ความต้องการของมนุษยชาติต่อศาสนาอิสลาม
โดย...ศูนย์แนะนำรู้จักอิสลาม
ท่านได้ถามตัวเองบ้างไหมโอ้มนุษย์เอ๋ยว่า ใครคือผู้สร้างท่าน? และเพราะเหตุใดที่ท่านถูกสร้างมา? และเพราะเหตุใดที่ท่านได้เกิดมามีชีวิตอยู่บนโลกนี้?
แท้จริงผู้ทรงสร้างท่านนั้นคืออัลลอฮ์ ไม่ใช่สิ่งอื่นใด ไม่ใช่วัตถุ ไม่ใช่ก้อนหิน ไม่ใช่ต้นไม้ ไม่ใช่วัว ไม่ใช่พระเยซู และไม่ใช่ธรรมชาติ และท่านก็ไม่สามารถสร้างตัวท่านเองได้เช่นกัน
อัลลอฮ์ตรัสว่า
" أَمْ خُلِقُوا مِنْ غَيْرِ شَيْءٍ أَمْ هُمُ الْخَالِقُونَ * أَمْ خَلَقُوا السَّمَاوَاتِ وَالْأَرْضَ بَلْ لَا يُوقِنُونَ "
"หรือว่าพวกเขาถูกบังเกิดมาโดยไม่มีผู้ให้บังเกิด หรือว่าพวกเขาเป็นผู้ให้บังเกิดตนเอง
หรือว่าพวกเขาเป็นผู้สร้างชั้นฟ้าทั้งหลาย และแผ่นดินนี้ เปล่าเลย เพราะพวกเขาไม่เชื่อมั่นต่างหาก"
(อัลกุรอ่าน บท อัฏ-ฏูร 35-36)
เมื่อมันเป็นไปไม่ได้สำหรับพวกเขาที่จะเกิดมาโดยปราศจากการมีอยู่ของผู้สร้าง และมันก็เป็นไปไม่ได้เช่นเดียวกันที่พวกเขาจะสร้างพวกเขาขึ้นมาด้วยกับตัวของพวกเขาเอง ดังนั้น สิ่งที่ได้รับการยืนยันแล้วว่าแท้จริง อัลลอฮ์ คือพระเจ้าผู้ทรงสร้าง
มนุษย์หลายต่อหลายคนที่เพิกเฉยต่อข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความเชื่อเหล่านี้ที่ว่า แท้จริง (อัลลอฮ์) คือ พระเจ้าและพระผู้ทรงสร้างพวกเขา และพระองค์คือพระเจ้าของพวกเขา ที่พวกเขาจำเป็นจะต้องให้เอกภาพ(เคารพภักดี)ต่อพระองค์เพียงองค์เดียวเท่านั้น
แน่นอน อัลลอฮ์คือพระเจ้าผู้สร้างท่านและจัดสรรเครื่องยังชีพต่างๆให้แก่ท่าน เพื่อจะให้ท่านมีการเคารพภักดีต่อพระองค์เพียงองค์เดียวโดยไม่มีภาคีใดๆ ร่วมกับพระองค์ อัลลอฮ ได้ตรัสว่า
" وَمَا خَلَقْتُ الْجِنَّ وَالْإِنْسَ إِلَّا لِيَعْبُدُونِ * مَا أُرِيدُ مِنْهُمْ مِنْ رِزْقٍ وَمَا أُرِيدُ أَنْ يُطْعِمُونِ * إِنَّ اللَّهَ هُوَ الرَّزَّاقُ ذُو الْقُوَّةِ الْمَتِينُ "
"และข้ามิได้สร้างญิน(ผี) และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า
ข้าไม่ต้องการปัจจัยยังชีพจากพวกเขา และข้าก็ไม่ต้องการให้พวกเขาให้อาหารแก่ข้า
แท้จริงอัลลอฮ์ คือผู้ประทานปัจจัยยังชีพอันมากมาย ผู้ทรงพลัง ผู้ทรงมั่นคง "
(อัลกุรอ่าน บท อัซ-ซาริยาต 56-58)
