราะฮฺอัลอันอาม ส่วนท้ายของอายะฮฺที่ 88 อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาตรัสว่า
“.وَلَوْ أَشْرَكُوا لَحَبِطَ عَنْهُم مَّا كَانُوا يَعْمَلُونَ..."
“และหากพวกเขาทำชิริก แน่นอน สิ่งที่พวกเขาได้กระทำไว้ก็จะสูญสิ้นไปจากเขา”
ไม่มีรางวัลตอบแทนใดๆแก่ผู้ที่ทำชิริก นอกจากนี้การทำชิริกยังเป็นสาเหตุให้ผู้นั้นไม่ได้เข้าสวรรค์ เมื่อไม่ได้เข้าสวรรค์ก็ต้องไปนรก อัลกุรอานในซูเราะฮฺอัลมาอิดะฮฺ ส่วนกลางของอายะฮฺที่ 72 อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาตรัสว่า
“...إِنَّهُ مَن يُشْرِكْ بِاللَّهِ فَقَدْ حَرَّمَ اللَّهُ عَلَيْهِ الْجَنَّةَ وَمَأْوَاهُ النَّارُ ۖ .”
“แท้จริงแล้ว ผู้ใดที่ทำชิริกต่ออัลลอฮฺ แน่นอนที่สุด พระองค์ได้ทรงปิดกั้นเขาจากการได้เข้าสวรรค์ และที่พำนักของเขาก็คือนรก”
สำหรับบรรดาผู้ที่เคารพอิบาดะฮฺต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาด้วยความสัจจริง เขาจะได้พบกับความสุข ความสงบอันยิ่งใหญ่ และมีชีวิตที่ดีงามยิ่ง อัลกุรอานในซูเราะฮฺอันนะหฺลิ ส่วนต้นของอายะฮฺที่ 97 อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาตรัสว่า
مَنْ عَمِلَ صَالِحًا مِّن ذَكَرٍ أَوْ أُنثَىٰ وَهُوَ مُؤْمِنٌ فَلَنُحْيِيَنَّهُ حَيَاةً طَيِّبَةً ۖ
“ผู้ใดที่ปฏิบัติความดี ไม่ว่าชายหรือหญิง โดยที่เขาเป็นผู้ศรัทธา
แน่นอน เราจะให้เขามีชีวิตที่ดีงาม(ทั้งในโลกดุนยานี้และโลกอาคิเราะฮฺ)”
จากอายะฮฺอัลกุรอานข้างต้น เราจะเห็นผลตอบแทนที่แตกต่างกันของคนที่ทำชิริก กับคนที่มีเตาฮีดต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาที่จะได้รับในวันกิยามะฮฺ เราจะเห็นว่ามันแตกต่างกันอย่างสุดขั้ว ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่เราต้องระมัดระวังให้มาก ๆ ในการดำเนินชีวิตในแต่ละวันของเรา
พยายามให้มันดำรงอยู่บนเตาฮีดของอัลลอฮฺ ซูบฮานะฮูวะตะอาลัม เราต้องพยายามศึกษาหาความรู้ และเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เราต้องทำความเข้าใจในเรื่องของการทำอิบาดะฮฺให้มาก ๆ เพราะการทำอิบาดะฮฺนั้น มันไม่ได้หมายถึงเฉพาะเรื่องของการละหมาด ไม่ได้หมายถึงเฉพาะเรื่องของการถือศีลอด หรือเรื่องของการจ่ายซะกาต เรื่องของการทำเศาะดะเกาะฮฺ เรื่องของการทำฮัจญ์เท่านั้น
แต่อุละมาอ์ให้ความหมายของ ”อิบาดะฮ์”ว่า หมายถึง ทุกสิ่งทุกอย่างทุกกิจการงานทั้งหลายที่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงชอบ ทรงรัก ทรงพอพระทัย ทั้งที่อยู่ในจิตใจของเรา หรือคำพูดของเรา หรือจะเป็นการกระทำ การปฏิบัติต่าง ๆที่แสดงออกให้ปรากฏออกมาทั้งในที่เปิดเผยและไม่เปิดเผย
สุดท้ายนี้ ขออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาได้ประทานบะเราะกะฮฺ ความจำเริญ ความเมตตาแก่เรา ขอพระองค์โปรดอภัยโทษในความผิดต่าง ๆของเรา โปรดให้เราเป็นผู้ที่มีอิคลาศในการทำอิบาดะฮฺทั้งหมด ขอให้เราได้มีความรู้ความเข้าใจในหลักอะกีดะฮฺ อย่างถูกต้อง และปฏิบัติตนอย่างดีงามเพื่อจะได้ดำรงตนให้อยู่ในแนวทางที่ถูกต้องเที่ยงตรง และห่างไกลจากแนวทางที่หลงผิด ขอให้เราได้ศรัทธาและยึดมั่นในหลักการศาสนาของพระองค์อย่างเหนียวแน่น อย่างมั่นคง และเสียชีวิตในสภาพที่นอบน้อมยอมจำนนต่อพระองค์โดยสิ้นเชิง
( นะศีหะหฺ มัสญิดดารุลอิหฺซาน บางอ้อ )