ถ้อย คำ ตัก เตือน
อุมมุอัฟว์ แปลเรียบเรียง
ท่านร่อซู้ล ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า :
" แท้จริง อัลลอฮฺ ทรงพอพระทัยที่จะให้มีขึ้นแก่พวกท่าน ในสามประการ และทรงรังเกียจ ไม่ชอบที่จะให้มีขึ้นแก่พวกท่าน ในสามประการ พระองค์ทรงพึงพอพระทัยที่จะให้พวกท่าน
♥ เคารพภักดีต่อพระองค์
♥ ไม่ตั้งสิ่งใดเป็นภาคีกับพรองค์
♥ และการที่พวกท่านยึดสายเชือกของอัลลอฮฺไว้โดยพร้อมเพียงกัน และไม่แตกแยกกัน
♦ และทรงรังเกียจที่จะให้มีขึ้นแก่พวกท่าน ซึ่งการพูดว่าคนนั้นว่าอย่างนั้น คนนี้ว่าอย่างนี้ (เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของคนอื่น สืบเสาะติดตามพฤติกรรมของผู้อื่น)
♦ ทรงรังเกียจการถามมาก
♦ และการทำให้ทรัพย์สินสูญค่า เสียหาย (ใช้จ่ายในสิ่งที่ไม่เหมาะสม ฟุ่มเฟือยสุรุ่ยสุร่าย หรือ ไม่ดูแลรักษาทรัพย์สินที่มี)
(บันทึกโดย อิมามมุสลิม)
อีกรายงานหนึ่งระบุว่า
- إن اللهَ يرضَى لكم ثلاثًا ويسخطُ لكم ثلاثًا يرضَى لكم أن تعبدوه ولا تُشرِكوا به شيئًا وأن تعتصموا بحبلِ اللهِ جميعًا ولا تفرَّقوا وأن تناصحوا مَن ولَّاه اللهُ أمرَكم
"แท้จริง อัลลอฮฺทรงพอพระทัยที่จะให้มีขึ้นแก่พวกท่านในสามประการ และทรงกริ้วที่จะให้มีขึ้นแก่พวกท่านในสามประการ
พระองค์ทรงพอพระทัย ที่พวกท่านเคารพอิบาดะฮฺต่อพระองค์ และไม่ตั้งสิ่งใดเป็นภาคีต่อพระองค์
(ทรงพอพระทัย) ในการที่พวกท่านยึดสายเชือกของอัลลอฮฺไว้ โดยพร้อมเพียงกันและไม่แตกแยกกัน
และ(ทรงพอพระทัย)ในการที่พวกท่านตักเตือน ผู้ที่อัลลอฮฺได้ทรงทำให้เขามีอำนาจปกครองพวกท่าน"
ท่านร่อซู้ล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า :
" โลกนี้จะยังไม่หมดสิ้นไป จนกว่ามันจะตกอยู่ในกำมือของคนชั่ว ลูกของคนชั่ว"
(มุสนัด อะฮฺมัด 16/284)
- เชคสุลัยมาน อัรรุฮัยลีย์ ฮะฟิศ่อฮุ้ลลอฮฺ -
ส่วนหนึ่งจากสิ่งที่ช่วยป้องกันมนุษย์ให้พ้นจากโรคร้ายต่างๆ ก็คือ
♣ การมอบหมายต่ออัลลอฮฺ และ ไม่เดินทางไปในที่ๆ มีโรคระบาด
♣ อ่านอายะฮฺกุรซีย์ทั้งในยามเช้าและยามเย็น
♣ ผู้ชายใส่ใจกับการไปละหมาดซุบฮิในญะมาอะฮฺที่มัสยิด
♣ ผู้หญิงก็ละหมาดซุบฮิในเวลา
♣ และการกล่าวดุอาอฺที่ว่า
وَهُوَ السَّمِيعُ الْعَلِيمُ بِسْمِ اللَّهِ الَّذِي لَا يَضُرُّ مَعَ اسْمِهِ شَيْءٌ فِي الْأَرْضِ وَلَا فِي السَّمَاءِ
“ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ซึ่งไม่มีสิ่งใดในแผ่นดินและฟากฟ้าที่จะก่อให้เกิดโทษเป็นภัยได้ พร้อมกับพระนามของพระองค์