เมื่อท่านมั่นใจแล้วว่าผู้ที่สร้างท่านคือ อัลลอฮ์ และพระองค์ทรงบัญชาให้ท่านนมัสการต่อพระองค์ หลังจากนั้น มันก็มีเหตุผลที่ท่านต้องการให้จะมีใครสักคนที่จะมาอธิบายให้ท่านถึงวิธีการนมัสการพระเจ้าของท่าน และจะทำให้พระองค์พอพระทัยต่อท่านได้อย่างไร ด้วยเหตุนี้ ที่อัลลอฮ์ทรงส่งศาสนทูตคนสุดท้ายมายังท่าน คือท่านนบีมูฮัมหมัด (ขออัลลอฮ์ทรงอำนวยพรและความศานติแด่ท่าน)
อัลลอฮ์ได้ตรัสว่า
" قُلْ يَاأَيُّهَا النَّاسُ إِنِّي رَسُولُ اللَّهِ إِلَيْكُمْ جَمِيعًا الَّذِي لَهُ مُلْكُ السَّمَاوَاتِ وَالْأَرْضِ لَا إِلَهَ إِلَّا هُوَ يُحْيِي وَيُمِيتُ فَآمِنُوا بِاللَّهِ وَرَسُولِهِ النَّبِيِّ الْأُمِّيِّ الَّذِي يُؤْمِنُ بِاللَّهِ وَكَلِمَاتِهِ وَاتَّبِعُوهُ لَعَلَّكُمْ تَهْتَدُونَ "
“จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ว่า โอ้มนุษย์ทั้งหลาย! แท้จริงฉันคือร่อซูลของอัลลอฮ์มายังพวกท่านทั้งมวล ซึ่งพระองค์นั้น คือผู้ที่อำนาจแห่งบรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดินเป็นของพระองค์ ไม่มีผู้ใดควรได้รับการเคารพสักการะ นอกจากพระองค์เท่านั้น ผู้ทรงให้เป็นและทรงให้ตาย
ดังนั้นพวกท่านจงศรัทธาต่ออัลลอฮ์และศาสนทูตของพระองค์เถิด ผู้เป็นนะบีที่เขียนอ่านไม่เป็น ซึ่งเขาศรัทธาต่ออัลลอฮ์และดำรัสทั้งหลายของพระองค์ และพวกเจ้าจงปฏิบัติตามเขาเถิด เพื่อว่าพวกเจ้าจะได้รับคำแนะนำ"
(อัลกุรอ่าน บท อัล-อะอ์ร้อฟ 158 )
แท้จริงมนุษย์ต่างมีความต้องการให้มีศาสนทูตที่เรียกร้องและเชิญชวนพวกเขาไปยังพระเจ้าของพวกเขาด้วยถ้อยคำที่ดี และด้วยกับจิตวิทยา ใช้วิทยปัญญาเพื่อไม่ให้พวกเขาต้องตะเพิดหนี อัลลอฮ์ตรัสว่า
" ادْعُ إِلَى سَبِيلِ رَبِّكَ بِالْحِكْمَةِ وَالْمَوْعِظَةِ الْحَسَنَةِ وَجَادِلْهُمْ بِالَّتِي هِيَ أَحْسَنُ "
"จงเรียกร้องสู่แนวทางแห่งพระเจ้าของสูเจ้าโดยสุขุม และการตักเตือนที่ดี และจงโต้แย้งพวกเขาด้วยสิ่งที่ดีกว่า"
(อัลกุรอ่าน บท อัน-นะห์ลฺ 125 )
แท้จริงท่านนบี(ศาสนทูต) คือ ผู้เผยแผ่ ผู้นำสารจากอัลลอฮ์ ผู้ซึ่งเป็นพระเจ้าแห่งสากลโลก ดังนั้น จึงไม่มีทางรู้ได้เลยว่าพระเจ้าทรงรักสิ่งใด และทรงเกลียดชังสิ่งใด เว้นแต่จะต้องมาจากแนวทางของศาสนทูตเท่านั้น ท่านศาสนทูตได้กล่าวว่า
" أَيُّهَا النَّاسُ لَيْسَ مِنْ شَيْءٍ يُقَرِّبُكُمْ إِلَى الْجَنَّةِ، وَيُبَاعِدُكُمْ مِنَ النَّارِ، إِلا قَدْ أَمَرْتُكُمْ بِهِ، وَلَيْسَ شَيْءٌ يُقَرِّبُكُمْ مِنَ النَّارِ، وَيُبَاعِدُكُمْ مِنَ الْجَنَّةِ إِلا قَدْ نَهَيْتُكُمْ عَنْهُ "
