มีแก่นของอัลอิสลามในหัวใจหรือยัง ?
คอเฏ็บ อับดุลสลาม เพชรทองคำ
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงสั่งใช้เราให้มีอัตตักวา ก็คือมีความยำเกรงต่อพระองค์ เพราะการยำเกรงต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลานั้น หากมีอยู่ในหัวใจของเราแล้ว มันก็จะเป็นเสมือนกำแพงที่ขวางกั้นเรา ไม่ให้ทำสิ่งที่เป็นมะอฺศิยะฮฺ สิ่งที่เป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา และมันก็จะเป็นแรงผลักดันเราให้ปฏิบัติในสิ่งที่เป็นอะมัลเศาะลิหฺต่างๆ
ซึ่งผลสุดท้ายของการที่เรามีความยำเกรงต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา นั่นก็คือ การที่เราได้ปกป้องตัวของเราเองให้รอดพ้นจากการถูกลงโทษในไฟนรกของพระองค์ในวันกิยามะฮฺ และเรายังได้รับชีวิตที่ดีงามในโลกดุนยานี้ และในโลกอาคิเราะฮฺเราก็จะได้รับรางวัลตอบแทนด้วยสวนสวรรค์ของพระองค์ และสิ่งพิเศษมากมายที่อยู่ภายในสวนสวรรค์นั้น
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย อัลหะดีษในบันทึกของอิมามมุสลิม รายงานจากท่านอบีอัมร์ หรือบางรายงานก็กล่าวว่าเป็นรายงานจากท่านอบีอัมเราะฮฺ ..ซึ่งก็คือท่านซุฟยาน บิน อับดุลลอฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ท่านได้เล่าว่า ..ฉันได้กล่าว(กับท่านเราะซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮฺวะซัลลัม)ว่า
: يَا رَسُولَ اللهِ قُلْ لِيْ فِيْ الإِسْلاَمِ قَوْلاً لاَ أَسْأَلُ عَنْهُ أَحَدًا غَيْرَكَ.
“โอ้ท่านเราะซูลุลลอฮฺ โปรดบอกผมเกี่ยวกับอัลอิสลาม ด้วยถ้อยคำที่ผมไม่ต้องไปถามผู้ใดอีกแล้วนอกจากท่านด้วยเถิด”
آمَنْتُ بِاللهِ، ثُمَّ اسْتَقِمْقَالَ: قُلْ
(ท่านเราะซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมจึงได้)กล่าวว่า “ท่านจงกล่าวเถิดว่า آمَنْتُ بِاللهِ ฉันศรัทธาต่ออัลลอฮฺ และหลังจากนั้น اسْتَقِمْ ท่านก็จงยืนหยัดอย่างมั่นคง(บนการศรัทธาต่ออัลลอฮฺนั้น)”
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย ถ้อยคำที่ผู้รายงานอัลหะดีษกล่าวกับท่านเราะซูลุลลอฮฺข้างต้นนั้น เปรียบเสมือนถ้อยคำที่ปรารถนาจะให้ท่านเราะซูลุลลอฮฺกล่าวถึงแก่นของอัลอิสลาม ซึ่งคำตอบของท่านเราะซูลุลลอฮฺก็คือ ให้เราศรัทธาต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา เมื่อเราศรัทธาต่อพระองค์แล้วก็ให้เรายืนหยัดอยู่บนการศรัทธาต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลานั้นให้มั่นคง ...ซึ่งอุละมาอ์ได้กล่าวว่า ทั้งสองถ้อยคำนี้ได้บรรจุเนื้อหาของอัลอิสลามไว้ทั้งหมด ...
