จงมอบหมาย และฝากความหวังเถิด
เพจวันละหนึ่งความคิด....แปลเรียบเรียง
- อัลอัลลามะฮ อัสสะอฺดีย์ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ-
"และเจ้าจงมอบความไว้วางใจแด่อัลลอฮฺเถิด และเพียงพอแล้วที่อัลลอฮฺทรงเป็นผู้รับการมอบหมาย"
(อัลอะฮฺซาบ : 3)
จงมอบหมายเรื่องราวต่างๆ ต่ออัลลอฮฺ พระองค์จะทรงบริหารจัดการในเรื่องราวต่างๆ เหล่านั้น ทรงจัดการในสิ่งที่ดีที่สุด เป็นประโยชน์สูงสุดสำหรับผู้เป็นบ่าว ทั้งนี้ เพราะพระองค์ทรงทราบดีถึงผลดีที่บ่าวจะได้รับ โดยที่บ่าวไม่อาจล่วงรู้ได้
และเพราะความปรีชาสามารถของพระองค์ในการที่พระองค์ จะทรงทำให้ผลประโยชน์เกิดขึ้นแก่บ่าว โดยที่บ่าวไม่ได้มีความสามารถใดๆ ที่จะทำให้มันเกิดขึ้นได้
และแท้จริง พระองค์อัลลอฮฺนั้น ทรงเอ็นดูเมตตาบ่าวของพระองค์ ยิ่งกว่าตัวของเขาเอง ยิ่งกว่าบิดามารดาของเขาเอง ทรงอ่อนโยนละมุนละม่อมต่อบ่าวยิ่งกว่าใครใดๆ ทั้งหมด
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับปวงบ่าวที่เป็นกลุ่มคนพิเศษสำหรับพระองค์ ปวงบ่าวที่พระองค์ทรงดูแลพวกเขาด้วยพระมหากรุณาจากพระองค์ ทรงห้อมล้อมพวกเขาด้วยสิริมงคลทั้งจากภายนอกและภายใน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระองค์ได้ทรงกำชับให้บ่าวปล่อยทิ้ง เรื่องราวของตนเองไว้กับพระองค์ และพระองค์ได้ทรงให้คำมั่นสัญญาเอาไว้ เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องถามถึงเรื่องใดๆ อีก
เพราะทุกเรื่องราว..จะคลี่คลายง่ายดาย
ทุกเรื่องยาก..มีทางสะดวก
ความขัดข้องใดๆ..ล้วนคล่องตัว
ความกลัดกลุ้มใดๆ..ล้วนจางหาย
จะอยู่ในสภาพใด เดือดร้อนเพียงใด..จะได้รับการช่วยเหลือแก้ไข
ความจำเริญ..จะหลั่งไหลลงมา
เภทภัย..ถูกปกป้องคุ้มกัน
และสิ่งไม่ดีทั้งหลายทั้งมวล.. จะถูกขจัดหายสิ้น
จะเห็นได้ว่า มีบ่าวผู้อ่อนแอที่เขามอบหมายเรื่องราวในชีวิต แก่ผู้เป็นนายของเขา แล้วเขาก็สามารถจัดการในหลายสิ่งหลายอย่างได้ ขณะที่คนส่วนใหญ่ไม่สามารถจะทำได้ เพราะเป็นไปได้ว่าอัลลอฮฺได้ทรงทำให้เรื่องราวเหล่านั้น เป็นที่ง่ายดายสำหรับเขา ขณะที่มันกลับเป็นเรื่องยากเย็นสำหรับคนมีฝีมืออีกหลายต่อหลายคน และด้วยกับอัลลอฮฺเท่านั้น ที่พระองค์ทรงเป็นผู้สนับสนุนช่วยเหลืออย่างแท้จริง
(ตัฟซีรซูเราะฮฺอัลอะฮฺซาบ อายะฮฺที่ 3 ตัยซีรุ้ล กะรีมิรเราะฮฺมาน 657-658)
- อัลอัลลามะฮฺ อัสสะอฺดียฺ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ –
ผู้เป็นบ่าว สมควรจะฝากความหวังของเขาไว้กับอัลลอฮฺเพียงองค์เดียวเท่านั้น
แท้จริง เมื่ออัลลอฮฺทรงกำหนดสาเหตุหนึ่งสาเหตุใด ในการได้มาซึ่งริสกีและความสุขสบายของบ่าวผู้นั้นแล้ว
สมควรที่เขาจะต้องสรรเสริญพระองค์และวอนขอต่อพระองค์ ให้ประทานความจำเริญในสิ่งๆ นั้นแก่เขา
และหากว่าเหตุแห่งริสกีมีอันต้องขาดตอนหรือติดขัด ก็อย่าได้ขุ่นข้องหมองใจ
เพราะเหตุแห่งริสกีนี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งจากอีกหลายเหตุปัจจัย ที่ไม่อาจคำนวนนับได้
และริสกีของผู้เป็นบ่าวจะไม่ขาดตอนลง ด้วยกับสาเหตุเฉพาะเจาะจงในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง
ยิ่งไปกว่านั้นเหตุแห่งริสกีจากหนทางอื่นๆ จะถูกเปิดกว้างสำหรับเขา
ซึ่งมันย่อมดีกว่าและมีคุณค่ามากกว่าหนทางเดิม (ที่เขาเคยได้รับ)
หรือบางทีเขาอาจจะได้รับริสกีจากหนทางอื่นๆ อีกมากมาย
ดังนั้น ในสภาพทั้งหมดทั้งมวลนี้ เขาจึงจำเป็นต้องคิดต่ออัลลอฮฺในแง่ดี
และหวังปรารถนาต่อพระองค์ วิงวอนขอต่อพระองค์ให้มาก
พร้อมๆ กับหวัง (ว่าพระองค์จะทรงตอบรับคำวิงวอนของเขา)
เพราะแท้จริง อัลลอฮฺได้ตรัสไว้ผ่านคำพูดของนบีของพระองค์ว่า
أنا عند ظن عبدي بي ، فإن ظن بي خيرا فله ، وإن ظن بي شرا فله
“ ข้าอยู่ ณ ความคิดคำนึงของบ่าวของข้ามีต่อที่ข้า หากเขาคิดกับข้าในแง่ดี เขาก็จะได้รับสิ่งดี
และหากเขาคิดกับข้าในแง่ลบ เขาก็จะได้รับในสิ่งไม่ดี”
« إنك ما دعوتني ورجوتني غفرت لك على ما كان منك ولا أبالي »
“แท้จริง ตราบใดที่เจ้าวอนขอต่อข้าและหวังต่อข้า ข้าย่อมยกโทษให้เจ้าในสิ่งที่เจ้าได้เคยทำ
และข้าไม่ได้ใส่ใจเลย (ว่ามันจะมากมาย หนักหนาเพียงใด)”
(ตัยซีรุ้ลละฏีฟิลมันนาน ลิสสะอฺดีย์ 1/144)
-อิมาม อิบนิ้ล ก็อยยิม อัลเญาซียะฮฺ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ -
ตราบใดที่บ่าวคิดดีต่ออัลลอฮฺ มีความหวังในสิ่งที่อยู่กับพระองค์
และมอบหมายต่อพระองค์อย่างจริงใจแล้วละก็ แน่นอน อัลลอฮฺจะไม่ทรงทำให้เขาผิดหวังเป็นอันขาด
๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