"โอ้มนุษย์ชาติทั้งหลาย ไม่มีสิ่งที่จะนำพวกท่านเข้าใกล้สวนสวรรค์ และทำให้พวกท่านห่างไกลจากไฟนรก เว้นแต่ฉันได้สั่งใช้ให้แก่พวกท่านไว้แล้ว
และไม่มีสิ่งใดที่จะนำพวกท่านเข้าใกล้ไฟนรก หรือทำให้พวกท่านห่างไกลจากสวรรค์ได้ เว้นแต่ว่าฉันได้เตือนห้ามพวกท่านไว้แล้ว"
แท้จริงมนุษย์เรานั้นจำเป็นจะต้องมีแนวทางในการดำเนินชีวิต และเพื่อพวกเขาจะได้จัดระเบียบวิถีชีวิตและการมีปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกันระหว่างพวกเขา และใครก็ตามที่พิจารณาถึงบทบัญญัติ ของศาสนทูตมูฮัมหมัด และสิ่งที่ปรากฏอยู่ในบทบัญญัติและคำสั่งสอนก็จะพบว่ามันเป็นความอัศจรรย์อย่างแท้จริง เพราะมีความครอบคลุมต่อประโยชน์ของปวงบ่าวทุกๆคนและสิ่งที่พวกเขาต้องการ และที่มันมีความละเอียด ความเมตตา และการฟื้นฟูพัฒนา
ตัวอย่างเช่น เรามาพิจารณาจากคำสอนของท่านนบีมูฮัมหมัดเกี่ยวกับความสัมพันธ์เพื่อนบ้านต่อเพื่อนบ้านของเขา :
คำสั่งเสียเกี่ยวกับเพื่อนบ้าน
ท่านนบีมูฮัมหมัด (ขออัลลอฮ์ทรงอำนวยพรและความศานติแด่ท่าน) ได้กล่าวว่า
"เทวทูตกราเบรีลยังคงสั่งเสียฉันในเรื่องของเพื่อนบ้านอยู่ตลอด จนกระทั้งฉันคิดว่าเขาจะให้เพื่อนบ้านรับมรดกกันได้”
(บันทึกโดยอัลบุคอรียฺและมุสลิม)
กำชับการให้เกียรติแก่เพื่อนบ้าน
ท่านนบีมูฮัมหมัดได้กล่าวว่า
" ผู้ใดที่ศรัทธาต่ออัลลอฮ์และวันปรโลก เขาก็จงให้เกียรติเพื่อนบ้านของเขา"
และท่านได้กล่าวว่า " และจงทำดีต่อเพื่อนบ้านของท่าน ท่านก็จะเป็นผู้ศรัทธา"
การห้ามทำร้ายต่อเพื่อนบ้าน
ท่านนบีมูฮัมหมัดได้กล่าวว่า “ผู้ใดศรัทธาต่ออัลลอฮ์และวันปรโลกเขาก็จงอย่าทำร้ายเพื่อนบ้านของเขา"
และท่านได้กล่าวว่า "ขอสาบานต่ออัลลอฮ์ เขายังไม่มีความศรัทธา ขอสาบานต่ออัลลอฮ์ ว่าเขายังไม่มีความศรัทธา ขอสาบานต่ออัลลอฮ์ ว่าเขายังไม่มีความศรัทธา“
มีคนถามว่า “และเขาเป็นผู้ใดกันหรือ โอ้ท่านศาสนทูตของอัลลอฮ์ ?
ท่านตอบว่า “ผู้ที่เพื่อนบ้านของเขาไม่ปลอดภัยจากความเลวร้ายของเขา"
การสอบถามข่าวคราวเขาและให้การช่วยเหลือต่อเขาถ้าเขามีความเดือนร้อน
ท่านนบีมูฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า
"เขายังไม่ศรัทธาต่อฉัน บุคคลใดที่เขานอนหลับด้วยกับท้องที่อิ่ม แต่เพื่อนบ้านของเขายังหิวโหยอยู่เคียงข้าง ทั้งๆ ที่เขารับรู้อยู่"
(โปรดพิจารณาดูสิ) ในกฎหมายทางโลกหรือระบบของมนุษย์มีการให้เกียรติต่อเพื่อนบ้านอย่างดีเฉกเช่นคำสั่งเสียของท่านนบีมูฮัมหมัด หรือไม่?