และแน่นอน การศรัทธาต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลานั้น ย่อมไม่ใช่การศรัทธาที่พูดออกมาเพียงลมปากว่า ..ฉันศรัทธาต่ออัลลอฮฺ.. แล้วก็จบกัน.. แต่มันต้องเป็นการศรัทธาที่ครบในเงื่อนไขสามประการ นั่นคือ การกล่าวออกมาเป็นคำพูด พร้อมด้วยหัวใจที่ต้องยึดมั่นตามคำกล่าวนั้น และในขณะเดียวกันก็ต้องแสดงออกมาด้วยอวัยวะร่างกายตามที่คำพูดได้กล่าวไว้ และตามที่หัวใจได้ยึดมั่น
การศรัทธาต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทั้งคำพูด ทั้งหัวใจ ทั้งการปฏิบัติด้วยอวัยวะร่างกายนั้นก็ต้องเป็นการศรัทธาต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ที่ประกอบไปด้วยองค์ประกอบ 2 ส่วน นั่นก็คือ
♦ ส่วนที่หนึ่งคือ การศรัทธาในการมีอยู่จริงของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา มั่นใจอย่างเต็มร้อยในความมีอยู่จริงของพระองค์โดยไม่มีข้อสงสัยใด ๆเลย
♦ ส่วนที่สองคือ การศรัทธาต่อเตาฮีดของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา นั่นก็คือ การมอบความเป็นพระเจ้าเพียงองค์เดียวเท่านั้นแด่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทั้งในด้านของอัรรุบูบียะฮฺ ด้านของอัลอุลูฮียะฮฺ และด้านของอัลอัสมาอ์วัศศิฟาต
ด้านของอัรรุบูบียะฮฺ توحيدالربوبية
คือ การมอบเอกภาพแด่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาในด้านที่เป็นร็อบ رب ด้านที่เป็นพระเจ้าผู้ทรงสร้างทุกสิ่งทุกอย่าง เมื่อทรงสร้างทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว พระองค์ก็ทรงเป็นเจ้าของ เป็นผู้ทรงครอบครองทุกสิ่งทุกอย่างที่พระองค์ทรงสร้างด้วย และยังเป็นผู้ทรงดูแลควบคุมทุกสิ่งทุกอย่าง บริหารโลกและจักรวาล ชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน และสิ่งที่อยู่ระหว่างชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดินด้วย ทรงเป็นพระเจ้าแห่งสากลโลก ผู้ทรงกรุณาปรานีต่อทุก ๆสรรพสิ่งบนโลกนี้
เป็นพระเจ้าผู้ทรงเมตตาต่อบรรดามุสลิมมุอ์มินทั้งหมด เป็นพระเจ้าผู้ทรงสิทธิ์ มีอำนาจแต่เพียงพระองค์เดียวทั้งในโลกดุนยานี้ และในวันแห่งการพิพากษา วันแห่งการตอบแทนในโลกอาคิเราะฮฺ เป็นผู้ประทานปัจจัยยังชีพ ผู้ทรงให้ชีวิตและทรงให้ตาย ผู้ทรงให้คุณและโทษ ผู้ทรงเดชานุภาพเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง โดยไม่มีผู้ใดหรือสิ่งใดมามีส่วนร่วมในกิจการทั้งหมดของพระองค์เลย
สำหรับด้านของอัลอุลูฮียะฮฺ توحيدالألوهية
คือการมอบเอกภาพแด่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาในเรื่องที่เราต้องมอบการเคารพอิบาดะฮฺทั้งหมดแด่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาเพียงองค์เดียวเท่านั้น ทั้งในที่ลับและในที่เปิดเผย ทั้งที่อยู่ในจิตใจและการกระทำ โดยเราต้องไม่นำสิ่งหนึ่งสิ่งใด หรือคนหนึ่งคนใดมาทำการเคารพ มาทำการอิบาดะฮฺ มาขอให้ช่วยเหลือในฐานะพระเจ้าร่วมกับอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาอย่างเด็ดขาด เราต้องมอบความเป็นพระเจ้าที่เป็นอิลาฮ์ اله องค์เดียวแด่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาเท่านั้น