(คือ กล่าวพระนามของอัลลอฮฺเมื่อใด้กระทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด) พระองค์คือ ผู้ทรงได้ยิน ผู้ทรงรอบรู้”
เป็นหน้าที่จำเป็นสำหรับบรรดามุสลิม ที่พำนักอยู่ในประเทศที่มีคำสั่งให้ปิดมัสยิด และยกเลิกการละหมาดวันศุกร์อันเนื่องมาจากมีความจำเป็น ในการที่ทุกคนจะต้องละหมาดศุฮฺริ ๔ ร็อกอะฮฺ ที่บ้านของตัวเอง ซึ่งสำหรับเขาแล้ว ย่อมได้รับผลบูญของการละหมาดวันศุกร์
ส่วนการเชื้อเชิญผู้คนให้มารวมตัวกันที่บ้านหนึ่งบ้านใด เพื่อที่จะได้ละหมาดวันศุกร์นั้น ไม่อนุญาตให้กระทำ เช่นเดียวกันกับการนำละหมาดวันศุกร์ให้กับคนในครอบครัว ก็ไม่อนุมัติเช่นกัน
ขออัลลอฮฺทรงปกปักษ์รักษาแผ่นดินและปวงบ่าวของพระองค์ และโปรดทรงขจัดภัยบะลาอฺนี้ให้หมดสิ้นไปด้วยเถิด
-เชค มุฮัมมัด สอี๊ด ร็อซลาน ฮะฟิศ่อฮุ้ลลอฮฺ-
ท่านร่อซู้ล ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า :
" หากท่านพบว่าอัลลอฮฺ ตะอาลา ได้ประทานสิ่งที่ผู้เป็นบ่าวปรารถนาในดุนยา ทั้งๆ ที่เขายังคงฝ่าฝืนต่อพระองค์แล้ว แท้ที่จริง มันคือการลงโทษอย่างเป็นลำดับ"
และท่านก็อ่านดำรัสของอัลลอฮฺ ตะอาลา ที่ว่า :
"ครั้นเมื่อพวกเขาลืมสิ่งที่พวกเขาถูกเตือนให้รำลึกในสิ่งนั้น เราก็เปิดให้แก่พวกเขาซึ่งบรรดาประตูของทุกสิ่ง
จนกระทั่งเมื่อพวกเขาระเริงต่อสิ่งที่พวกเขาได้รับ เราก็ลงโทษพวกเขาอย่างกะทันหัน แล้วทันใดนั้นพวกเขาก็หมดหวัง"
(อัล-อันอาม 44)
(บันทึกโดยอิมาม อะฮฺมัด อิมามอัลอัลบานีย์ ระบุว่า ศ่อเฮี๊ยะฮฺในอัศศ่อฮีฮะฮฺ 412)
คือ ได้รับเนี๊ยะมะฮฺมากมาย ทั้งๆ ที่ยังทำผิดอยู่ แต่พระองค์ก็ยังคงประทานให้ จนทำให้คนผู้นั้นหลงลืม การขอบคุณ และการขออภัยโทษ ต่อพระองค์ นึกคิดเองว่าสิ่งที่ตนได้รับเป็นความดี เป็นความโปรดปรานจากพระองค์ แต่ความจริงแล้ว คือ การประวิงเวลา และเก็บสะสมความผิดเอาไว้ สำหรับการลงทัณฑ์อันสาสม
ที่มา : http://goo.gl/jsLgEF
ผู้เป็นบ่าวสมควรต้องรู้ว่า เมื่อความทุกข์ยากมาประสบกับเขาอย่างต่อเนื่องเป็นเนืองนิจ สิ่งนี้จะไม่สามารถคลี่คลายหายไปได้ นอกจากด้วยกับการกลับเนื้อกลับตัว หวนคืนสู่ผู้ทรงเกียรติ ผู้ทรงปรานีเท่านั้น
และเมื่อความโปรดปราน (เนี้ยะมัต)ถูกประทานมาให้แก่บ่าวอย่างต่อเนื่อง ทั้งๆ ที่เขายังคงอยู่ในการทำผิดฝ่าฝืนต่อพระองค์ เขาก็จงระวังตัวเอาไว้ให้ดี เพราะแท้จริงแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ คือ "อัลอิสติดรอจญ์"(การประวิงเวลาในการเอาผิดไปเรื่อยๆเพื่อเพิ่มปริมาณในการลงโทษนั่นเอง)