ชวนกันทำความดี ห้ามกันละความชั่ว
เรียบเรียง... อบู อัรวา
บ่าวของอัลลอฮฺทั้งหลาย , ฉันได้บอกกล่าวแก่พวกท่านในสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่าหนทางแห่งชัยชนะและความสำเร็จทั้งในดุนยาและอาคีเราะฮฺนั้น คือการกำชับกันในเรื่องราวที่เป็นความดีและการห้ามปรามกันจากเรื่องที่เสื่อมเสีย , และเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับมุอฺมินที่จะต้องถ่ายทอดเรื่องราวเหล่านี้สู่ลูกหลานในยุคถัดๆ ไป , และผู้ที่กำชับในเรื่องความดีและผู้ที่ห้ามปรามจากการทำชั่วนั้นจะต้องไม่เป็นผู้ที่ถูกตัดขาดจากผู้คน เพื่อที่เราจะได้พิจารณาถึงประชาชาติในยุคก่อน
อัลลอฮ์ ตรัสความว่า
“พวกเจ้านั้นเป็นประชาชาติที่ดียิ่ง ซึ่งถูกให้อุบัติขึ้นสำหรับมนุษยชาติ โดยที่พวกเจ้าใช้ให้ปฏิบัติสิ่งที่ชอบ
และมิให้ปฏิบัติสิ่งที่มิชอบ และศรัทธาต่ออัลลอฮ์”
(อะลาอิมรอน : 110)
พี่น้องผู้ร่วมศรัทธาทั้งหลาย พระผู้เป็นเจ้าของเราได้ทรงบอกแก่พวกเราถึงบนีอิสรออีลในอัลกุรอ่าน ว่าพวกเขาได้ถูกสาปแช่ง อันเนื่องจากสาเหตุที่ละทิ้งการสั่งใช้กันในเรื่องความดีและห้ามปรามสิ่งที่เป็นความชั่ว ,
อัลลอฮฺตรัสว่า
{لُعِنَ الَّذِينَ كَفَرُواْ مِن بَنِي إِسْرَائِيلَ عَلَى لِسَانِ دَاوُودَ وَعِيسَى ابْنِ مَرْيَمَ ذَلِكَ بِمَا عَصَوا وَّكَانُواْ يَعْتَدُون}.
“บรรดาผู้ที่ปฏิเสธศรัทธาในหมู่วงศ์วานอิสรออีลนั้น ได้ถูกสาปด้วยถ้อยคำของดาวูดและอีซาบุตรของมัรฺยัม
นั่นก็เนื่องจากการที่พวกเขาฝ่าฝืน และที่พวกเขาเคยละเมิดกัน”
อัลลอฮฺ มิทรงบอกเล่าแก่พวกเรานอกเสียจากว่า เพื่อที่พวกเราจะได้ใคร่ครวญเรื่องราวของพวกเขา , และออกห่างไกลจากแนวทางที่พวกเขาดำเนินไป , และนี่คือสิ่งที่จำเป็นแก่ประชาชาติที่ต่างก็จะต้องตักเตือนกันและกัน , เพราะวันนี้เราได้เห็นบางคนหรือบางกลุ่มชนได้ดำเนินตามบุคคลที่ไม่ใช่มุสลิมในเรื่องราวต่างๆ มากมาย
สิ่งที่ท่านนบี ซ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวเอาไว้แล้วได้เกิดขึ้นในหมู่พวกเขา จากท่าน อบี สะอี๊ด อัลคุ๊ดรี่ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ
(لَتَتَّبِعُنَّ سَنَنَ الَّذِينَ مِنْ قَبْلِكُمْ شِبْرًا بِشِبْرٍ وَذِرَاعًا بِذِرَاعٍ، حَتَّى لَوْ دَخَلُوا فِي جُحْرِ ضَبٍّ لَاتَّبَعْتُمُوهُمْ، قُلْنَا: يَا رَسُولَ الله آلْيَهُودَ وَالنَّصَارَى؟ قَالَ: فَمَنْ)؟
“ต่อไปพวกท่านจะปฏิบัติตามแนวทางของผู้ที่มาก่อนพวกท่านทีละคืบ ทีละศอก
แม้กระทั่งพวกเขาเข้าไปในรูแย้ แน่แท้พวกท่านก็จะตามพวกเขาเข้าไป
พวกเราได้ถามท่านเราะซูลว่า โอ้ท่านเราะซูลุ้ลลอฮฺ ยิวและคริส เตียนใช่ใหม ?