ความหมายของคำว่า”ร็อบ” กับ “อิลาฮ์” ที่เราแปลว่า พระเจ้านั้น ความหมายจะต่างกันตรงที่ว่า “ร็อบ” คือพระเจ้าที่เป็นผู้ทรงสร้าง ผู้ทรงอภิบาลดูแล ทรงคุ้มครอง ผู้ทรงประทานปัจจัยยังชีพ เป็นพระเจ้าเพียงองค์เดียวเท่านั้น ไม่มีใครและไม่มีสิ่งใดสามารถเป็น ”ร็อบ” ได้
แต่ “อิลาฮ์” หมายถึง พระเจ้าที่ถูกนำมาเคารพอิบาดะฮฺ พระเจ้าที่ถูกนำมาไหว้วอน ถูกนำมาร้องขอให้ช่วยเหลือในเรื่องที่มนุษย์ไม่มีความสามารถทำได้ ยกตัวอย่างเช่น ใครไปกราบไหว้รูปปั้น รูปปั้นนั้นก็คืออิลาฮ์ ..ใครไปวอนขอกราบไหว้ต้นไม้ ต้นไม้ต้นนั้นก็เป็นอิลาฮ์..หรือใครไปวอนขอความช่วยเหลือจากกุบูร กุบูรนั้นก็คืออิลาฮ์
ดังนั้น เตาฮีดอัลอุลูฮียะฮฺ คือการที่เราต้องมอบความเป็นอิลาฮ์แด่อัลลอฮ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาเพียงองค์เดียวเท่านั้น เราต้องไม่นำสิ่งถูกสร้างอื่นใดทั้งสิ้นมาเป็นอิลาฮ์ร่วมกับอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาอย่างเด็ดขาด เพราะถือเป็นการตั้งภาคี เป็นการทำชิริกต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา อันเป็นเรื่องที่ร้ายแรงที่สุด
สำหรับด้านของอัลอัสมาอ์ วัศศิฟาต توحيدالأسماءوالصفات
คือการมอบความเป็นพระเจ้าองค์เดียวในเรื่องของพระนามอันงดงามและคุณลักษณะอันสูงส่งแด่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา เป็นการศรัทธาต่อบรรดาพระนามและบรรดาคุณลักษณะของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาตามที่ถูกระบุไว้ในอัลกุรอานและอัลหะดีษเท่านั้น โดยจะต้องไม่มีการเบี่ยงเบนในความหมาย ไม่มีการตีความ และต้องไม่นำไปเปรียบเทียบกับลักษณะของมัคลูก็อต หรือสิ่งที่ถูกสร้างทั้งหมดของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาด้วย โดยพระองค์ไม่ทรงเหมือนสิ่งใด และไม่มีสิ่งใดเหมือนพระองค์ ..ถือเป็นพระนามและคุณลักษณะอันสมบูรณ์ทุกประการ โดยไม่มีข้อบกพร่องใด ๆทั้งสิ้น
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย เมื่อเราได้ศรัทธาต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาตามเงื่อนไขที่กล่าวมาข้างต้นอย่างครบถ้วนแล้ว ท่านเราะซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมก็ให้เรา اسْتَقِمْ นั่นก็คือ อัลอิสติกอมะฮฺ คือการยืนหยัดอย่างมั่นคงบนการศรัทธาต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลานั้น นั่นก็หมายความว่า ให้เรามีความเคร่งครัดในการปฏิบัติตามบทบัญญัติศาสนาของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา
โดยให้เราปฏิบัติตามคำสั่งใช้ของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา โดยปฏิบัติอย่าง “مَا اسْتَطَعْتُمْ มัสตะเฏาะอ์ตุม” คือทำให้เต็มความสามารถของเรา ทำอย่างเต็มที่ที่ความสามารถของเราจะทำได้ ..ในขณะเดียวกันเราก็ต้องออกห่างจากคำสั่งห้ามของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาโดยสิ้นเชิง ...เราอย่าตั้งใจฝ่าฝืนบทบัญญัติศาสนาของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา อย่าตั้งใจทำสิ่งที่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงห้าม