แท้จริงมนุษย์นั้นต้องการบุคคลประเภทเดียวกับพวกเขาเพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีแก่พวกเขา เพื่อพิจารณาดูการกระทำของเขา เพื่อพวกเขาจะนำมาปฏิบัติตามแบบอย่างของเขาในการทำความดี และส่งเสริมพวกเขาให้ทำความดี และศาสนทูตมูฮัมหมัด(ขออัลลอฮ์ทรงอำนวยพรและความศานติแด่ท่าน) เขาคือแบบฉบับที่ดีเลิศที่สุดสำหรับมนุษยชาติทุกยุคสมัย
อัลลอฮ์ตรัสว่า
" لَقَدْ كَانَ لَكُمْ فِي رَسُولِ اللَّهِ أُسْوَةٌ حَسَنَةٌ لِمَنْ كَانَ يَرْجُو اللَّهَ وَالْيَوْمَ الْآخِرَ وَذَكَرَ اللَّهَ كَثِيرًا "
"โดยแน่นอน ในตัวศาสนทูตของอัลลอฮ์ มีแบบฉบับอันดีงามสำหรับพวกเจ้าแล้ว สำหรับผู้ที่หวัง (จะพบ) อัลลอฮ์และวันปรโลก และรำลึกถึงอัลลอฮ์อย่างมาก "
(อัลกุรอ่าน บท อัล-อะห์ซาบ ( 21 )
และท่านร่อซูล(ศาสนทูตมูฮัมหมัด) (ขออัลลอฮ์ทรงอำนวยพรและความศานติแด่ท่าน) แม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่กับเราด้วยร่างกายของเขาก็ตาม แต่สิ่งเขาก็อยู่กับเราคือ(วจนะ)และคำสอนของท่าน และทางนำที่ดีที่สุดคือทางนำของท่านนบีมูฮัมหมัด(ขออัลลอฮ์ทรงอำนวยพรและความศานติแด่ท่าน) ดังนั้น จำเป็นที่ต้องกลับไปยังคำสั่งของท่าน และปฏิบัติตามทางนำอันทรงเกียรติของท่าน และแน่นอน ท่านนบีมูฮัมหมัดเป็นจุดสุดยอดของความโดดเด่นที่สูงส่งทางศีลธรรมสำหรับผู้ที่ต้องการปฏิบัติตาม
แน่นอน ท่านศาสนทูตมูฮัมหมัดทรงเป็นแบบอย่างของความซื่อสัตย์สุจริต และความเชื่อถือไว้วางใจ ความเอื้ออาทร ความกล้าหาญ การให้อภัย แม้มีความสามารถแก้แค้นได้ ความสุภาพเรียบร้อย(ละอาย)จากการทำบาป ความบริสุทธิ์จากสิ่งที่ไม่ดี ความอดทน ความสันโดษ ความสุขุม และมารยาทอันสูงส่งทั้งหมด และดังกล่าวนี้ ศัตรูของท่านได้ยืนยันสิ่งเหล่านี้ ก่อนบรรดาสาวกของท่าน
อัลลอฮ์ตรัสว่า
" وَإِنْ تُطِيعُوهُ تَهْتَدُوا وَمَا عَلَى الرَّسُولِ إِلَّا الْبَلَاغُ الْمُبِينُ "
"และหากพวกเจ้าเชื่อฟังปฏิบัติตามเขาแล้ว พวกเจ้าก็จะอยู่ในทางที่ถูกต้อง และหน้าที่ของอัลร่อซูล(ศาสนทูต)ไม่ใช่อื่นใด นอกจากการเผยแพร่อันชัดแจ้งเท่านั้น"
(อัลกุรอ่าน บท อัน-นูร 54 )
ที่มา : หนังสือ อิสลาม คืออะไร ?
เรียบเรียงโดย : คณาจารย์ศูนย์แนะนำรู้จักอิสลาม