ท่านร่อซู้ลตอบว่า “แล้วจะมีใครอีกเล่า”
(บันทึกโดยอิหม่ามมุสลิม)
เพื่อที่พวกเราจะได้ระแวดระวังจากแนวทางเหล่านั้นและไม่ไปสู่สิ่งที่พวกเขาได้ไปถึง , และแท้จริงท่านนบี ซ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ได้แจกแจงแก่พวกเราถึงจุดเริ่มต้นของหนทางที่บรรดาบนีอิสรออีลกระทำ จนกระทั่งประสบกับการสาปและการขับไล่ให้พ้นไปจากความเมตตาของอัลลอฮฺ
อบูดาวู๊ด ได้บันทึกใน สุหนั่น ของท่าน จากท่านอับดุลลอฮฺ บิน มัสอู๊ด ร่อฏิฯ เล่าว่า ท่านร่อซูลุ้ลลอฮฺ ซ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
(إِنَّ أَوَّلَ مَا دَخَلَ النَّقْصُ عَلَى بَنِي إِسْرَائِيلَ، كَانَ الرَّجُلُ يَلْقَى الرَّجُلَ فَيَقُولُ: يَا هَذَا اتَّقِ الله وَدَعْ مَا تَصْنَعُ فَإِنَّهُ لَا يَحِلُّ لَكَ، ثُمَّ يَلْقَاهُ مِنْ الْغَدِ فَلَا يَمْنَعُهُ ذَلِكَ أَنْ يَكُونَ أَكِيلَهُ وَشَرِيبَهُ وَقَعِيدَهُ، فَلَمَّا فَعَلُوا ذَلِكَ ضَرَبَ الله قُلُوبَ بَعْضِهِمْ بِبَعْضٍ ثُمَّ قَالَ: { لُعِنَ الَّذِينَ كَفَرُوا مِنْ بَنِي إِسْرَائِيلَ عَلَى لِسَانِ دَاوُدَ وَعِيسَى ابْنِ مَرْيَمَ إِلَى قَوْلِهِ فَاسِقُونَ}.
“เเท้จริงเเล้ว สิ่งเเรกที่ได้ทำให้ลูกหลานของอิสรออีลเกิดความบกพร่อง(ในศาสนา) นั่นก็มาจากการที่มีผู้ชายคนหนึ่งได้กล่าว(เตือน)ต่อผู้ชายอีกคนหนึ่งว่า
"โอ้ท่าน จงยำเกรงต่ออัลลอฮ เเละโปรดละทิ้งในสิ่งที่ท่านกระทำนี้ เพราะมันเป็นสิ่งที่ไม่อนุมัติเเก่ท่าน
จากนั้น เขาก็ได้มาเจอกับคนนั้นอีกในวันรุ่งขึ้น เขาก็ละทิ้งการห้ามปราม อันเนื่องมาจากการเขาได้กลายมาเป็นเพื่อนในวงรับประทานอาหารเเละเครื่องดื่มด้วยกับเขาผู้นั้น
เเละเมื่อพวกเขาเป็นเยี่ยงนั้น พระองค์อัลลอฮจึงได้ปิดหัวใจของพวกเขาให้มืดบอดด้วยกัน (จนผสมผสานกันระหว่างความดีเเละความชั่ว)”
จากนั้นท่านก็อ่านโองการที่ว่า "บรรดาผู้ที่ปฏิเสธศรัทธาในหมู่วงศ์วานอิสรออีลนั้นได้ถูกสาปโดยถ้อยคำของดาวูด และอีซาบุตรของมัรยัม จนกระทั่งถึงคำพูดของอัลลอฮที่ว่า ( فاسقون )
พี่น้องที่มีเกียรติทั้งหลาย เราจะต้องให้ความสำคัญกับการสั่งใช้ในเรื่องความดี และห้ามปรามจากการทำผิด , และเมื่อบ่าวยังคงดื้อดึงที่จะกระทำผิดก็เป็นที่ต้องห้ามที่พวกเราจะนั่งร่วมอยู่กับเขาในที่ชุมนุมนั้น , เพราะการคงอยู่ในสถานที่ชุมนุมที่มีการกระทำผิด นั่นคือการยอมรับ (เห็นพ้อง) กับความผิดนั้นด้วย , และใครที่กระทำเช่นนั้นเท่ากับเขาได้เสนอตัวของเขาเองให้ได้รับความกริ้วโกรธจากอัลลอฮฺ ,