และเราอย่าทำควบคู่กันทั้งคำสั่งใช้และคำสั่งห้าม ...คำสั่งใช้เราก็ทำ คำสั่งห้ามเราก็ทำ อย่างนี้ไม่ได้ ..แต่ให้เราปฏิบัติตามคำสั่งและยึดมั่นต่อบทบัญญัติศาสนาไว้ให้มั่น ไม่ว่าเราจะพบสถานการณ์ใด ๆก็ตาม เราต้องตั้งใจที่จะไม่หันหลัง ไม่หันเหออกจากบทบัญญัติศาสนาของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาอย่างเด็ดขาด สิ่งไหนถูกก็ยึดมั่นปฏิบัติตาม สิ่งไหนผิดก็ต้องว่าผิด ไม่ไปทำ อย่าโอนอ่อนไปตามกระแสสังคม
อย่าไปตามคนหมู่มากในเรื่องที่มันไม่ถูกต่อบทบัญญัติศาสนา เราอย่าไปคิดว่าคนส่วนใหญ่เขาทำ เราก็เลยทำบ้าง เพราะอัลอิสลามไม่ใช่ให้ทำตามคนส่วนใหญ่ แต่อัลอิสลามให้ทำตามบทบัญญัติศาสนาของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ซึ่งสิ่งนี้รวมถึง المتابعه การมุตาบะอะฮฺด้วย ... การมุตาบะอะฮฺก็คือ การปฏิบัติตามแบบฉบับของท่านเราะซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ..ซึ่งทั้งหมดนั้นก็คือ แก่นของอัลอิสลามเพื่อให้เรายึดมั่นปฏิบัติตามในการดำเนินชีวิตประจำวันของเรา เพื่อให้ชีวิตของเราได้มั่นคงอยู่บนทางนำที่ถูกต้อง และจากโลกดุนยานี้ไปในสภาพที่เป็นบ่าวที่กตัญญูต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาอย่างแท้จริง
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย เมื่อเราหันมามองสภาพสังคมที่เราใช้ชีวิตอยู่ในทุกวันนี้ เราจะพบเห็นฟิตนะฮฺต่าง ๆเกิดขึ้นอย่างมากมาย .. เราเห็นเรื่องที่ผิดต่อบทบัญญัติศาสนาของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาเกิดขึ้นในสังคม ..เราเห็นผู้นำบางคน เราเห็นผู้แทนประชาชนบางคนที่คอยแต่จะเปิดโอกาส เปิดพื้นที่ให้กับความไม่ดีไม่งามต่าง ๆให้เกิดขึ้นในสังคม ทำเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เรื่องที่มันผิดต่อบทบัญญัติศาสนาให้เป็นเรื่องที่แพร่กระจายในสังคม
เราเห็นการเปิดพื้นที่ให้กับกัญชากัญชงซึ่งเป็นสิ่งเสพติดให้มันแพร่กระจายไปในสังคม ..
เห็นการเปิดพื้นที่ให้กับเรื่องของเพศที่สาม ..
เห็นความพยายามในทำให้เรื่องของการพนัน เรื่องของบ่อน เรื่องของคาสิโนให้เป็นเรื่องที่ถูกกฎหมาย
เห็นเรื่องไม่ถูกต้อง ไม่ดีงามเกิดขึ้นอย่างมากมาย ซึ่งคอยแต่จะหลอกล่อเราให้หันห่างออกจากบทบัญญัติของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาได้ง่าย ๆ จึงเป็นเรื่องที่เราต้องยึดมั่น ต้องยืนหยัดต่อแก่นของอัลอิสลามนี้ให้ได้อย่างมั่นคง ..
และแน่นอน การที่เราศรัทธาต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา และยืนหยัดอย่างมั่นคงต่อบทบัญญัติศาสนาของพระองค์ ไม่หลงคล้อยตาม ไม่ไปเห็นดีเห็นงามกับเรื่องที่ไม่ถูกต้องนั้น อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาจะทรงตอบแทนรางวัลให้แก่เราอย่างดีงาม
ในอัลกุรอานซูเราะฮฺฟุศศิลัต อายะฮฺที่ 30 อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาตรัสว่า
﴿ إِنَّ ٱلَّذِينَ قَالُواْ رَبُّنَا ٱللَّهُ ثُمَّ ٱسۡتَقَٰمُواْ تَتَنَزَّلُ عَلَيۡهِمُ ٱلۡمَلَٰٓئِكَةُ أَلَّا تَخَافُواْ وَلَا تَحۡزَنُواْ وَأَبۡشِرُواْ بِٱلۡجَنَّةِ ٱلَّتِي كُنتُمۡ تُوعَدُونَ ٣٠ ﴾
“แท้จริงบรรดาผู้กล่าวว่า อัลลอฮฺ คือพระเจ้าของเรา แล้วหลังจากนั้น พวกเขาก็ยืนหยัดอย่างมั่นคงตามคำกล่าวนั้น.. มะลาอิกะฮฺจะลงมาหาพวกเขา (ด้วยอนุมัติของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ในทุกๆสถานที่เขาหวาดกลัว โดยเฉพาะขณะที่กำลังใกล้จะตาย มะลาอิกะฮฺจะกล่าวกับพวกเขาว่า)
