ภาวะสับสนและซวนเซ
อาบีดีณ โยธาสมุทร แปลเรียบเรียง
-เชค มุฮัมมัด สอี๊ด ร็อซลาน ฮะฟิศ่อฮุ้ลลอฮฺ -
"... พวกเราไม่เคยตกอยู่ในภาวะสับสนและซวนเซใดๆทั้งสิ้น! ไม่ว่าจะมีเรื่องราวอะไรก็ตามเกิดขึ้นและไม่ว่าจะมีประเด็นอะไรใหม่ๆผุดขึ้นมาก็ตามแต่ พวกเรา ไม่เคยตกอยู่ในภาวะสับสนและซวนเซใดๆเลย! ชาวอะฮฺลุ้ซซุนนะฮฺไม่เคยตกอยู่ในความสับสนซวนเซใดๆเลยทั้งสิ้นแม้แต่เพียงสักวันเดียว!
จะให้เป็นอย่างนั้นไปได้อย่างไรกัน ก็ในเมื่อพวกเขาเป็นพวกที่ตั้งมั่นกันอยู่บนเส้นทางอันขาวจรัส ซึ่งเวลากลางคืนของมันเป็นดั่งเวลากลางวัน ที่ไม่มีใครทั้งสิ้นที่จะแฉลบออกไปจากทางสายนี้ นอกจากเฉพาะบุคคลผู้เป็นผู้พินาศเท่านั้น!
อัลลอฮฺทรงทำให้คัมภีร์ของพระองค์ และซุนนะฮฺของนบีของพระองค์ ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะอาลิฮีวะซัลลัม ด้วยกับความเข้าใจของบรรดาศ่อฮาบะฮฺของนบีของพระองค์ และของบรรดาบุคคลที่ดำเนินตามพวกท่านอย่างดีเยี่ยม ที่มีต่อคัมภีร์ของพระองค์และต่อซุนนะฮฺของนบีของพระองค์ เป็นที่เพียงพออย่างสมบูรณ์แล้วสำหรับพวกเรา โดยที่พวกเราไม่ต้องไปอาศัยแนวคิดและมุมมองอื่นใดอีก และพวกเราก็ไม่ต้องไปพึ่งปรัชญา พึ่งกะลาม และไปพึ่งความสามารถในการพูดหรือแจกแจงความใดๆ อีกเลย
เพราะความจริงนั้น เป็นสิ่งที่ชัด ! เป็นสิ่งที่เด่น ! ไม่เป็นที่สับสน ! และเป็นสิ่งที่มีรัศมีเจิดจรัสอยู่บนนั้น ซึ่งอัลลอฮฺจะทรงนำผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ให้มุ่งเข้าหาความจริงนี้
ขออัลลอฮฺโปรดทรงนำพวกเราและบรรดามุสลิมทุกคน สู่ความจริงที่เป็นของจริงด้วยการดำเนินตามทางอันเที่ยงตรงของพระองค์ด้วยเถิด... "
รายงานจากท่านอบี สอี๊ด อัลคุดรียฺร่อฎิยัลลอฮุอันฮฺว่า : ท่านร่อซู้ล ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า :
“ท่านทั้งหลายจะติดตามแนวทางของบุคคลก่อนหน้าพวกท่านทีละคืบทีละศอก (คล้อยตามพวกยิวและคริสต์ในการฝ่าฝืนบทบัญญัติโดยแทบไม่รู้ตัว) จนกระทั่งว่า แม้พวกเขาจะล่วงเข้าไปในรู้แย้ ที่มันจะทลายลง พวกท่านก็ยังคงตามกันเข้าไป”
(บันทึกโดย อิมามอัลบุคอรีย์และอิมามมุสลิม)
อิบนุ อุลัยยะฮฺ ผู้ลูก (อิบรอฮิม อิบนุ อิสมาอีล อิบนุ อิบรอฮีม อิบนุมุ้กซิม) พ่อของเขาอิสมาอีล (อิบนุอุลัยยะฮฺผู้พ่อ) เป็นนักวิชาการฮะดี้ษที่มีความแตกฉาน เชี่ยวชาญและเป็นที่ยอมรับ แต่ตัวของอิบนุอุลัยยะฮฺผู้ลูกกลับเป็นคนที่มีอะกีดะฮฺหลง และมีทรรศนะแปลกประหลาด ผ่าเหล่าในเรื่องของฟิกฮฺอยู่มากโข ถ้าใครมีโอกาสผ่านไปเจอทรรศนะของ อิบนุอุลัยยะฮฺ ผู้นี้ในตำราวิชาฟิกฮ ให้รู้ไว้ได้เลยว่า มันเป็นทรรศนะที่ผ่าเหล่าไม่ต้องไปใส่ใจ
ท่านอั้ซซะฮะบีย์พูดถึงเขาคนนี้ไว้ว่า
ولابن علية ابن آخر ، جهمي شيطان ، اسمه إبراهيم بن إسماعيل ، كان يقول بخلق القرآن ، ويناظر
อิบนุอุลัยยะฮฺ(ผู้พ่อ)นั้น มีลูกอยู่อีกคนหนึ่ง, เป็นพวกญะฮฺมี่ย์ เป็นชัยตอน, ลูกคนนี้มีชื่อว่า อิบรอฮีม อิบนุ อิสมาอีล, เขาบอกว่า อั่ลกุรอ่านคือสิ่งถูกสร้างแถมยังออกมาเถียงเพื่อปกป้องความคิดนี้อีกด้วย
การที่อิบนุอุลัยยะฮฺผู้ลูกคนนี้ กลายมาเป็นคนที่มีอะกีดะฮฺหลงและมีทรรศนะประหลาดๆ สาเหตุหลักเป็นเพราะเขาไปนั่งร่วมและคบหาอยู่กับ อั้ลอะศอม อั้ลมัวะตะซิลี่ ซึ่งเป็นพวกบิ้ดอะฮฺ เขาก็เลยติดเชิ้อบิ้ดอะฮฺมาจากอั้ลอะศอม เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
1. เชื้อสายดีไม่ได้แปลว่าทุกคนที่อยู่ในเชื้อสายนั้นๆจะดีกันทั้งหมด หลายครั้งที่การเป็นลูกหลาน “ครู” ก็ไม่ได้ช่วยอะไรได้เลย
2. อย่าวางใจกับตัวเองนัก อย่าคิดว่าตัวเองจะไม่หลง
คงจะเข้าใจแล้วใช่มั้ยครับว่าทำไมบรรดาสลัฟถึงพยายามเตือนให้เราออกห่างจากพวกอุตริ,…ศาสนาเป็นของมีค่าที่สุดในชีวิตของเรา ดังนั้นอย่าทำเป็นเล่นกับเรื่องศาสนา และอย่าเอาศาสนาไปเสี่ยงเพียงเพราะเห็นแก่มิตรภาพและผลประโยชน์จอมปลอม
ท่านยูนุส อิบนุ อุบั้ยดฺ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮ บอกว่า :
"เมื่อผมเห็นเด็กวัยรุ่นสักคนตกลงไปอยู่ในทุกๆสภาพของความเสื่อมและความเลวทราม ผมก็ยังไม่รู้สึกหมดหวังว่าเด็กคนนั้นน่าจะกลับขึ้นมาดีได้อยู่
กระทั่งผมได้ไปเห็นว่าเขาไปคบกับเพื่อนที่เป็นพวกอุตรเปลี่ยนแปลงศาสนาเท่านั้นหละครับ ผมก็รู้เลยทันทีว่า เด็กคนนั้น พินาศ เสียแล้ว"
วั้ลลอฮุ้ลมุสตะอาน