แท้จริงอัลลอฮฺทรงทำให้หัวใจของผู้ที่ไม่ฝ่าฝืนในหมู่วงศ์วานอิสรออีลดำมืด เนื่องจากความชั่วร้ายของผู้ที่ฝ่าฝืนในหมู่พวกเขา กระทั้งหัวใจของพวกเขาทั้งหมดทุกคนแข็งกระด้าง ห่างไกลจากการตอบรับสัจธรรมและความดี หรือความเมตตา เนื่องจากเหตุแห่งการฝ่าฝืนและการปะปนกัน และพวกเขาบางคนถูกสาป และแน่แท้ พวกเรากลัวว่า พวกเราจะไปถึงจุดที่วงศ์วานอิสรออีลไปถึง , เพราะวันนี้เราได้เห็นแล้วว่าบรรดาหัวใจได้ถูกทำให้ดำมืดและห่างไกลจากสัจธรรมความดี
ولا حول ولا قوة إلا بالله العلي العظيم {وَاتَّقُواْ فِتْنَةً لاَّ تُصِيبَنَّ الَّذِينَ ظَلَمُواْ مِنكُمْ خَاصَّةً}:
“และพวกเจ้าจงระวังการลงโทษ (ฟิตนะห์) ซึ่งมันจะไม่ประสบแก่บรรดาผู้อธรรม ในหมู่พวกเจ้าโดยเฉพาะเท่านั้น"
พี่น้องที่มีเกียรติทั้งหลาย แท้จริงอัลลอฮฺทรงให้มีแก่พวกเราซึ่งแนวทางต่างๆ ในการดำเนินชีวิต และทรงแจกแจงแก่พวกเราในอัลกุรอ่าน , และจากแนวทางเหล่านั้นคือ คำดำรัสของพระองค์
{وَاتَّقُواْ فِتْنَةً لاَّ تُصِيبَنَّ الَّذِينَ ظَلَمُواْ مِنكُمْ خَاصَّةً وَاعْلَمُواْ أَنَّ الله شَدِيدُ الْعِقَاب}.
“และพวกเจ้าจงระวังการลงโทษ (ฟิตนะห์) ซึ่งมันจะไม่ประสบแก่บรรดาผู้อธรรม ในหมู่พวกเจ้าโดยเฉพาะเท่านั้น"
เราจะต้องติดตามผู้ฝ่าฝืนด้วยการสั่งใช้ให้ทำดีและห้ามปรามจากการทำผิด , เราจะต้องติดตามผู้ที่อธรรมต่อตัวเขาเองและอธรรมต่อผู้อื่น และยับยั้งการกระทำของเขา เพราะเกรงว่าผลพวงที่ตามมาจากการอธรรมและการฝ่าฝืนของเขาจะมาประสบกับเราด้วย , และนี่คือสิ่งที่ท่านนบี ซ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ได้ให้คำแนะนำไว้ ด้วยคำกล่าวของท่าน จากท่าน อนัส ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ ที่ว่า
(انْصُرْ أَخَاكَ ظَالِماً أَوْ مَظْلُوماً، فقَالَ رَجُلٌ: يَا رسول الله أَنْصرهُ إِذَا كَانَ مَظلُوماً أَرَأَيْتَ إِنْ كَانَ ظَالِماً كَيْفَ أَنْصُرُهُ ؟ قال: تَحْجُزُهُ أَوْ تَمْنعُهُ مِنَ الظُّلْمِ فَإِنَّ ذلِك نَصْرُهْ)
“ท่านจงช่วยเหลือพี่น้องของท่านทั้งในสภาพที่เขาอธรรมต่อผู้อื่น หรือในสภาพที่เขาถูกอธรรม”