พวกท่านไม่ต้องหวาดกลัวใดๆ (ไม่ต้องหวาดกลัวในเรื่องที่จะเกิดขึ้นในภายหน้า หรือสิ่งที่ต้องเผชิญในโลกหน้า)
และพวกท่านไม่ต้องเศร้าเสียใจ (ต่อสิ่งที่ได้เกิดขึ้นไปแล้ว ไม่ต้องเศร้าเสียใจในความทุกข์ยากลำบากที่ได้รับในโลกดุนยา ไม่ต้องเสียใจที่ได้ยืนหยัดปฏิบัติตามบทบัญญัติ ทำให้อดได้รับในสิ่งที่พวกท่านอยากจะได้แล้วไม่ได้ แต่พวกท่าน)
จงยินดีต่อข่าวดีที่พวกท่านจะได้รับ (ข่าวดีนั้นก็คือ) พวกท่านจะได้เข้าสวรรค์(ของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา)ตามที่พวกท่านได้ถูกสัญญาไว้”
นั่นก็หมายความว่า พวกเขาจะได้เป็นชาวสวรรค์ และได้พำนักในสวรรค์อันบรมสุขนั้นตลอดกาล เป็นรางวัลตอบแทนต่อการที่พวกเขาศรัทธาต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา และยืนหยัดต่อบทบัญญัติของพระองค์อย่างมั่นคง
แต่สำหรับผู้ที่ละเมิดขอบเขตบทบัญญัติศาสนาของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ไม่ยึดมั่นต่อบทบัญญัติศาสนา ไม่ใส่ใจ ไม่ยืนหยัดอย่างมั่นคงต่อบทบัญญัติศาสนา เขาก็จะต้องเป็นผู้ที่ได้รับการลงโทษจากอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาอย่างแน่นอน
ในอัลกุรอานซูเราะฮฺอัซซะญะดะฮฺ อายะฮฺที่ 22 อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาตรัสว่า
وَمَنۡ أَظۡلَمُ مِمَّن ذُكِّرَ بِـَٔايَٰتِ رَبِّهِۦ ثُمَّ أَعۡرَضَ عَنۡهَآۚ إِنَّا مِنَ ٱلۡمُجۡرِمِينَ مُنتَقِمُونَ
"และผู้ใดเล่าจะอธรรมยิ่งไปกว่าผู้ถูกเตือนให้รำลึกถึงอายะฮฺต่าง ๆของพระเจ้าของพวกเขา (ให้พวกเขาได้ปฏิบัติตาม) แต่แล้วพวกเขาก็หันหลังให้กับอายะฮฺเหล่านั้น (ไม่สนใจเรียนรู้ ไม่สนใจปฏิบัติตาม) แท้จริง เราเป็นผู้ลงโทษบรรดาผู้กระทำผิด (ที่ไม่สนใจปฏิบัติตามบทบัญญัติศาสนา และเป็นการลงโทษอันเจ็บปวดอย่างแน่นอน)”
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย ทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นก็คือ สิ่งที่นำมาตักเตือนกัน เตือนท่านทั้งหลายและเตือนตัวผู้พูดเองให้มีความตั้งใจที่จะยืนหยัดต่อบทบัญญัติศาสนาของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาอย่างเข้มแข็ง ท่ามกลางสภาพสังคมในยุคปัจจุบันนี้ที่เต็มไปด้วยเรื่องของการพนัน เรื่องของดอกเบี้ย เรื่องของสิ่งที่ผิดต่อบทบัญญัติของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลามากมาย ..
ดังนั้น เราต้องอย่าให้ผลประโยชน์ต่าง ๆบนโลกดุนยาที่มาพร้อมกับเรื่องที่ผิดต่อบทบัญญัติศาสนา มาทำให้เราต้องละทิ้งบทบัญญัติศาสนาของพระองค์ แต่เราต้องยึดมั่นศรัทธาต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาไว้ให้ได้อย่างมั่นคง และยืนหยัดปฏิบัติตามบทบัญญัติศาสนาของพระองค์ไว้อย่างเหนียวแน่น
สุดท้ายนี้ ขออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาโปรดให้เราเป็นผู้ที่ศรัทธาต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาตามเงื่อนไขที่ถูกต้อง และโปรดให้เราเป็นผู้ที่ยืนหยัดอย่างมั่นคงต่อบทบัญญัติศาสนาของพระองค์ และให้เราได้เสียชีวิตในสภาพของผู้ที่นอบน้อมยอมจำนนต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาอย่างสิ้นเชิง
( คุฏบะฮฺวันศุกร์ มัสญิดดารุลอิหฺซาน บางอ้อ )