มีคนถามว่า แล้วฉันจะช่วยเหลือเขาได้อย่างไรหากเขาเป็นผู้อธรรม
ท่านนบีจึงตอบว่า “ท่านจงห้ามการอธรรมของเขา นั่นคือการช่วยเหลือเขา”
(บันทึกโดยอิหม่าม อัลบุคอรีย์ )
เพราะอะไรจึงจำเป็นที่เราจะต้องยับยั้งการกระทำของผู้อธรรม ? ก็เพื่อมิให้ผลพวงที่ตามมาของมันมาประสบกับเรา , เพราะพระเจ้าของเรา พระองค์มิทรงละเลยต่อผู้ที่อธรรม
{وَلاَ تَحْسَبَنَّ الله غَافِلاً عَمَّا يَعْمَلُ الظَّالِمُونَ إِنَّمَا يُؤَخِّرُهُمْ لِيَوْمٍ تَشْخَصُ فِيهِ الأَبْصَار}
“และเจ้าอย่าคิดว่าอัลลอฮ์ทรงละเลยต่อสิ่งที่พวกอธรรมปฏิบัติ
แท้จริงพระองค์ทรงประวิงเวลาให้พวกเขา จนถึงวันที่สายตาเงยจ้องไม่กระพริบ (วันกิยามะฮ์)”
และใครก็ตามที่นิ่งเฉยต่อผู้ที่อธรรม ทั้ง ๆ ที่เขามีความสามารถที่จะตอบโต้และห้ามปราม เขาก็จะประสบกับบางเรื่องราวที่จะประสบกับผู้อธรรม -ขออัลลอฮ์ทรงให้ห่างไกลด้วยเถิด- ดังที่อัลลออฮ์ ตรัสว่า
{وَاتَّقُواْ فِتْنَةً لاَّ تُصِيبَنَّ الَّذِينَ ظَلَمُواْ مِنكُمْ خَاصَّةً وَاعْلَمُواْ أَنَّ الله شَدِيدُ الْعِقَاب}
“และพวกเจ้าจงระวังการลงโทษ ซึ่งมันจะไม่ประสบแก่บรรดาผู้อธรรมในหมู่พวกเจ้าโดยเฉพาะเท่านั้น
และพึงรู้เถิดว่า แท้จริงอัลลอฮฺนั้นเป็นผู้รุนแรงในการลงโทษ”
การเปรียบเทียบอันลึกซึ้ง สำหรับทุกผู้ที่มีปัญญา
บ่าวของอัลลอฮฺทั้งหลาย ท่านนบี ซ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ได้ยกอุปมาอันลึกซึ้งที่บ่งว่าจะต้องสั่งใช้ในเรื่องความดีและห้ามปรามจากความชั่วเพื่อที่พวกเราจะไม่ประสบความหายนะไปพร้อมกับบรรดาผู้ที่ประสบกับความหายนะทั้งหลาย
อิหม่ามบุคอรียฺ ได้บันทึก จากท่าน อันนุอฺมาน บิน บะชีร ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ จากท่านนบี ซ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
(مَثَلُ القَائِمِ في حُدودِ الله، والْوَاقِعِ فيها كَمَثَلِ قَومٍ اسْتَهَمُوا على سفينةٍ فصارَ بعضُهم أعلاهَا وبعضُهم أسفلَها وكانَ الذينَ في أسفلها إِذَا اسْتَقَوْا مِنَ الماءِ مَرُّوا عَلَى مَنْ فَوْقَهُمْ فَقَالُوا: لَوْ أَنَّا خَرَقْنَا في نَصَيبِنا خَرْقاً وَلَمْ نُؤْذِ مَنْ فَوْقَنَا، فَإِنْ تَرَكُوهُمْ وَمَا أَرادُوا هَلكُوا جَمِيعاً، وإِنْ أَخَذُوا عَلَى أَيْدِيهِم نَجوْا ونجوْا جَمِيعاً).
“อุปมาผู้ที่ยืนหยัดอยู่บนกฎเกณฑ์ของอัลลอฮฺ และผู้ที่ได้ตกอยู่ในการฝ่าฝืนมัน(ตกอยู่ในการฝ่าฝืนกฎของอัลลอฮฺ)อุปมัยดังเช่น กลุ่มชนหนึ่ง พวกเขาได้มีการจับฉลากกันบนเรือลำหนึ่ง
แล้วส่วนหนึ่งของพวกเขา ได้อยู่ชั้นบนของเรือ และอีกส่วนหนึ่งของพวกเขาได้อยู่ชั้นล่างของเรือลำนั้น แล้วบรรดาผู้ที่อยู่ในชั้นล่างของเรือ เมื่อพวกเขาต้องการดื่มน้ำ พวกต้องเดินผ่านผู้ที่อยู่ด้านบนของพวกเขา
ดังนั้นพวกเขา (กลุ่มที่อยู่ชั้นล่าง)จึงกล่าวว่า “ถ้าพวกเราเจาะรูสักรูหนึ่งในส่วนของพวกเรา(เพื่อจะเอาน้ำ) และพวกเราก็จะไม่ทำความเดือดร้อนแก่ผู้ที่อยู่ข้างบนพวกเรา
ดังนั้น หากพวกเขา(พวกที่อยู่ชั้นบน)ปล่อยให้พวกเขา(กลุ่มที่อยู่ชั้นล่างของเรือ)ทำตามความต้องการของพวกเขา แน่นอนพวกเขาทั้งหมด ก็จะประสบกับความวิบัติ(ด้วยการจมน้ำ)
และถ้าหากพวกเขายับยั้งพวกด้านล่างไว้(ไม่ให้เจาะท้องเรือ) แน่นอน พวกเขาจะปลอดภัยและพวกเขา(ทั้งสองกลุ่ม)จะปลอดภัยกันทั้งหมด”
และจากฮาดีษบทนี้ พี่น้องผู้มีเกียรติทั้งหลาย เราจะต้องรู้ว่า เป็นเรื่องจำเป็นสำหรับพวกเรา การสั่งใช้ในเรื่องความดีและห้ามปรามจากความชั่ว ,ไม่เช่นนั้นแล้ว -ขออัลลอฮฺโปรดทรงอย่าให้เกิดขึ้น- เราจะประสบกับความหายนะดังที่ผู้ฝ่าฝืนประสบ , ด้วยเหตุนี้เอง ท่านร่อซู้ล ซ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม จึงให้เป็นวายิบเหนือพวกเราในการสั่งใช้ในเรื่องความดีและห้ามปรามจากความชั่ว ด้วยคำกล่าวของท่านนบีมุฮัมมัด ซ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม จากท่านอบี สะอี๊ด อัลคุดรี่ยฺ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ
(منْ رَأَى مِنْكُم مُنْكراً فَلْيغيِّرْهُ بِيَدهِ، فَإِنْ لَمْ يَسْتَطعْ فبِلِسَانِهِ، فَإِنْ لَمْ يَسْتَطِعْ فَبقَلبهِ وَذَلَكَ أَضْعَفُ الإِيمانِ)
“ใครก็ตามในหมู่พวกท่านพบเห็นความชั่วอันใดอันหนึ่ง เขาก็จงเปลี่ยนแปลงมันด้วยมือของเขา
หากเขาไม่มีความสามารถก็จงเปลี่ยนแปลงด้วยลิ้น (ด้วยคำพูดหรือการตักเตือน) ของเขา
หากเขาไม่มีความสามารถก็จงเปลี่ยนแปลงด้วยใจ (ปฏิเสธด้วยใจ) ของเขา และนั่นคือการศรัทธาที่อ่อนที่สุด”
(บันทึกโดยอิหม่ามมุสลิม)
พี่น้องทั้งหลาย อย่าได้หลงเชื่อ คำกล่าวของบรรดาผู้ที่ฝ่าฝืน เมื่อพวกเขาต่างกล่าวว่า พวกเรามีเสรีภาพ , และพวกท่านก็มิได้ถูกสอบสวนในเรื่องราวของพวกเรา ใช่แล้ว เราจะไม่ถูกสอบสวนในเรื่องของพวกเขา , แต่พวกเขาก็มิได้มีเสรีภาพ (โดยไร้ซึ่งขอบเขต) ตราบใดที่เรายังคงอาศัยอยู่ร่วมกัน , เพราะการฝ่าฝืนของพวกเขาอย่างเปิดเผยเวลากลางวันนั้น จะนำพาซึ่งเคราะห์กรรม และโรคระบาด มาสู่ประชาชาติทั้งหมด
พี่น้องผู้มีเกียรติทั้งหลาย จงสั่งใช้กันในเรื่องความดีและห้ามปรามจากความชั่ว , อย่างน้อยที่สุดที่จะทำได้ คือการไม่นั่งร่วมอยู่กับบรรดาผู้ประพฤติผิด ผู้ที่ฝ่าฝืน และโปรดแสดงออกต่ออัลลอฮฺซึ่งการไม่เห็นด้วยกับการฝ่าฝืนเหล่านั้น และจงกล่าวเถิด ว่า
โอ้อัลลอฮฺ แท้จริงการฝ่าฝืนเหล่านี้ เรามิได้ยินดีกับมันแต่เราไม่มีความสามารถที่จะขจัดมันได้
https://www.naasan.net/index.php?page=YXJ0aWNsZQ==&op=ZGlzcGxheV9hcnRpY2xlX2RldGFpbHNfdQ==&article_id=NTA0&lan=YXI=